นายชัย ชิดชอบ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นกรณีที่คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน มีมติให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ โดยขณะนี้ขอทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลอย่างดีที่สุด เนื่องจากยังไม่ทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งไม่ทราบกระแสข่าวว่าจะให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสลับกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ คนละครึ่งวาระด้วย
เช่นเดียวกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดของกระแสข่าวการสลับกันดำรงตำแหน่งคนละครึ่งวาระ แต่ยืนยันว่า ไม่รู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับการคัดเลือกจากพรรคให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะถือเป็นมติของกรรมการบริหารพรรค และตนเองก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะพร้อมปฏิบัติหน้าที่ไม่ว่าตำแหน่งใด นายสมศักดิ์ ยังเชื่อว่า ในการโหวตลงคะแนนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะไม่น่ามีปัญหาเกิดขึ้น
ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เห็นว่า แม้กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนจะมีมติเลือกนายชัย แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการบรรจุระเบียบวาระการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่า การเสนอชื่อผู้จะดำรงตำแหน่งประธานดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และในส่วนของฝ่ายค้านยืนยันจะเสนอชื่อบุคคลเข้าชิงตำแหน่ง เพื่อให้เห็นว่าบุคลากรของฝ่ายค้านมีความเหมาะสมมากกว่า อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า พรรคพลังประชาชนตัดสินใจบนพื้นฐานการยึดผลประโยชน์ของพวกพ้องมากกว่าความเหมาะสมของผู้ที่จะมาทำหน้าที่
เช่นเดียวกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดของกระแสข่าวการสลับกันดำรงตำแหน่งคนละครึ่งวาระ แต่ยืนยันว่า ไม่รู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับการคัดเลือกจากพรรคให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะถือเป็นมติของกรรมการบริหารพรรค และตนเองก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะพร้อมปฏิบัติหน้าที่ไม่ว่าตำแหน่งใด นายสมศักดิ์ ยังเชื่อว่า ในการโหวตลงคะแนนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะไม่น่ามีปัญหาเกิดขึ้น
ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เห็นว่า แม้กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนจะมีมติเลือกนายชัย แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการบรรจุระเบียบวาระการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่า การเสนอชื่อผู้จะดำรงตำแหน่งประธานดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และในส่วนของฝ่ายค้านยืนยันจะเสนอชื่อบุคคลเข้าชิงตำแหน่ง เพื่อให้เห็นว่าบุคลากรของฝ่ายค้านมีความเหมาะสมมากกว่า อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า พรรคพลังประชาชนตัดสินใจบนพื้นฐานการยึดผลประโยชน์ของพวกพ้องมากกว่าความเหมาะสมของผู้ที่จะมาทำหน้าที่