นายสัตวแพทย์ศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้กำหนดให้แต่ละจังหวัดจัดทำโครงการกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยง ครั้งที่ 3 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 เดือน ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ป้องกัน แก้ไข และเตรียมพร้อมรับปัญหาโรคไข้หวัดนกและการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่
ทั้งนี้ ไทยไม่มีรายงานการพบโรคไข้หวัดนกเป็นเวลาครบ 90 วัน จึงถือว่าประเทศไทยปลอดจากโรคไข้หวัดนกตามข้อกำหนดขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ หรือ OIE อีกทั้งขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศหลายพื้นที่มีฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพสัตว์ได้ ดังนั้น การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อจึงถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะป้องกันและกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในสิ่งแวดล้อม และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนกให้กับประชาชนและประเทศคู่ค้า
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้สั่งการให้แต่ละจังหวัดดำเนินการจัดประชุมซักซ้อมการดำเนินงานให้กับผู้ปฏิบัติงานก่อนเริ่มโครงการฯ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และเป็นไปแนวทางเดียวกัน โดยให้ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เน้นการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางเพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือจากประชาชน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเฉพาะพื้นที่ที่จะเป็นตามที่กำหนดไว้ในโครงการฯ เพื่อลดการตกค้างหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเน้นสถานที่เลี้ยงสัตว์ปีกหรือฟาร์มสัตว์ปีก รายย่อย สถานที่ฆ่าสัตว์ปีก และแหล่งที่พักอาศัยของนกธรรมชาติ
ทั้งนี้ ไทยไม่มีรายงานการพบโรคไข้หวัดนกเป็นเวลาครบ 90 วัน จึงถือว่าประเทศไทยปลอดจากโรคไข้หวัดนกตามข้อกำหนดขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ หรือ OIE อีกทั้งขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศหลายพื้นที่มีฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพสัตว์ได้ ดังนั้น การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อจึงถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะป้องกันและกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในสิ่งแวดล้อม และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนกให้กับประชาชนและประเทศคู่ค้า
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้สั่งการให้แต่ละจังหวัดดำเนินการจัดประชุมซักซ้อมการดำเนินงานให้กับผู้ปฏิบัติงานก่อนเริ่มโครงการฯ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และเป็นไปแนวทางเดียวกัน โดยให้ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เน้นการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางเพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือจากประชาชน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเฉพาะพื้นที่ที่จะเป็นตามที่กำหนดไว้ในโครงการฯ เพื่อลดการตกค้างหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเน้นสถานที่เลี้ยงสัตว์ปีกหรือฟาร์มสัตว์ปีก รายย่อย สถานที่ฆ่าสัตว์ปีก และแหล่งที่พักอาศัยของนกธรรมชาติ
