นายเหอ ชาง ชุย ผู้แทนองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ได้เข้าหารือกับนายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยแสดงความห่วงใยต่อวิกฤตอาหารโลก และเกรงว่าไทยจะไม่ส่งออกข้าว ทั้งนี้ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการกับประเทศไทย เพื่อนำไปขยายขีดความสามารถในการผลิตพืชอาหาร
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายระงับการส่งออกข้าว แต่มีแผนที่จะเพิ่มผลผลิตข้าวให้มากขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานทดแทน เพื่อรองรับความต้องการใช้ในประเทศและตลาดโลก และจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตพืชพลังงานทดแทน เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล โดยจะเร่งจัดทำแผนการผลิต และกำหนดโควต้าการผลิตพืชอาหารและพลังงาน ให้ตรงกับที่ตลาดต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะการขาดแคลนอาหาร
ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP ประจำเวียดนาม ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี ราคาข้าวในเอเชียปรับสูงขึ้นไปแล้ว 3 เท่าตัว ส่วนการเก็บสำรองข้าวของโลกปีนี้ลดต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี จึงส่งผลกระทบให้ราคาข้าวสูงขึ้น ส่วนหลังจากราคาข้าวพุ่งขึ้น ก็ปรากฏว่ามีข้าวหายไปตามห้างสรรพสินค้า และร้านค้าย่อย ในโฮจิมินห์ซิตี อย่างรวดเร็ว ขณะที่ชาวบ้านนับพันคนเข้าแถวรอซื้อข้าวสาร ทำให้รัฐบาลเวียดนามต้องออกมาประกาศว่ามีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ และจะลงโทษพวกที่กักตุนข้าว
ส่วนรัฐบาลมาเลเซียมีแผนอุดหนุนการปลูกข้าวในท้องถิ่น เพื่อปกป้องและคุ้มครองผู้บริโภคให้พ้นจากภาวะขาดแคลนข้าว เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ที่มีรายได้น้อยจะมีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภค
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายระงับการส่งออกข้าว แต่มีแผนที่จะเพิ่มผลผลิตข้าวให้มากขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานทดแทน เพื่อรองรับความต้องการใช้ในประเทศและตลาดโลก และจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตพืชพลังงานทดแทน เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล โดยจะเร่งจัดทำแผนการผลิต และกำหนดโควต้าการผลิตพืชอาหารและพลังงาน ให้ตรงกับที่ตลาดต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะการขาดแคลนอาหาร
ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP ประจำเวียดนาม ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี ราคาข้าวในเอเชียปรับสูงขึ้นไปแล้ว 3 เท่าตัว ส่วนการเก็บสำรองข้าวของโลกปีนี้ลดต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี จึงส่งผลกระทบให้ราคาข้าวสูงขึ้น ส่วนหลังจากราคาข้าวพุ่งขึ้น ก็ปรากฏว่ามีข้าวหายไปตามห้างสรรพสินค้า และร้านค้าย่อย ในโฮจิมินห์ซิตี อย่างรวดเร็ว ขณะที่ชาวบ้านนับพันคนเข้าแถวรอซื้อข้าวสาร ทำให้รัฐบาลเวียดนามต้องออกมาประกาศว่ามีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ และจะลงโทษพวกที่กักตุนข้าว
ส่วนรัฐบาลมาเลเซียมีแผนอุดหนุนการปลูกข้าวในท้องถิ่น เพื่อปกป้องและคุ้มครองผู้บริโภคให้พ้นจากภาวะขาดแคลนข้าว เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ที่มีรายได้น้อยจะมีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภค
