นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดสัมมนาการใช้กฎหมายแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยจากสถิติความรุนแรงในครอบครัว พบมีแนวโน้มสูงขึ้นถึงร้อยละ 74.37 ส่วนใหญ่เป็นการทะเลาะวิวาท พูดจาเหยียดหยามและด่าทอถ้อยคำหยาบคาย โดยร้อยละ 52.85 เป็นการใช้ความรุนแรงระหว่างพ่อแม่ ร้อยละ 12.1 พี่กับน้องและร้อยละ 11.74 พ่อกับลูกชาย
ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ไม่เหมือนกฎหมายอาญาทั่วไป เพราะมีระบบประณอมข้อพิพาทระหว่างคนในครอบครัว ให้สามารถยอมความกันได้ เว้นแต่ความรุนแรงกระทำจนสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต พร้อมมีกระบวนการเยียวยาผู้ใช้ความรุนแรงต้องถูกบำบัดรักษาทางจิตเวช และการสร้างกระบวนการช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรง
ทั้งนี้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว รวมทั้งกำหนดผลในเชิงยับยั้งพฤติกรรมกระทำความรุนแรงซ้ำ โดยพนักงานอัยการ ศาล ต้องวางเงื่อนไขไม่ให้ผู้กระทำความรุนแรงทำผิดซ้ำอีก นอกจากนี้กฎหมายยังกำหนดให้ผู้พบเห็นความรุนแรงในครอบครัว มีหน้าที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งความรุนแรงในครอบครัวเป็นประเด็นสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป
ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ไม่เหมือนกฎหมายอาญาทั่วไป เพราะมีระบบประณอมข้อพิพาทระหว่างคนในครอบครัว ให้สามารถยอมความกันได้ เว้นแต่ความรุนแรงกระทำจนสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต พร้อมมีกระบวนการเยียวยาผู้ใช้ความรุนแรงต้องถูกบำบัดรักษาทางจิตเวช และการสร้างกระบวนการช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรง
ทั้งนี้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว รวมทั้งกำหนดผลในเชิงยับยั้งพฤติกรรมกระทำความรุนแรงซ้ำ โดยพนักงานอัยการ ศาล ต้องวางเงื่อนไขไม่ให้ผู้กระทำความรุนแรงทำผิดซ้ำอีก นอกจากนี้กฎหมายยังกำหนดให้ผู้พบเห็นความรุนแรงในครอบครัว มีหน้าที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งความรุนแรงในครอบครัวเป็นประเด็นสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป
