นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า การครอบครองที่ดินของบริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม ซึ่งเป็นของครอบครัวนั้นถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการซื้อมาจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีจำนวน 81แปลง เนื้อที่ 2,020 ไร่ โดยการทำนิติกรรมที่เกี่ยวกับที่ดินทั้ง 81 แปลงนั้น อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2527-2532 โดยเริ่มตั้งแต่บริษัทไทย มาเลเซียนเกษตร จำกัด ซื้อจากเจ้าของเดิม และ พ.ศ 2533 ขายให้บริษัท สามพลปาล์ม จำกัด ต่อมามีการจำนองที่ดินทั้งหมดให้กับธนาคารกรุงไทย และ พ.ศ.2539 ธนาคารกรุงไทย จำกัด ฟ้องบังคับจำนอง หลังจากนั้น พ.ศ.2540 เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินทั้ง 81 แปลง จนส่งผลให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขายทอดตลาดในราคาประมาณ 21 ล้านบาท ซึ่งทำการขายเข้าตลาดทั้งหมด 7 ครั้ง โดยครั้งที่7 เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ.2547 โดย บริษัท ศรีสุบรรณ ฟาร์ม จำกัด เข้าประมูลซื้อได้ในราคา 33 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ได้มีการชำระค่าที่ดิน และโอนขายตามคำสั่งศาล และจดทะเบียนจำนองกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินนั้นมีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.ให้แก่เจ้าของที่ดิน พ.ศ.2528-2529 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์สอบสวนสิทธิ ดำเนินการตามขั้นตอนครบถ้วน ดังนั้น จึงถือว่าเป็นการครอบครองโดยชอบธรรมและถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย ทั้งนี้ ตนเองได้มอบหมายให้ทีมทนายดำเนินการรวบรวมเอกสารเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่กล่าวหา ทั้งทางแพ่งและอาญาแล้ว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ผู้ที่มีอำนาจแต่กลับรุกล้ำอำนาจ และไม่รู้สึกวิตกกังวลว่าสมาชิกในพรรคประชาธิปัตย์จะถูกตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาได้กำชับให้แจ้งบัญชีทรัพย์สินอย่างชัดเจนแล้ว
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินนั้นมีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.ให้แก่เจ้าของที่ดิน พ.ศ.2528-2529 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์สอบสวนสิทธิ ดำเนินการตามขั้นตอนครบถ้วน ดังนั้น จึงถือว่าเป็นการครอบครองโดยชอบธรรมและถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย ทั้งนี้ ตนเองได้มอบหมายให้ทีมทนายดำเนินการรวบรวมเอกสารเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่กล่าวหา ทั้งทางแพ่งและอาญาแล้ว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ผู้ที่มีอำนาจแต่กลับรุกล้ำอำนาจ และไม่รู้สึกวิตกกังวลว่าสมาชิกในพรรคประชาธิปัตย์จะถูกตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาได้กำชับให้แจ้งบัญชีทรัพย์สินอย่างชัดเจนแล้ว