จากการสำรวจเขียงหมูในตลาดย่านบางกะปิพบว่า ราคาเนื้อหมูได้ปรับขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 115-125 บาท หลังจากต้นเดือนนี้หมูเป็นหน้าฟาร์มได้ปรับขึ้นราคาจากกิโลกรัมละ 58 บาทเป็น 60 บาท หรือบางแห่งปรับถึง 64 บาท ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูต่างบอกว่า ไม่ได้ปรับราคาขายตาม เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าลดลงร้อยละ 20 ทำให้แต่ละเขียงต้องปรับวิธีการเพื่อขายลดต้นทุน รวมทั้งซื้อหมูปนมาปนจำหน่ายด้วย ซึ่งถ้าหากมีการปรับราคาหน้าฟาร์มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 3 บาท จำเป็นต้องขึ้นราคาอีกกิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้ราคาหน้าเขียงอยู่ที่กิโลกรัมละ120-130 บาท ส่วนที่มีข่าวว่าหมูจะขาดแคลนในช่วงเดือนเมษายนนั้น เชื่อว่าบริษัทใหญ่ที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์ ออกมาออกข่าวเพื่อดันราคาให้สูงขึ้นมากกว่า ส่วนหมูที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดราคาขายที่กิโลกรัมละ 98 บาทนั้น จากการสำรวจพบว่า เป็นหมูสะโพกด้านหน้าและมีเอ็นปน
ส่วนราคาเนื้อหมูสดในตลาดบางลำภูเขตเทศบาลนครขอนแก่น วันนี้ขายกิโลกรัมละ 110 บาท จากที่ก่อนหน้านี้ขายที่กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งลดลงจากเดิม 10 บาท เจ้าของหมูหลายแห่งบอกว่า สาเหตุที่ราคาลดลงเนื่องจากไม่ค่อยมีลูกค้ามาซื้อ
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าของเขียงหมูที่ตลาดสดหลายแห่ง โดยที่ตลาดศิริวัฒนาต้องลดปริมาณหมูที่ขายลงจากเดิมวันละ 4 ตัว เหลือเพียงวันละ 2 ตัวเท่านั้น
ขณะที่ตลาดสดนครนครราชสีมา ยังคงขายเนื้อหมูที่กิโลกรัมละ 120 บาท แม้ราคาหมูหน้าฟาร์มเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 4 บาท คาดว่าอีก 2 เดือน หมูเป็นที่นำมาชำแหละขายน่าจะขายตลาด เพราะฟาร์มหมูหลายแห่งลดจำนวนการเลี้ยง เนื่องจากแบกรับภาระต้นทุนค่าอาหารไม่ไหว
ส่วนราคาเนื้อหมูสดในตลาดบางลำภูเขตเทศบาลนครขอนแก่น วันนี้ขายกิโลกรัมละ 110 บาท จากที่ก่อนหน้านี้ขายที่กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งลดลงจากเดิม 10 บาท เจ้าของหมูหลายแห่งบอกว่า สาเหตุที่ราคาลดลงเนื่องจากไม่ค่อยมีลูกค้ามาซื้อ
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าของเขียงหมูที่ตลาดสดหลายแห่ง โดยที่ตลาดศิริวัฒนาต้องลดปริมาณหมูที่ขายลงจากเดิมวันละ 4 ตัว เหลือเพียงวันละ 2 ตัวเท่านั้น
ขณะที่ตลาดสดนครนครราชสีมา ยังคงขายเนื้อหมูที่กิโลกรัมละ 120 บาท แม้ราคาหมูหน้าฟาร์มเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 4 บาท คาดว่าอีก 2 เดือน หมูเป็นที่นำมาชำแหละขายน่าจะขายตลาด เพราะฟาร์มหมูหลายแห่งลดจำนวนการเลี้ยง เนื่องจากแบกรับภาระต้นทุนค่าอาหารไม่ไหว
