ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพงล้มเหลว ส่งผลพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูศรีสะเกษทนขาดทุนไม่ไหว ปิดร้านเลิกขายเนื้อหมูไปแล้วกว่า 20 ราย ขณะที่แม่ค้าหมูวัย 70 ปี เผยหมูแพงสุดในรอบ 45 ปี ย้ำไม่สามารถขายเนื้อหมูราคาถูก กก.ละ 98 บาทตามนโยบาย “เจ๊มิ่ง” ได้ เหตุต้นทุนสูง
วันนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษว่า จากการที่ขณะนี้ราคาจำหน่ายเนื้อหมูแดงมีราคาพุ่งสูงมากถึง กก.ละ 120-130 บาท และการแก้ปัญหาของกระทรวงพาณิชย์ตามนโยบายกำหนดราคาจำหน่ายที่ราคา กก.ละ 98 บาท ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ประสบผลสำเร็จ
ปรากฏว่าได้ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายเนื้อหมูในตลาดเทศบาลเมืองศรีสะเกษและตลาดต้นมะเกลือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นอย่างมาก เพราะประชาชนซื้อเนื้อหมูไปประกอบอาหารรับประทานน้อยลง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเนื้อหมูเกือบ 20 ราย แบกรับภาวะการขาดทุนไม่ไหว พากันเลิกขายเนื้อหมูชั่วคราวแล้ว แต่ยังคงมีพ่อค้าแม่ค้าเนื้อหมูบางส่วนยังคงสู้ทนจำหน่ายเนื้อหมูต่อไป แม้ว่าจะต้องขาดทุนก็ตาม
นางเสงี่ยม สิงห์นวลคำ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1254/4 ถ.เทพา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนขายหมูมาตั้งแต่อายุ 25 ปี นับว่าปีนี้เป็นปีที่เนื้อหมูราคาแพงมากที่สุดในรอบ 45 ปี ถึงแม้ว่ากระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้จำหน่ายเนื้อหมูในราคา กก.ละ 98 บาท แต่ไม่มีพ่อค้าแม่ค้าหมูรายใดจะสามารถลดราคาการจำหน่ายลงได้ เนื่องจากต้นทุนเนื้อหมูสูงมาก โดยหมูเป็นราคา กก.ละ 60 บาทแล้ว บวกกับค่าชำแหละ ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว การขายเนื้อหมูแดงในราคา กก.ละ 110-120 บาท ก็ยังขาดทุนแทบจะอยู่ไม่ได้
“ขณะนี้เพื่อนพ่อค้าแม่ขายเนื้อหมูคนอื่น ๆ หยุดขายเนื้อหมูไปแล้วประมาณ กว่า 20 ราย เพราะทนกับภาวะขาดทุนไม่ไหว จึงอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอาหารสัตว์ราคาแพงให้ราคาถูกลงจะดีกว่าการที่มาบีบให้พวกเรา ซึ่งเป็นแม่ค้าเนื้อหมูปลายทางให้ลดราคาขายปลีกลง” นางเสงี่ยม กล่าว