ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - การค้าภายใน จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับหลายหน่วยงาน คุมเข้มแนวชายแดนป้องกันการลักลอบขนย้ายหมูเป็นและเนื้อหมูชำแหละส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีราคาสูงกว่าในไทย หวั่นกระทบสุกรขาดตลาด อาจส่งผลให้เนื้อหมูมีราคาแพงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
วันที่ 12 มี.ค. นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังหมูเป็นหน้าฟาร์มได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 58 -60 บาท และเนื้อหมูชำแหละอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 -120 บาท ขณะที่ภาวะราคาหมูเป็นในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว จีน พม่า และกัมพูชา กลับมีราคาสูงกว่าในประเทศไทยโดยราคาหมูเป็นกิโลกรัมละ 68 -90 บาท ส่วนหมูชำแหละมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 140- 150 บาท จึงเกรงว่าจะมีการลักลอบขนย้ายหมูข้ามไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน
ทางสำนักงานการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจคุมเข้มพื้นที่ที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ของ จ.บุรีรัมย์ คือ อ.บ้านกรวด โนนดินแดง และ อ.ละหานทราย เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายหมูเป็น หรือเนื้อหมูชำแหละ ข้ามไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้สุกรในประเทศไทยขาดตลาด และมีราคาแพงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
“หากตรวจพบว่าพ่อค้า แม่ค้า หรือกลุ่มบุคคลใดฉวยโอกาสลักลอบขนย้ายหมู ข้ามไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน จะถูกดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังไม่พบมีการลักลอบขนหมูไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด” นายสุทธิศักดิ์ กล่าว
วันที่ 12 มี.ค. นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังหมูเป็นหน้าฟาร์มได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 58 -60 บาท และเนื้อหมูชำแหละอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 -120 บาท ขณะที่ภาวะราคาหมูเป็นในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว จีน พม่า และกัมพูชา กลับมีราคาสูงกว่าในประเทศไทยโดยราคาหมูเป็นกิโลกรัมละ 68 -90 บาท ส่วนหมูชำแหละมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 140- 150 บาท จึงเกรงว่าจะมีการลักลอบขนย้ายหมูข้ามไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน
ทางสำนักงานการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจคุมเข้มพื้นที่ที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ของ จ.บุรีรัมย์ คือ อ.บ้านกรวด โนนดินแดง และ อ.ละหานทราย เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายหมูเป็น หรือเนื้อหมูชำแหละ ข้ามไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้สุกรในประเทศไทยขาดตลาด และมีราคาแพงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
“หากตรวจพบว่าพ่อค้า แม่ค้า หรือกลุ่มบุคคลใดฉวยโอกาสลักลอบขนย้ายหมู ข้ามไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน จะถูกดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังไม่พบมีการลักลอบขนหมูไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด” นายสุทธิศักดิ์ กล่าว
