ยะลา - แม่ค้าขายหมูยะลาชี้ราคาเนื้อหมูแพง ทำให้ขาดทุนจนต้องนำทองคำไปขายเพื่อนำเงินมาหมุนเวียน
หลังจากที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือกับโรงชำแหละหมู และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ลดราคาเนื้อหมูให้เหลือกิโลกรัมละ 98 บาท ซึ่งจากเดิมกิโลกรัมละ 120 เป็นระยะเวลา 2 เดือน ส่วนที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ได้ตั้งโต๊ะขายหมู ตามโครงการหมูพาณิชย์ กิโลกรัมละ 98 บาท มาตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.51 ที่ผ่านมา จะหยุดก็เฉพาะวันพระเท่านั้น ซึ่งจะขายให้กับประชนชนในพื้นที่เป็นระยะเวลา 2 เดือน ก็มีประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี แห่กันมาซื้อเนื้อหมูกันอย่างคึกคัก
นายชลิต คงปาน พ่อค้าขายหมูที่เข้าร่วมโครงการ หมูพาณิชย์ รายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากที่ทางพาณิชย์จังหวัดยะลาได้จัดโครงการนนี้ขึ้น มีประชาชนให้ความสนใจ แห่กันมาซื้อเนื้อหมู่กันมาก ในแต่ละวันต้องชำแหละเนื้อหมู วันละ 3 ตัว ถ้าหากความต้องการของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ก็อาจจะต้องทำการชำแหละเนื้อหมูเพิ่ม ถึง 4-5 ตัว เลยทีเดียว เพราะราคาเนื้อหมูในท้องตลาดในตอนนี้ มีราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 130-140 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงมาก สำหรับคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประสบกับปัญหาความไม่สงบแล้ว ถือว่าเป็นการซ้ำเติมเลยทีเดียว
ส่วนทางด้านนางสุวารี ทองดี แม่ค้าขายหมูริมถนนเทศบาล 1 หน้าวิทยาลัยสาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือกับโรงชำแหละหมู และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ นำเนื้อหมูมาชำแหละขาย ทำให้ตนเองขายเนื้อหมูไม่ค่อยได้ บางวันเนื้อหมูก็ขายไม่หมด จากที่ประชาชนเคยซื้อเนื้อหมู คนละ 1 กิโลกรัม ตอนนี้ลดลงเพียง คนละครึ่งกิโลกรัม เท่านั้น
ทั้งนี้ หากประชาชนรับทราบว่าทางพาณิชย์จังหวัดยะลา ขายเนื้อหมูในราคาถูกกว่าท้องตลาดแล้ว ตนเองคงขายไม่ได้แน่ๆ ซึ่งในตอนนี้ไปซื้อสุกร ที่ฟาร์มสุกร ก็มีราคาแพงมาก จนตนเองต้องขายทองคำที่ติดตัวไปแล้ว หลายบาท เพราะขาดทุนมาก ถ้าหากไม่มีมาตรการที่ดีกว่านี้แล้ว ตนเองก็คงต้องหยุดขายหมูชั่วคราวก่อน จนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ถ้ายังขายต่อไป ก็คงต้องขาดทุนมากเลยที่เดียว