นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 เพราะเป็นการแก้ให้คนซื้อเสียงพ้นผิด และกรรมการบริหารพรรคและเครือข่ายที่จะถูกตัดสิทธิ์ได้พ้นผิด กติกาในระบอบประชาธิปไตยที่ถูกเปลี่ยนมาเรื่อย เป็นการสร้างกติกาวัวหายแล้วล้อมคอกเสมอ ดังนั้นเมื่อมีกติกาขจัดคนซื้อเสียงออกจากการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นกติกาที่ถูกต้องแล้วไม่ควรจะยกเลิก เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีการซื้อตัว ส.ส.มากถึง 30-40 ล้านบาท ทั้งที่ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง กำหนดค่าใช้จ่าย ส.ส.ห้ามเกินคนละ 1.5 ล้านบาท และการเลือกตั้งครั้งที่แล้วก็มี ส.ส.หลายคนที่ใช้เงินหาเสียงเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่ก็มีไม่กี่คนที่ถูกจับได้ และถูกดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งกำหนดไว้ว่าจะมีผลถึงกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ และพรรคถูกยุบซึ่งกติกานี้รู้กันตั้งแต่ก่อนรับสมัครเลือกตั้ง
รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กติกานี้ส่งผลให้พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ววันนี้ก็เที่ยวมากล่าวหาว่ารัฐธรรมนูญจะทำให้บ้านเมืองถึงทางตัน แต่บ้านเมืองจะไม่ถึงทางตันเพราะกรณีนี้ เนื่องจากจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม และคนที่ไม่ถูกตัดสิทธิก็ยังคงเป็น ส.ส.เหมือนเดิม ก็ไปหาพรรคใหม่สังกัด ซึ่งพรรคเหล่านั้นก็เตรียมการไว้แล้ว ส่วนรัฐบาลและรัฐสภาก็ยังคงอยู่ แต่ขจัดคนที่ช่วยให้มีการซื้อเสียง
นายถาวร กล่าวว่า ทั้งนี้ ในทางกฎหมาย ศาลฎีกาต้องเร่งพิจารณาคดี แล้วส่งเรื่องให้ กกต.เร่งดำเนินการสรุปส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรนูญ จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็เร่งพิจารณาตัดสิน ก่อนที่จะแก้ไข มาตรา 237 ต้องเร่งทำงานในกระบวนการยุติธรรมให้ทันกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเร็วที่สุดน่าจะประมาณ 2 เดือน และถ้าช้าที่สุด อาทิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยคืนกลับมา ก็จะประมาณ 4 เดือน ซึ่งวิธีการที่เขาจะใช้ คือ ใช้เสียง 1 ใน 5 ของ ส.ส.เท่าที่มีอยู่ เข้าชื่อกันเสนอยื่นญัติเข้าสู่กระบวนการของสภา
รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กติกานี้ส่งผลให้พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ววันนี้ก็เที่ยวมากล่าวหาว่ารัฐธรรมนูญจะทำให้บ้านเมืองถึงทางตัน แต่บ้านเมืองจะไม่ถึงทางตันเพราะกรณีนี้ เนื่องจากจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม และคนที่ไม่ถูกตัดสิทธิก็ยังคงเป็น ส.ส.เหมือนเดิม ก็ไปหาพรรคใหม่สังกัด ซึ่งพรรคเหล่านั้นก็เตรียมการไว้แล้ว ส่วนรัฐบาลและรัฐสภาก็ยังคงอยู่ แต่ขจัดคนที่ช่วยให้มีการซื้อเสียง
นายถาวร กล่าวว่า ทั้งนี้ ในทางกฎหมาย ศาลฎีกาต้องเร่งพิจารณาคดี แล้วส่งเรื่องให้ กกต.เร่งดำเนินการสรุปส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรนูญ จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็เร่งพิจารณาตัดสิน ก่อนที่จะแก้ไข มาตรา 237 ต้องเร่งทำงานในกระบวนการยุติธรรมให้ทันกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเร็วที่สุดน่าจะประมาณ 2 เดือน และถ้าช้าที่สุด อาทิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยคืนกลับมา ก็จะประมาณ 4 เดือน ซึ่งวิธีการที่เขาจะใช้ คือ ใช้เสียง 1 ใน 5 ของ ส.ส.เท่าที่มีอยู่ เข้าชื่อกันเสนอยื่นญัติเข้าสู่กระบวนการของสภา