นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคล หรือองค์กรใด ขอเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงขอเรียกร้อง ส.ส.ทุกคน และทุกพรรคร่วมดำเนินการ เพื่อช่วยสร้างเกียรติยศ เกียรติภูมิ ให้ประเทศกลับมาเป็นประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน และจะนำเรื่องนี้หารือ ส.ส.พรรคพลังประชาชน วันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.) เพื่อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมรณรงค์ในเรื่องดังกล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ผู้ที่คัดค้าน อย่าอ้างว่ารัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว จึงไม่สนับสนุนให้แก้ไข เพราะเชื่อว่าประชาชนจำนวนมาก และส่วนใหญ่ที่รับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ได้เห็นด้วยกับเนื้อหาสาระและที่มาของร่างรัฐธรรมนูญ แต่รับเพราะต้องการให้ประเทศเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย โดยจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ยกเว้นหมวดที่ 1 ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ตามแนวคิดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มาเทียบเคียง และปรับแก้ตามข้อเท็จจริง ไม่ทำเฉพาะประเด็นใดประเด็นหนึ่ง หรือเฉพาะกรณียุบพรรคการเมือง เพื่อปลดแอกประเทศจากอำนาจเผด็จการกลับมาเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งลายลักษณ์อักษรและการปฏิบัติ โดย ส.ส.จะต้องเป็นแกนนำเรื่องนี้ ซึ่งตนไม่รู้สึกกังวลกับเสียงคัดค้าน และการแถลงข่าวครั้งนี้ ตนได้หารือกับรัฐมนตรี และ ส.ส.หลายคนแล้ว และแถลงในนามรองโฆษกรัฐบาล ส่วนที่วิปรัฐบาลจะเสนอให้แก้ไขมาตราเดียว ยืนยันไม่ใช่ความเห็นขัดแย้ง และจะหารือกับวิปรัฐบาลอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามยื้อไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการยุบพรรคพลังประชาชน จะได้เป็นรัฐบาลเอง เหมือนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปพูดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการกระทำให้ประเทศอยู่ในเผด็จการ เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจบริหารประเทศ และระบุว่า ไม่ใช่เมื่อมีการยุบพรรคการเมืองจนเหลือพรรคเดียว บ้านเมืองจะต้องการพรรคนั้นมาบริหารประเทศ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ผู้ที่คัดค้าน อย่าอ้างว่ารัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว จึงไม่สนับสนุนให้แก้ไข เพราะเชื่อว่าประชาชนจำนวนมาก และส่วนใหญ่ที่รับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ได้เห็นด้วยกับเนื้อหาสาระและที่มาของร่างรัฐธรรมนูญ แต่รับเพราะต้องการให้ประเทศเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย โดยจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ยกเว้นหมวดที่ 1 ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ตามแนวคิดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มาเทียบเคียง และปรับแก้ตามข้อเท็จจริง ไม่ทำเฉพาะประเด็นใดประเด็นหนึ่ง หรือเฉพาะกรณียุบพรรคการเมือง เพื่อปลดแอกประเทศจากอำนาจเผด็จการกลับมาเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งลายลักษณ์อักษรและการปฏิบัติ โดย ส.ส.จะต้องเป็นแกนนำเรื่องนี้ ซึ่งตนไม่รู้สึกกังวลกับเสียงคัดค้าน และการแถลงข่าวครั้งนี้ ตนได้หารือกับรัฐมนตรี และ ส.ส.หลายคนแล้ว และแถลงในนามรองโฆษกรัฐบาล ส่วนที่วิปรัฐบาลจะเสนอให้แก้ไขมาตราเดียว ยืนยันไม่ใช่ความเห็นขัดแย้ง และจะหารือกับวิปรัฐบาลอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามยื้อไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการยุบพรรคพลังประชาชน จะได้เป็นรัฐบาลเอง เหมือนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปพูดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการกระทำให้ประเทศอยู่ในเผด็จการ เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจบริหารประเทศ และระบุว่า ไม่ใช่เมื่อมีการยุบพรรคการเมืองจนเหลือพรรคเดียว บ้านเมืองจะต้องการพรรคนั้นมาบริหารประเทศ