นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) เปิดเผยภายหลังตัวแทนอัยการสูงสุดเข้ายื่นหนังสือ เพื่อให้พิจารณาสำนวนในคดีกล้ายางว่า ทางอัยการสูงสุดได้พิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่า ยังมีหลักฐานบางอย่างที่ต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนและหลักฐานมีความชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น จึงต้องมีการแก้ไขเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งนี้ อัยการสูงสุดได้มีการเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อพิจารณาสำนวน พร้อมทั้งเสนอชื่อคณะทำงานฝ่ายอัยการสูงสุดมาแล้ว 5 คน ซึ่งตนจะนำหนังสือของอัยการเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ คตส.ในวันจันทร์ 17 มีนาคม อีกครั้ง เพื่อพิจารณาเอกสารของอัยการ และตั้งคณะทำงานร่วมฝ่าย คตส. โดยเบื้องต้นคาดว่าจะตั้งนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีกล้ายางพารา เป็นคณะทำงานร่วม
ทั้งนี้ อัยการสูงสุดได้มีการเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อพิจารณาสำนวน พร้อมทั้งเสนอชื่อคณะทำงานฝ่ายอัยการสูงสุดมาแล้ว 5 คน ซึ่งตนจะนำหนังสือของอัยการเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ คตส.ในวันจันทร์ 17 มีนาคม อีกครั้ง เพื่อพิจารณาเอกสารของอัยการ และตั้งคณะทำงานร่วมฝ่าย คตส. โดยเบื้องต้นคาดว่าจะตั้งนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีกล้ายางพารา เป็นคณะทำงานร่วม