นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนประชาธิปัตย์ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมที่จะมีการนัดหมายเพื่อเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ว่า จากการที่ตนได้โทรศัพท์คุยกับแกนนำพันธมิตรฯ แล้ว เบื้องต้นมีมติว่าไม่ต้องการเจรจาร่วมกับ ร.ต.อ.เฉลิม เนื่องจากไม่ทราบหัวข้อการหารือที่ชัดเจน ถ้าหากเป็นการแอบหารือเพื่อให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติบทบาทการเคลื่อนไหวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะส่งผลให้ประชาชนตั้งคำถามกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในฐานะองค์กรภาคประชาชนแบบเปิดได้ แต่หากเป็นการออกโทรทัศน์ระหว่างพันธมิตรฯ กับตัวแทนรัฐบาล ถ่ายทอดให้ประชาชนทั่วประเทศได้ชม ทางกลุ่มพันธมิตรฯ มีความพร้อมตลอดเวลา
นายสมเกียรติ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ไม่จำเป็นต้องคุยอะไรกับ ร.ต.อ.เฉลิม หรือแม้แต่นายสมัคร สุนทรเวช ล้วนเป็นนอมินีของระบอบทักษิณ ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ไม่ได้ทะเลาะกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่พันธมิตรฯ มีปัญหากับการแทรกแซงการทำงานของระบบยุติธรรมเพื่ออุ้มคนๆ เดียว ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ของวงการนิติศาสตร์ไทย ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ ร.ต.อ.เฉลิม และการคุยนั้นนอกจากไม่เกิดประโยชน์ แต่จะทำให้สายสัมพันธ์ที่ดีของแกนนำพันธมิตรฯ กับ ร.ต.อ.เฉลิม เสียหายด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากที่เรียกร้องพันธมิตรฯ เคลื่อนไหว ซึ่งพันธมิตรฯ วิเคราะห์แล้วเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องเคลื่อนไหวอีกครั้ง ไม่อยากใช้คำว่าชุมนุมหรือม็อบ แต่อยากจะเรียกว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่จำเป็นหลังจากหมดสิ้นความอดทน โดยได้กำหนดวันเวลาไว้ว่าเป็นปลายเดือนมีนาคม ซึ่งขณะนี้ได้กำหนดรูปแบบกิจกรรมไว้แล้ว ดูดี ไม่รุนแรงและอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ อยากให้จับตาการตั้งสหภาพข้าราชการขึ้นมา เนื่องจากในรอบการปกครอง 75 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีปรากฏ การณ์การรวมตัวของข้าราชการของพระมหากษัตริย์ หรือออกมาเคลื่อนไหว
นายสมเกียรติ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ไม่จำเป็นต้องคุยอะไรกับ ร.ต.อ.เฉลิม หรือแม้แต่นายสมัคร สุนทรเวช ล้วนเป็นนอมินีของระบอบทักษิณ ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ไม่ได้ทะเลาะกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่พันธมิตรฯ มีปัญหากับการแทรกแซงการทำงานของระบบยุติธรรมเพื่ออุ้มคนๆ เดียว ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ของวงการนิติศาสตร์ไทย ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ ร.ต.อ.เฉลิม และการคุยนั้นนอกจากไม่เกิดประโยชน์ แต่จะทำให้สายสัมพันธ์ที่ดีของแกนนำพันธมิตรฯ กับ ร.ต.อ.เฉลิม เสียหายด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากที่เรียกร้องพันธมิตรฯ เคลื่อนไหว ซึ่งพันธมิตรฯ วิเคราะห์แล้วเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องเคลื่อนไหวอีกครั้ง ไม่อยากใช้คำว่าชุมนุมหรือม็อบ แต่อยากจะเรียกว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่จำเป็นหลังจากหมดสิ้นความอดทน โดยได้กำหนดวันเวลาไว้ว่าเป็นปลายเดือนมีนาคม ซึ่งขณะนี้ได้กำหนดรูปแบบกิจกรรมไว้แล้ว ดูดี ไม่รุนแรงและอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ อยากให้จับตาการตั้งสหภาพข้าราชการขึ้นมา เนื่องจากในรอบการปกครอง 75 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีปรากฏ การณ์การรวมตัวของข้าราชการของพระมหากษัตริย์ หรือออกมาเคลื่อนไหว
