คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด ในสหรัฐฯ ระบุว่า การรับประทานอาหารเสริมวิตามินอีในปริมาณมากๆ เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด
ทั้งนี้ จากการศึกษาประชากรกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 77,000 คน พบว่า หากรับประทานวิตามินอีวันละ 400 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลานาน มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28 ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกับการรับสารเบตาแคโรทีนมากเกินไป
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับวิตามินอีโดยผ่านการรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งจะปลอดภัยกว่าการรับเป็นอาหารเสริม งานวิจัยนี้เป็นการสำรวจประชากรกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุระหว่าง 50-76 ปี เป็นเวลานาน 4 ปี โดยสังเกตพฤติกรรมการรับอาหารเสริมวิตามินซี กรดโฟลิก และวิตามินอี เฉลี่ยต่อวัน ซึ่งในช่วงของการวิจัยพบผู้ที่เป็นมะเร็งปอด 521 คน
นักวิจัยพบว่า ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างวิตามินซีและกรดโฟลิกกับความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด ซึ่งตรงกันข้ามกับการใช้อาหารเสริมวิตามินอี นักวิจัยสรุปว่า การรับวิตามินอีเพิ่มขึ้นทุกๆ 100 มิลลิกรัมกรัม/วัน จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด ร้อยละ 7
นักวิจัยสหรัฐฯ เชื่อว่า การรับวิตามินอีมากเกินไปอาจยิ่งสนับสนุนให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเซลส์
ทั้งนี้ จากการศึกษาประชากรกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 77,000 คน พบว่า หากรับประทานวิตามินอีวันละ 400 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลานาน มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28 ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกับการรับสารเบตาแคโรทีนมากเกินไป
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับวิตามินอีโดยผ่านการรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งจะปลอดภัยกว่าการรับเป็นอาหารเสริม งานวิจัยนี้เป็นการสำรวจประชากรกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุระหว่าง 50-76 ปี เป็นเวลานาน 4 ปี โดยสังเกตพฤติกรรมการรับอาหารเสริมวิตามินซี กรดโฟลิก และวิตามินอี เฉลี่ยต่อวัน ซึ่งในช่วงของการวิจัยพบผู้ที่เป็นมะเร็งปอด 521 คน
นักวิจัยพบว่า ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างวิตามินซีและกรดโฟลิกกับความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด ซึ่งตรงกันข้ามกับการใช้อาหารเสริมวิตามินอี นักวิจัยสรุปว่า การรับวิตามินอีเพิ่มขึ้นทุกๆ 100 มิลลิกรัมกรัม/วัน จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด ร้อยละ 7
นักวิจัยสหรัฐฯ เชื่อว่า การรับวิตามินอีมากเกินไปอาจยิ่งสนับสนุนให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเซลส์
