สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทีมนักวิจัยสหราชอาณาจักรที่ปฏิบัติหน้าที่ในขั้วโลกใต้ เปิดเผยว่า ธารน้ำแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางตะวันตกของขั้วโลกใต้ มีความเปราะบางมากขึ้นและมีการพังทลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป อาจส่งผลทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอีก
ทีมนักวิจัย เปิดเผยว่า ธารน้ำแข็งดังกล่าวซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับรัฐเทกซัสของสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 696,241 ตารางกิโลเมตร มีความเปราะบาง และพังทลายในอัตราที่เร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเดวิด วอห์น นักวิจัยจากสำนักสำรวจขั้วโลกใต้ของสหราช อาณาจักร กล่าวว่า ลำพังเพียงการละลายธารน้ำแข็งไพน์ไอส์แลนด์ เพียงแห่งเดียว ก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นได้ถึง 25 เซนติเมตรแล้ว และหากธารน้ำแข็งทางภาคตะวันตกของขั้วโลกใต้ยังคงพังทลายอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ อีกไม่นานระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นอีกถึง 1.5 เมตร
ทีมนักวิจัย เปิดเผยว่า ธารน้ำแข็งดังกล่าวซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับรัฐเทกซัสของสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 696,241 ตารางกิโลเมตร มีความเปราะบาง และพังทลายในอัตราที่เร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเดวิด วอห์น นักวิจัยจากสำนักสำรวจขั้วโลกใต้ของสหราช อาณาจักร กล่าวว่า ลำพังเพียงการละลายธารน้ำแข็งไพน์ไอส์แลนด์ เพียงแห่งเดียว ก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นได้ถึง 25 เซนติเมตรแล้ว และหากธารน้ำแข็งทางภาคตะวันตกของขั้วโลกใต้ยังคงพังทลายอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ อีกไม่นานระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นอีกถึง 1.5 เมตร