ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายและมาตรการในการรับนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2551 คงแนวปฏิบัติเรื่องการห้ามรับบริจาค หรือแป๊ะเจี๊ยะ เพื่อแลกกับการเข้าเรียนเหมือนปีการศึกษา 2550 ระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่ส่งเสริมให้สถานศึกษารับบริจาคเงินจากผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา ในช่วงระยะเวลาที่มีการรับนักเรียน นักศึกษา เข้าศึกษาในสถานศึกษาไม่ว่าในรูปแบบใดๆ รวมถึงไม่ส่งเสริมให้องค์กรอื่นใด เช่น สมาคมครูและผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่าของสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา รับเงินบริจาค หรือมีส่วนในการรับเงินบริจาคช่วงรับนักเรียน
การเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม ค่าบริการในการจัดการศึกษาเป็นการพิเศษ หรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการจัดการศึกษาเพิ่มเติมให้พิจารณาถึงความเหมาะสม ประโยชน์ที่จะได้รับและมีความจำเป็นอย่างแท้จริงเท่านั้น และเพื่อไม่ให้เป็นภารแก่ผู้ปกครองมากเกินไป ห้ามไม่ให้สถานศึกษาเรียกเก็บเงินดังกล่าวในช่วงเวลาเปิดรับนักเรียน นักศึกษา
ทั้งนี้ มาตรการกำกับดูแลนั้นได้ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้ตรวจราชการ ตรวจสอบและติดตามประเมินผล การรับนักเรียน นักศึกษา แล้วรายงานหัวหน้าส่วนราชการจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการภายใน 15 วันนับตั้งแต่การรับนักเรียน นักศึกษา สิ้นสุดลง ในกรณีที่สถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวข้างต้น และเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ปกครอง หรือเกิดความเสียหายแก่ราชการ หรือไม่อาจดำเนินการให้นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการบรรลุผล ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย กรณีขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและไม่ถือปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและแบบธรรมเนียมของทางราชการต่อไป
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า หลังจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ
การเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม ค่าบริการในการจัดการศึกษาเป็นการพิเศษ หรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการจัดการศึกษาเพิ่มเติมให้พิจารณาถึงความเหมาะสม ประโยชน์ที่จะได้รับและมีความจำเป็นอย่างแท้จริงเท่านั้น และเพื่อไม่ให้เป็นภารแก่ผู้ปกครองมากเกินไป ห้ามไม่ให้สถานศึกษาเรียกเก็บเงินดังกล่าวในช่วงเวลาเปิดรับนักเรียน นักศึกษา
ทั้งนี้ มาตรการกำกับดูแลนั้นได้ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้ตรวจราชการ ตรวจสอบและติดตามประเมินผล การรับนักเรียน นักศึกษา แล้วรายงานหัวหน้าส่วนราชการจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการภายใน 15 วันนับตั้งแต่การรับนักเรียน นักศึกษา สิ้นสุดลง ในกรณีที่สถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวข้างต้น และเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ปกครอง หรือเกิดความเสียหายแก่ราชการ หรือไม่อาจดำเนินการให้นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการบรรลุผล ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย กรณีขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและไม่ถือปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและแบบธรรมเนียมของทางราชการต่อไป
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า หลังจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ