นายศักรินทร์ ภูมิรัตน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) แถลงผลงานเด่นปี 2550 และแนวนโยบายปี 2551 ว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้ (2551) สวทช.ได้รับงบประมาณ 3,800 ล้านบาท โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพเป็นหลัก ทั้งด้านการแพทย์ สาธารณสุข และด้านการเกษตร เบื้องต้นจะศึกษาความเป็นไปได้การแพร่กระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่น นอกจากสายพันธุ์ H5N1 อย่างสายพันธุ์ H9N2 และ H7N7 ที่ไม่ก่อโรครุนแรง แต่มีการแพร่กระจายเชื้อสูง ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ และพัฒนาชุดตรวจที่มีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นายศักรินทร์ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา (2550) สวทช.ใช้งบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท พัฒนาผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ตอบสนองปัญหาสังคมเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ชุดตรวจไบโอเซนเซอร์รุ่นใหม่เพื่อวินิจฉัยไข้หวัดนก การพัฒนาโมโนโคลนัลแอนติบอดี ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความจำเพาะต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5 ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก โดยใช้เทคโนโลยีไบโอเซนเซอร์เชื่อมต่อเข้ากับแอนติบอดี้ดังกล่าว เพื่อตรวจจับหาเชื้อไวรัส โดยให้ผลแม่นยำถึง 100 เท่า ใช้เวลาการตรวจเพียง 15 นาที โดยขณะนี้มีจำหน่ายชุดละประมาณ 300 บาท
นอกจากนี้ ยังมีชุดตรวจเชื้อวัณโรคดื้อยา ที่ตรวจหาเชื้อวัณโรคแบบทราบผลเร็ว เพียง 1-3 วัน ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ปรับเปลี่ยนยาให้ถูกต้องและควบคุมเชื้อดื้อยาในประเทศ
นายศักรินทร์ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา (2550) สวทช.ใช้งบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท พัฒนาผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ตอบสนองปัญหาสังคมเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ชุดตรวจไบโอเซนเซอร์รุ่นใหม่เพื่อวินิจฉัยไข้หวัดนก การพัฒนาโมโนโคลนัลแอนติบอดี ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความจำเพาะต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5 ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก โดยใช้เทคโนโลยีไบโอเซนเซอร์เชื่อมต่อเข้ากับแอนติบอดี้ดังกล่าว เพื่อตรวจจับหาเชื้อไวรัส โดยให้ผลแม่นยำถึง 100 เท่า ใช้เวลาการตรวจเพียง 15 นาที โดยขณะนี้มีจำหน่ายชุดละประมาณ 300 บาท
นอกจากนี้ ยังมีชุดตรวจเชื้อวัณโรคดื้อยา ที่ตรวจหาเชื้อวัณโรคแบบทราบผลเร็ว เพียง 1-3 วัน ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ปรับเปลี่ยนยาให้ถูกต้องและควบคุมเชื้อดื้อยาในประเทศ
