นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ ผู้อำนวยการกองโภชนาการ กรมอนามัย เปิดเผยภายหลังประชุมประสบการณ์การควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน ระดับนานาชาติว่า โรคขาดสารไอโอดีนยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากประชาชนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคนี้ โดยคิดว่าการขาดสารไอโอดีนจะทำให้เกิดอาการคอพอกเพียงอย่างเดียว และคิดว่าเป็นเฉพาะวัยเด็กเท่านั้น ซึ่งไอโอดีนมีผลต่อการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกาย สมอง และสติปัญญาของคนในทุกช่วงอายุ หากขาดสารไอโอดีนก็จะมีภาวะผิดปกติแตกต่างกันไป เช่น ช่วงทารกในครรภ์ถึงแรกเกิด จะทำให้เกิดการแท้งหรือตายก่อนกำหนด หรือหากไม่ตายก็จะพิการแต่กำเนิด คือ หูหนวก ขาแข็ง กระตุก ตาเหล่ รูปร่างแคระแกร็น รวมทั้งสติปัญญาเสื่อมไปจนถึงอาการคอพอก สำหรับวัยผู้ใหญ่จะมีอาการคอพอก เหนื่อยง่าย ไม่สดชื่น สมรรถนะในการทำงานลดลง ร่างกายและจิตใจเสื่อมถอย หากเป็นชายจะมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ขณะที่ผู้หญิงประจำเดือนอาจมาไม่ปกติได้
ทั้งนี้ มาตรการควบคุมที่กรมอนามัยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คือ การรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหาร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ประสานความร่วมมือไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ช่วยควบคุม ดูแลด้านการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อช่วยให้การควบคุมกระบวนการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนในท้องถิ่นอย่างมีคุณภาพต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการควบคุมที่กรมอนามัยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คือ การรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหาร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ประสานความร่วมมือไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ช่วยควบคุม ดูแลด้านการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อช่วยให้การควบคุมกระบวนการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนในท้องถิ่นอย่างมีคุณภาพต่อไป