นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เปิดเผยความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า หลังจากที่พรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน ประกาศร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ คืนนี้ (17 ม.ค.) พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำ จะเชิญหัวหน้าพรรคหรือผู้แทนมาแถลงร่วมกันอีกครั้ง ในบ่ายวันเสาร์ที่ 19 มกราคม ซึ่งเลื่อนจากกำหนดเดิมคือวันพรุ่งนี้ แต่ยังไม่สามารถกำหนดเวลาและสถานที่ที่ชัดเจนได้ ต้องรอการประสานงานอีกครั้ง ทั้งนี้ เพราะแกนนำติดภารกิจรณรงค์เลือกตั้งใหม่ ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ จะรอให้เปิดสมัยประชุมรัฐสภา และเรียกประชุมสภาฯ เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้วจึงเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆ จึงจะมีการวางแนวทางการทำงานร่วมกัน และคัดสรรบุคคลมาร่วมงาน ดังนั้น จึงขอปฏิเสธข่าวการแบ่งเก้าอี้ จัดสรรโควตาให้พรรคร่วมรัฐบาลที่มีออกมาในช่วงนี้
ส่วนที่มีกระแสข่าว ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน รวมกลุ่มขอตำแหน่งนั้น นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้สอบถามประธานกรรมการประสานงานภาคอีสานแล้ว ยืนยันไม่มีใครมีแนวทางเช่นนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามปล่อยข่าวมากมายทุกครั้งที่จะมีการตั้งรัฐมนตรี และว่า การคัดสรรบุคคลมาดำรงตำแหน่ง จะเปิดโอกาสให้สมาชิก ส.ส.และแกนนำ เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสม ก่อนกลั่นกรองร่วมกัน เพราะผู้ที่เข้ามาทำงานจะต้องแก้ไขปัญหาหนักหน่วง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ใช่แค่เรื่องระดับชาติ แต่เป็นระดับโลกแล้ว
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ก่อนการเลือกตั้งมีชื่อนายทนง พิทยะ นั้น นายแพทย์สุรพงษ์ ยอมรับว่า เคยมีการพูดถึง แต่ไม่ได้มีรายชื่อเดียว และยังหาข้อสรุปไม่ได้ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย คุณสมบัติสำคัญคือ จะต้องมีความรู้ความสามารถด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะต้องเป็นคนที่ทหารยอมรับ
นอกจากนี้ คาดว่าจะได้ตัวนายกรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ส่วนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะคงจะทราบได้ช่วงกลาง-ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขอยืนยันว่า ไม่มีการต่อรองเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีจากผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ไม่มีการเกี้ยเซียะใดๆ และที่ผ่านมา ชื่นชมที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พูดชัดเจนว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ประกาศให้ทหารกลับกรม กอง ให้การเมืองแก้ปัญหากันเอง และเมื่อตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว คงจะได้มีการพูดคุยกันกับผู้บัญชาการทหารบก
ส่วนที่มีกระแสข่าว ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน รวมกลุ่มขอตำแหน่งนั้น นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้สอบถามประธานกรรมการประสานงานภาคอีสานแล้ว ยืนยันไม่มีใครมีแนวทางเช่นนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามปล่อยข่าวมากมายทุกครั้งที่จะมีการตั้งรัฐมนตรี และว่า การคัดสรรบุคคลมาดำรงตำแหน่ง จะเปิดโอกาสให้สมาชิก ส.ส.และแกนนำ เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสม ก่อนกลั่นกรองร่วมกัน เพราะผู้ที่เข้ามาทำงานจะต้องแก้ไขปัญหาหนักหน่วง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ใช่แค่เรื่องระดับชาติ แต่เป็นระดับโลกแล้ว
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ก่อนการเลือกตั้งมีชื่อนายทนง พิทยะ นั้น นายแพทย์สุรพงษ์ ยอมรับว่า เคยมีการพูดถึง แต่ไม่ได้มีรายชื่อเดียว และยังหาข้อสรุปไม่ได้ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย คุณสมบัติสำคัญคือ จะต้องมีความรู้ความสามารถด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะต้องเป็นคนที่ทหารยอมรับ
นอกจากนี้ คาดว่าจะได้ตัวนายกรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ส่วนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะคงจะทราบได้ช่วงกลาง-ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขอยืนยันว่า ไม่มีการต่อรองเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีจากผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ไม่มีการเกี้ยเซียะใดๆ และที่ผ่านมา ชื่นชมที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พูดชัดเจนว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ประกาศให้ทหารกลับกรม กอง ให้การเมืองแก้ปัญหากันเอง และเมื่อตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว คงจะได้มีการพูดคุยกันกับผู้บัญชาการทหารบก