นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์ ชุมนุมคัดค้านผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ให้ใบแดงว่าที่ ส.ส.เขต 1 จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน ว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระ เราต้องยอมรับคำวินิจฉัยของ กกต. ดังนั้น ไม่ควรใช้กฎหมู่เข้าไปกดดัน แทรกแซง หรือแสดงความไม่สนับสนุน เพราะการวินิจฉัยข้อร้องเรียนต่างๆ นั้น ต้องอาศัยหลักฐาน ซึ่งชาวบ้านไม่ได้ดูว่าหลักฐานนั้นเป็นอย่างไร จึงมีการบอกว่าการเลือกตั้งนั้นแสดงออกถึงความพอใจ แต่การเลือกตั้งไม่ได้แสดงออกถึงความถูกต้อง ถ้าเมื่อใดความพอใจและความถูกต้องสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน บ้านเมืองก็จะเรียบร้อย แต่หากสวนทางกันก็จะเกิดปัญหา ดังนั้น เรื่องการวินิจฉัยของ กกต.ก็ต้องใช้หลักกฎหมายเข้ามาพิจารณา ไม่ใช่เอาม็อบหรือกฎหมู่มาพิจารณา เพราะหากเป็นเช่นนั้น บ้านเมืองก็วุ่นวาย ทุกคนก็มีกลุ่มคนที่รักและสนับสนุนตัวเอง ก็สามารถไปเกณฑ์กันมาได้
นอกจากนี้ นายธีรภัทร์ กล่าวถึงการแสดงความเห็นของนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุว่า กกต.ไม่ควรตัดสินอะไรที่เป็นการสวนทางฉันทามติของประชาชน ว่า นายวรเจตน์ เป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูง คงไม่พูดเช่นนั้นออกมา การวินิจฉัยการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจะต้องดูว่าหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ ไม่ใช่เป็นเรื่องฉันทามติของประชาชน ถ้าเป็นฉันทามติของประชาชนจะเรียกว่ากฎหมู่ หรือ Mob Rule ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายสับสน และเกิดความไม่สงบเรียบร้อยแน่นอน ตนคิดว่าคนที่ไปฟังการสัมมนาอาจจะเข้าใจผิด
นอกจากนี้ นายธีรภัทร์ กล่าวถึงการแสดงความเห็นของนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุว่า กกต.ไม่ควรตัดสินอะไรที่เป็นการสวนทางฉันทามติของประชาชน ว่า นายวรเจตน์ เป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูง คงไม่พูดเช่นนั้นออกมา การวินิจฉัยการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจะต้องดูว่าหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ ไม่ใช่เป็นเรื่องฉันทามติของประชาชน ถ้าเป็นฉันทามติของประชาชนจะเรียกว่ากฎหมู่ หรือ Mob Rule ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายสับสน และเกิดความไม่สงบเรียบร้อยแน่นอน ตนคิดว่าคนที่ไปฟังการสัมมนาอาจจะเข้าใจผิด