“สุริยะใส” จี้ “นพเหล่” แจงจุดยืนก่อนบินร่วมประชุมยูเนสโก

ผู้ประสานพันธมิตรฯ เผย ไทยได้เฮ ยูเนสโก ชี้ ปราสาทพระวิหารตกเกณฑ์รับรองเป็นมรดกโลก จี้ “นพเหล่” แจงความชัดเจนก่อนบินไปร่วมประชุม หวั่นหมกเม็ดดอดร่วมเขมรผลักดันสนับสนุนให้มีการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก จวก “วรเจตน์” มองมุมเดียว สร้างความสับสนให้ประชาชน

วันนี้ (2 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในวันที่ 2-10 ก.ค.ยูเนสโกจะมีการพิจารณารับรองมรดกโลกอีก 49 แห่งทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาเบื้องต้นเพียง 19 แห่ง ซึ่งน่ายินดีว่า ไม่มีปราสาทเขาพระวิหารอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมี 6 แห่งที่ยูเนสโก ตั้งเงื่อนไขว่า ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้พิพาท ซึ่งประสาทเขาพระวิหาร ได้อยู่ในประเด็นนี้

อย่างไรก็ตาม ทราบข่าววงใน ว่า คณะกรรมการมรดกโลกของไทย ที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมในวันที่ 3 ก.ค.ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติต่อจากระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาล ว่า จะให้เขามีจุดยืนอย่างไร ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตในส่วนของทีมงานกระทรวงต่างประเทศ 12 คน ว่า เราไม่มั่นใจว่าท่าทีของฝ่ายไทย ยังเหมือนที่ประกาศว่า จะยืนยันต่อยูเนสโก ว่า เราไม่สามารถร่วมได้ เพราะศาลปกครองมีคำสั่งออกมาหรือไม่ และกรณีนี้มีนัยยะ อะไรหรือไม่ เพราะกัมพูชาก็ยังมั่นใจว่า จะผลักดันได้ภายในการประชุมครั้งนี้ ดังนั้น ก่อนที่ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปต้องพูดให้ชัด

สำหรับกรณีของ รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ หัวหน้าภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่บอกว่า คำสั่งของศาลปกครองไม่มีเหตุ หรือวัตถุแห่งคดีนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า โดยสามัญสำนึกย่อมรู้ว่า รับมติของ ครม.ย่อมเป็นเหตุให้กัมพูชา เสนอปราสาทเขาประวิหารเป็นมาดกโลกได้ รศ.ดร.วรเจตน์ มองมุมเดียวหรือไม่ และนักกฎหมายมหาชนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 5 คนที่ออกมา แม้เจตนาจะบริสุทธิ์ ตนมองว่าจะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ขณะเดียวกัน กรณีการตัดสินของศาลแพ่งก็มีปัญหา แต่นักวิชาการกลุ่มนี้กลับไม่มีท่าทีอะไรเลย ถึงเวลาแล้วทีนักนิติศาสตร์ ต้องออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะจะส่งผลกระทบถึงอนาคตได้