“พีต้าเอเชีย” เดินหน้าต่อต้าน “สวนสัตว์พาต้า” หลังมีการประกาศเปิดบ้าน “ป้าบัวน้อย” กอริลลาชื่อดังให้เข้าชมแล้วอีกครั้ง โดย พีต้าเอเชีย อ้างว่าสัตว์ที่สวนสัตว์พาต้าขาดอิสระภาพในการดำรงชีวิตเหมือนสัตว์ทั่วไป หลายตัวมีอาการเซื่องซึม เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เนื่องจากทางสวนสัตว์ดูแล-รักษาสัตว์ไม่ดี สวนทางกับความเห็นในเพจ สวนสัตว์พาต้า ที่ส่วนใหญ่ต่างชื่นชมว่าสวนสัตว์แห่งนี้ดูแลสัตว์ได้เป็นอย่างดี
จากกรณี สวนสัตว์พาต้า ประกาศเปิดบ้าน “ป้าบัวน้อย” กอริลลาแห่งสวนสัตว์พาต้า ให้เข้าชมแล้วอีกครั้งหลังจากปิดให้ป้าบัวน้อยได้พักผ่อนมา 1 เดือน โดยจะกำหนดรอบชมในวันธรรมดาวันละ 1 รอบ และวันหยุดวันละ 2 รอบ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
หลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจ สวนสัตว์พาต้า กันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างชื่นชมว่าทีมงานสวนสัตว์แห่งนี้ดูแลสัตว์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับการดูแลป้าบัวน้อยให้มีสุขภาพแข็งแรงมาจนทุกวันนี้
อย่างไรก็ดีล่าสุดได้เกิดเป็นดราม่าขึ้น เมื่อ “องค์กรพิทักษ์สัตว์ประจำภูมิภาคเอเชีย” หรือ “พีต้าเอเชีย” (PETA Asia) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงสื่อมวลชน ต่อต้านการเปิดให้บริการของสวนสัตว์พาต้า ในหัวข้อ “เมื่อสวนสัตว์พาต้ากลับมาเปิดอีกครั้ง ข่าวดีหรือข่าวร้าย?”
โดย พีต้าเอเชีย ได้เขียนชี้แจงถึงความน่ากังวลต่อเรื่องดังกล่าว ว่า
เมื่อสองเดือนที่แล้ว PETA Asia ได้ปล่อยคลิปฟุตเทจของสัตว์ภายในสวนสัตว์พาต้าที่ทางทีมสืบสวนเก็บมาได้ ภายในคลิป เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสัตว์หลายตัวมีอาการเซื่องซึม และยังมีอาการของโรคผิวหนังเรื้อรัง ทำให้เห็นว่าทางสวนสัตว์ไม่ได้ดูแลและให้การรักษาสัตว์เหล่านี้ดีเท่าไหร่นัก แล้วสัตว์เหล่านี้จำเป็นหรือที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่หลังกรงกระจก บนพื้นคอนกรีตบนชั้น 6 ของห้างพาต้าไปตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์ได้สัมผัสหญ้า สูดอากาศบริสุทธิ์ และใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ตัวอื่น ๆ อย่างอิสระอย่างที่พวกเขาควรจะได้รับ?
อิสรภาพในการดำรงชีวิตตามธรรมชาติของสัตว์คือสิ่งที่องค์กรของเราต่อสู้มาโดยตลอดและเราเรียกร้องให้สวนสัตว์พาต้าปลดปล่อยสัตว์เหล่านี้โดยการย้ายพวกเขาไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ตามธรรมชาติ ที่ที่พวกเขาจะได้ดำเนินชีวิตในแบบที่เขาควรจะได้ทำมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราได้ส่งจดหมายไปยังทีมผู้บริหารของสวนสัตว์พาต้า ซึ่งนำโดยคุณวิสุ เสริมศิริมงคล เพื่อยื่นข้อเสนอในการที่จะช่วยสนับสนุนทั้งด้านการเงินและลอจิสติกในการย้ายบัวน้อยและสัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์ไปยังที่พักพิงแห่งใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือน ทางทีมผู้บริหารยังคงนิ่งเงียบ ไม่ตอบรับความช่วยเหลือของเราที่จะช่วยให้สัตว์ที่พวกเขากล่าวอ้างว่ารักและห่วงใยได้รับอิสระที่พวกเขาควรได้รับ
พวกเราต้องการให้สวนสัตว์พาต้าจริงจังกับข้อเรียกร้องของเรามากกว่านี้ และเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องโดยการส่งสัตว์ไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ นอกจากนี้ เรายังอยากขอร้องให้สาธารณชนออกมาเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้กับสัตว์ในสวนสัตว์ เพราะพวกเขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว