เสียงสายน้ำไหลซู่ดังกึกก้องสะท้อนกับแนวโตรกผาขนาดมหึมา เป็นสัญญาณให้รับรู้ว่าการเดินย่ำบุกป่าฝ่าดงพงไพรที่ทำเอาเหงื่อไหลชุ่มเต็มแผ่นหลัง มีของขวัญตอบแทนเป็นความงดงามของธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่ คือ น้ำตกสุดอลังการจากเนินผาสูงเกือบร้อยเมตร ซึ่งความงดงามของสายน้ำกับขุนเขาแบบนี้ รอคอยให้นักเดินทางไปสัมผัสได้อย่างเต็มอิ่มที่ “เพชรบูรณ์”
เมืองมะขามหวานเพชรบูรณ์ นับเป็นหนึ่งในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยขุนเขากับผืนป่าเขียวขจี และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติซึ่งควรปักหมุดเป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การมาเยือน โดยเฉพาะพื้นที่ภูเขาสูงอันห่างไกลนั้น หลายแห่งเป็นที่ตั้งของ “น้ำตก” ที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ หลากหลายไปจนถึงน้ำตกสายเล็กๆที่มีความแปลกตาหาชมได้ยาก
ชวนมารู้จักเพชรบูรณ์ให้มากกว่าเดิมด้วย “ 5 น้ำตก อันซีน” ที่น่าจะโดนใจนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในธรรมชาติ
น้ำตกตาดใหญ่: ตำแหน่งแชมป์แห่งภาคเหนือ
ในปี พ.ศ.2566 การประกาศผลสถานที่ท่องเที่ยว “Unseen New Chapters” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผลปรากฎว่า “น้ำตกตาดใหญ่” อำเภอน้ำหนาว ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ
ตำแหน่งแชมป์ที่ได้รับ พร้อมสถานะ “Unseen New Chapters” ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ มาจากความอลังการของทัศนียภาพที่ชวนตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด ด้วยภาพของน้ำตกจากผาสูงประมาณ 80 เมตร ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านธรณีวิทยา สะดุดสายตากับโตรกผาหินอันเป็นแหล่งมรดกธรณีวิทยากลุ่มหินโคราช หมวดหินห้วยหินลาด ซึ่งประกอบด้วยหินดินดานแทรกสลับกับหินทรายแป้งและหินโคลน
โดยความงดงามของน้ำตกกลางขุนเขาแห่งนี้ สันนิษฐานว่าเกิดจากเมื่อประมาณ 230-200 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งเป็นยุคไทรแอสซิกตอนปลาย บริเวณนี้มีการสะสมตะกอนตามทะเลสาบน้ำจืด หนองน้ำ หรือบึงน้ำ ใช้เวลาหลายล้านปี ตะกอนเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นชั้นหินดินดานและหินโคลน
ต่อมาเมื่อประมาณ 40 ล้านปีที่แล้ว เกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นอนุทวีปชาน-ไทยชนกับแผ่นอนุทวีปอินโดไซน่า แรงบีบอัดทำให้ชั้นหินบริเวณนี้ยกตัวขึ้นเป็นภูเขา เกิดความคดโค้งโก่งงอของชั้นหินเกิดรอยแตก และรอยเลื่อน ในขณะเดียวกันชั้นหินยังถูกกัดเซาะด้วยน้ำ ลม และแสงแดด ทำให้เนื้อหินผุกร่อน แตกหลุด และ ถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำจนในที่สุดเกิดเป็นผาชันบริเวณน้ำตกดังที่เห็นในปัจจุบัน เป็นลักษณะขั้นบันไดและหน้าผาที่มีความสูงมากกว่าความกว้างของธารน้ำ เรียกว่า น้ำตกแบบม่าน (curtain)
ภาพสุดประทับใจของผู้มาเยือนจึงเป็นการได้เห็นม่านน้ำที่ตกลงมาตามแนวหินแต่ละชั้นกระทบลงสู่แอ่งเบื้องล่าง เสียงดังกึกก้อง และไหลเอื่อยเป็นลำธารสายเล็กๆทอดยาวไปอีกไกล ซึ่งบริเวณนี้ยังพบฟอสซิลรอยตีนสัตว์ดึกดำบรรพ์ ซึ่งทั้งแนวทางเดินของไดโนเสาร์กลุ่มซอโรพอด และแนวทางเดินของสัตว์เลื้อยคลานกลุ่มอาร์โคซอร์
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ชวนเซอร์ไพรส์สำหรับการมาเที่ยวชมน้ำตกตาดใหญ่ คือ การได้พบ “กิ้งกือมังกรสีชมพู” บริเวณโขดหินและต้นไม้ริมแนวลำธารเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้นักสำรวจระบุว่าเจอเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย เช่น “หุบป่าตาด” เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ในพื้นที่ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
ทั้งนี้ การลงไปชมน้ำตกด้านล่างอย่างใกล้ชิดมีสองเส้นทางให้เลือก ได้แก่ เส้นทางที่หนึ่ง สำหรับผู้ชื่นชอบการผจญภัยรักความท้าทาย เพราะต้องไต่เชือกปีนป่ายลงไปตามแนวเขาที่มีความชันระดับหนึ่ง (ไม่แนะนำหากมีฝนตก เพราะดินลื่น) ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ก็ถึงน้ำตกด้านล่างได้ เส้นทางนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้สูงวัย เด็กเล็ก หรือผู้มีข้อจำกัดทางร่างกาย และต้องมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง
ส่วนเส้นทางที่สองเป็นบันไดอิฐบล็อก สลับบันไดดิน ราว 600 ขั้น ใช้เวลานานกว่า แต่มีความปลอดภัยมากกว่า และเหมาะสำหรับทุกวัย
น้ำตกตาดใหญ่ ตั้งอยู่บ้านดงมะไฟ ตำบลโคกมน อยู่ระหว่างอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ กับ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น แต่เดินทางจากฝั่งเพชรบูรณ์ สะดวกและได้รับความนิยมมากกว่า
น้ำตกตาดฟ้า: เรียบง่าย สายชิล
หนึ่งในน้ำตกที่มีคนจำสับสนมากที่สุด เพราะมีทั้งในเพชรบูรณ์ ขอนแก่น และชัยภูมิ แต่สำหรับน้ำตกตาดฟ้าที่อำเภอน้ำหนาวนั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็กชั้นเดียวที่มีหน้าผาสูง 15 เมตร ก่อนที่ธารน้ำจะค่อยๆ ไหลลดหลั่นไปเป็นขั้นเล็กๆ ตามลำห้วยตาดฟ้า ซึ่งบริเวณลำห้วยดังกล่าวเป็นแหล่งค้นพบรอยตีนของไดโนเสาร์กลุ่มโปรซอโรพอดบนชันหินทราย หินโคลนแทรกสลับกับหินดินดาน
ความเรียบง่ายของน้ำตกตาดฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความเหน็ดเหนื่อยเพราะรถยนต์เข้าถึง และเดินต่อไปอีกราวไม่กี่สิบเมตร จะชมจากด้านบน หรือลงบันไดไม่กี่ขั้นไปชมด้านล่างก็ได้ อย่างไรก็ตาม น้ำตกแห่งนี้อาจมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณน้ำ ซึ่งหากไปในช่วงที่มีน้อย ก็อาจกลายสภาพเป็นเพียงชั้นหินที่มีน้ำไหลเอื่อยรวมกันเป็นสีโคลน ถ้าไม่อยากผิดหวังแนะนำให้สอบถามไกด์ท้องถิ่นไว้ล่วงหน้า
น้ำตกตาดทิดมี: น้ำตกตาดใหญ่แบบย่อส่วน
ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่ออำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าพื้นที่ได้สะดวกโดยรถยนต์ และเดินเท้าไปยังน้ำตกประมาณ 200 เมตร อย่างง่ายดายที่สุด ไม่ต้องปีนป่ายใดๆทั้งสิ้น ก็ได้เห็นภาพความสวยงามของน้ำตกอย่างใกล้ชิด
น้ำตกตาดทิดมี เกิดจากธารน้ำของลำห้วยตาดฟ้าไหลผ่านชั้นหินทรายแป้งและหินโคลน แทรกสลับกับ หินดินดาน เมื่อระยะเวลาผ่านไปกระแสน้ำได้กัดเซาะไปตามรอยแตกในชั้นหินดินดานที่มีคุณสมบัติคงทนต่อการกัดเซาะต่ำ จึงเกิดการผุพังลงมากลายเป็นหน้าผาของน้ำตกตาดทิดมี ส่งผลให้น้ำไหลตกลงมากระทบกับ ชั้นหินในรูปแบบแผ่น (sheet) เนื่องจากมีความกว้างของธารน้ำมากกว่าความสูงของน้ำตก
ลักษณะทางธรณีวิทยาของน้ำตกนี้ มีความคล้ายคลึงกับน้ำตกตาดใหญ่ แต่เป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดกว้าง 20 เมตร สูง 15 เมตร ก่อนที่ธารน้ำจะไหลเป็นขั้นบันไดเล็กๆตามความลาดชั้นของภูมิประเทศ บางบริเวณมีลักษณะเป็นแอ่งตื้นที่มีตะกอนทรายสะสมตัวอยู่ มีพื้นที่ให้สามารถลงเล่นน้ำได้ รวมทั้งสามารถปีนขึ้นไปตามชั้นหินของน้ำตกเพื่อยืนหรือนั่งถ่ายรูปในมุมสวยๆได้อีกด้วย
สำหรับน้ำตกตาดใหญ่ ตาดฟ้า และตาดทิดมี แนะนำไกด์ท้องถิ่นเพชรบูรณ์ โทร. 06-1597-7362 (คุณเด่น)
น้ำตกพรานบา: สวยแบบเอียง ถ่ายรูปสนุก
ตั้งอยู่บริเวณบ้านนาพอสอง อำเภอน้ำหนาว ใกล้เคียงกับแหล่งท่องเที่ยวผารอยตีนอาร์โคซอร์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าพื้นที่ได้สะดวกโดยรถยนต์ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2216 และเลี้ยวซ้ายเข้าน้ำตกบริเวณหน่วยป้องกันรักษาป่า พช.5 (นาสอพอง) และจอดรถและเดินลงบันไดไปที่น้ำตกอีกประมาณ 100 เมตร
ที่มาของชื่อ “น้ำตกพรานบา” เนื่องจาก “พรานบา” เป็นผู้เข้าไปพบน้ำตกแห่งนี้เป็นคนแรก โดยน้ำตกนี้เกิดจากลำห้วยขนาดใหญ่ที่มีกระแสน้ำแรงไหลผ่านชั้นหินทรายที่พบรอยแตกจำนวนมาก เมื่อระยะเวลาผ่านไปกระแสน้ำได้กัดเซาะไปตามรอยแตกในชั้นหิน ส่งผลให้เกิดการผุพังลงมากลายเป็นหน้าผาขั้นบันไดก่อนที่ธารน้ำจะไหลลงหน้าผาด้านล่างในลักษณะเป็นแผ่น (sheet)
เอกลักษณ์เด่นของน้ำตก คือ ลักษณะชั้นหินที่เกิดการซ้อนพิงกัน จนมีความลาดเอียงอย่างเห็นได้ชัด สามารถถ่ายรูปหรือคลิปวิดีโอในมุมที่หลอกสายตาได้อย่างสนุก เช่น การทำท่าเกาะโขดหินที่มีความลาดเอียง ซึ่งหากถ่ายในมุมบน จะคล้ายกับว่ากำลังเกาะบนผาหินสูง โดยมีสายน้ำไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ
น้ำตกพรานบา เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีความกว้าง 20 เมตร และสูง 3-5 เมตร หากมองจากมุมภาพถ่ายทางอากาศหรือโดรน จะเห็นว่าเป็นลาดหินกว้าง ทอดยาวเอียงลงไป และมีสายน้ำไหลตลอดทั้งปี หากเป็นช่วงน้ำหลากก็เหมาะแก่การเล่นน้ำพักผ่อนหย่อนใจ
น้ำตกซับพลู: น้ำตกเสาหินอัคนีแห่งเดียวของไทย
น้ำตกที่ต้องยกให้เป็น “อันซีนวิเชียรบุรี” เพราะนอกจากไก่ย่างชื่อดังแล้ว “น้ำตกซับพลู” หรือ “น้ำตกเสาหินอัคนี” ก็เป็นของดีไม่ควรพลาดเช่นกัน เพราะนอกจากความงามแปลกตาแล้ว ยังเป็นเอกลักษณ์หาชมได้ยากในเมืองไทย
น้ำตกขนาดเล็กแห่งนี้ ต้องเดินบุกป่าลัดเลาะเข้าไปราว 200 เมตร จะเจอกับลำธารที่ไหลมาจากน้ำตกเล็กๆ ที่มีต้นน้ำบนยอดเขาผ่านแนวโตรกผาหินกับแนวแท่งเสาหินอัคนีที่เป็นลักษณะหกเหลี่ยมต่างระดับเรียงรายติดกัน สามารถปีนขึ้นไปชมแนวหินและทางน้ำด้านบนได้
หากใครมองแล้วนึกไปว่าคล้ายกับสถานที่ท่องเที่ยวดังธรณีวิทยารูปแบบเสาหินในประเทศไอซ์แลนด์ก็ไม่ผิดนัก เพราะหินดังกล่าวเป็นหินชนิดเดียวกัน กล่าวคือ เสาหินภูเขาไฟ หรือหินอัคนี (บะซอลต์) ที่เกิดจากการหดตัวของหินไหลหรือลาวาที่แตกต่างกันขณะเย็นตัว ทำให้เกิดเป็นรอยแตกที่ผิวของหินไหลที่มีลักษณะเป็นแท่งหินหกเหลี่ยมเรียงราย โดยเมื่อแรกเกิด (มีอายุอยู่ในช่วงประมาณ 8-11 ล้านปี) มีลักษณะเป็นเสาหินตั้งฉากกับทิศทางไหลของลาวาหรือตั้งในแนวดิ่ง จนกระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกทำให้แท่งเสาหินเอียงตัวไปมาในแนวทิศทางที่แตกต่างกัน
น้ำตกซับพลู ตั้งอยู่ที่บ้านซับเจริญ ตำบลยางสาว อำเภอวิเชียรบุรี เส้นทางไปสู่น้ำตกหากเป็นช่วงฤดูฝนไม่แนะนำรถยนต์ หรือรถตู้ เพราะเป็นถนนลูกรัง ให้จอดรถไว้ที่ลาน “วัดซับกะโซ่” แล้วสอบถามรถบริการของคนในชุมชน