สัมผัสบรรยากาศมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ชวนเที่ยว “ปารีส” มหานครแสนสวยของฝรั่งเศส เดินชมเมือง แวะถ่ายรูป และเช็คอินกับ 5 จุดท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ใกล้จะถึงมหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ “กีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33” โดยในครั้งนี้เป็นกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จึงทำให้มหกรรมกีฬาครั้งนี้มีอีกชื่อเรียกว่า “ปารีส 2024”
“ปารีส” เคยเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1900, กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1924 และ ครั้งนี้ กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 3 โดยเป็นเมืองที่สองต่อจากลอนดอน ที่ได้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนถึง 3 ครั้ง
และนอกจากจะเป็นมหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือพิธีเปิดในครั้งนี้ เป็นการจัดพิธีเปิดขึ้นนอกสนามกีฬาเป็นครั้งแรก โดยขบวนพาเหรดของแต่ละประเทศจะจัดเป็นขบวนทางเรือล่องไปตามแม่น้ำแซน และพิธีการอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นที่ปาแลเดอชาโย
สำหรับ “ปารีส” (Paris) นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ทางตอนเหนือของประเทศ หลายๆ คนรู้จักกันดีว่าปารีสเป็นเมืองหลวงของแฟชั่น แต่นอกจากแฟชั่นแล้ว ที่นี่ก็ยังดึงดูดใจนักท่องเที่ยวด้วยสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ความสวยงามของสถาปัตยกรรม รวมไปถึงการเพลิดเพลินกับแหล่งชอปปิ้งต่างๆ นั่นทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกใฝ่ฝันอยากจะมาเยือนปารีสสักครั้ง
ชวนมาสัมผัสมหานครที่มีเสน่ห์แห่งนี้ กับ 5 ที่เที่ยวในปารีส
หอไอเฟล
“หอไอเฟล” (Tour Eiffel) หอคอยโครงสร้างเหล็กอันเป็นสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี
หอไอเฟลออกแบบโดย กุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส มีความสูง 300 เมตร หรือตึกสูงประมาณ 75 ชั้น ซึ่งการชมหอไอเฟลนั้นสามารถชมได้หลายมุม ทั้งจากสวนชองป์ เดอ มาร์ส หรือเดินเล่นริมแม่น้ำแซนแล้วชมหอไอเฟลจากมุมไกล
ด้านบนหอไอเฟลนั้นสามารถขึ้นไปชมได้ โดยซื้อบัตรผ่านเดินขึ้นบันไดไป หรือจะซื้อบัตรขึ้นลิฟต์ไปก็ได้ ด้านบนนั้นมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก มีระเบียงให้เดินออกไปชมวิวรอบๆ เมือง ส่วนในยามค่ำคืนนั้น หอไอเฟลจะเปิดไฟให้ชมอย่างสวยงาม
สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3
“สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3” หรือ “ปงอาแล็กซ็องดร์-ทรัว” เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแซน ที่เชื่อมต่อระหว่างสองฝั่งคือฝั่งหอไอเฟลกับฝั่งถนนช็องเซลีเซ เป็นสะพานที่สวยงามเนื่องจากมีการประดับตกแต่งมากที่สุด โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว มีประติมากรรมชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นม้าเพกาซัสที่ทำจากทองสำริด ทูตสวรรค์ และเทพธิดาประดับ และม้าบินอยู่
ตัวสะพานสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1896-1900 เพื่อเป็นเกียรติแด่ สมเด็จพระจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย ที่ได้ตกลงสัญญาพันธมิตรระหว่างสองประเทศในปี ค.ศ.1892 ความพิเศษอีกอย่างคือเป็นการก่อสร้างสะพานโค้งแบบไม่มีเสา ตัวสะพานสูง 6 เมตร ทำจากเหล็กกล้า ซึ่งถือเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมในยุคศตวรรษที่ 19
ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศส และด้วยความสวยงามของสะพานนี้ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปไม่ขาดสาย อีกทั้งยังเป็นฉากในซีรีส์ และเป็นสถานที่ถ่ายแบบของแบรนด์เสื้อผ้าหลายแบรนด์
ประตูชัยฝรั่งเศส
“ประตูชัยฝรั่งเศส” (Arc de triomphe de l'Étoile) ตั้งอยู่บริเวณ “จัตุรัสชาร์ลส เดอ โกล” (Place Charles de Gaulle) ซึ่งบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ เป็นจุดรวมที่ถนน 12 สายมาบรรจบกัน ทำให้จัตุรัสมีรูปร่างคล้ายดวงดาว และเป็นที่มาของชื่อดั้งเดิมของจัตุรัสว่า จัตุรัสแห่งดวงดาว
สำหรับประตูชัยฝรั่งเศสนั้นสร้างขึ้นเพื่อสดุดีทหารที่เข้าร่วมรบเพื่อฝรั่งเศส โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย ซึ่งด้านบนของประตูชัยนั้นสามารถเดินขึ้นบันไดวนไปชมด้านบนได้ โดยด้านบนนั้นสามารถมองเห็นกรุงปารีสได้โดยรอบ
ส่วนที่ใต้ประตูชัยนั้น มีสุสานของทหารนิรนาม หรือเรียกว่า “Tomb of the Unknown Soldier” ตั้งอยู่ ณ ใจกลางประตูชัย คือ เปลวไฟที่ไม่เคยมอดดับบนหลุมฝังศพเหล่าทหารนิรนาม ซึ่งเป็นเหยื่อในสงครามโลกครั้งที่ 1
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
“พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์” (Musée du Louvre) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวาง มีการจัดแสดงผลงานมากมาย จึงว่ากันว่า หากต้องการชมผลงานทุกชิ้น อาจจะต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
อาคารของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์นั้นเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลก และหากใครมาถึงแล้วก็ต้องมุ่งหน้ามาถ่ายรูปกับ “พีระมิดแก้ว” ที่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งใช้เป็นทางเข้าหลัก
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์แบ่งออกเป็น 3 ปีก ได้แก่ Richelieu อยู่ทางทิศเหนือ Sully เป็นอาคารสี่เหลี่ยมทางทิศตะวันออก และ Denon อยู่ทิศใต้ขนานกับแม่น้ำแซน โดยทุกปีกจะมี 4 ชั้น และมีการจัดแสดงศิลปะแบ่งตามประเภทและยุคสมัย อาทิ ยุคกรีก ยุคอียิปต์โบราณ
ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดก็คือ “โมนาลิซ่า” ภาพวาดสีน้ำมันอันโด่งดัง ฝีมือของลีโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่งเป็นภาพสุภาพสตรีที่มีรอยยิ้มอันเป็นปริศนา ผู้คนมากมายเบียดเสียดกันเข้ามาชมความงามอันเป็นปริศนานี้ โมนาลิซ่าจึงถูกเก็บรักษาอย่างดีภายในตู้กระจกปรับอากาศกันกระสุน ตัวจริงของภาพโมนาลิซ่านั้นไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับที่จินตนาการ แต่ผู้คนก็ให้ความสนใจเธอกันเป็นจำนวนมาก
พระราชวังแวร์ซาย
“พระราชวังแวร์ซาย” (Chateau de Versailles) ตั้งอยู่ในเมืองแวร์ซายส์ (Versailles) ทางตะวันตกของกรุงปารีส ห่างจากใจกลางเมืองปารีสมาราวๆ 17 กิโลเมตร เป็นพระราชวังที่ใหญ่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1661 ในสมัยของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ก่อนจะมีการบูรณะต่อเติมเรื่อยมา และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก โดยยูเนสโก ในปี ค.ศ.1979
พระราชวังแห่งนี้แบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ The Palace, The Gardens, The Estate of Trianon, The Royal Stables และ The Park โดยตัวอาคารหลักของพระราชวังแวร์ซายคือ The Palace ที่มีสถาปัตยกรรมแบบบาโรค-รอคโคโค แบ่งเป็นห้องมากกว่า 700 ห้อง หน้าต่างอีกกว่า 2,000 บาน และบันไดราวๆ 60 บันได ห้องที่ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่คือ ห้อง The Hall of Mirrors มีหน้าต่างบานใหญ่ทั้งหมด 17 บาน ถ้าเปิดออกจะพบกับสวนแวร์ซายอันงดงาม ผนังตกแต่งด้วยภาพวาดและโคมไฟสุดอลังการ
และนอกจากที่ตัวอาคารหลักแล้ว ที่พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นสถานที่รวบรวมงานจิตรกรรมกว่า 6,123 ภาพ และงานประติมากรรมจากศิลปินชั้นเอกกว่า 15,034 ชิ้น รวมถึง “สวนแวร์ซาย” สวนที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ประกอบไปด้วยน้ำพุ ทะเลสาบจำลอง รูปปั้นต่างๆ ตั้งแต่สัตว์ไปจนถึงเทพเจ้ากรีก สวนแห่งนี้ยังเป็นการใช้ระบบชลประทานรูปแบบใหม่ โดยมีการขุดคลองจากแม่น้ำเซนน์ซายส์มายังสวน และใช้เครื่องปั๊มน้ำ ทำให้เกิดเป็นน้ำพุทั่วทั้งอุทยาน
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline