พาไปรู้จักกับ “แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อ่างกาหลวง” บนยอดดอยอินทนนท์ ที่ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 2,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สูงที่สุดในไทย ซึ่งใช้ในพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ นับจากโบราณมาจนถึงปัจจุบัน
“ดอยอินทนนท์” อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งของจุดที่สูงที่สุดในเมืองไทย หรือ “จุดสูงสุดแดนสยาม” ณ ระดับความสูง 2,565.3341 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ดอยแห่งนี้เดิมเรียกขานกันว่า “ดอยหลวง” ที่หมายถึงขุนเขาที่มีขนาดใหญ่ และ “ดอยอ่างกา” ซึ่งมีเรื่องเล่าขานกันว่า บนยอดดอยมี “อ่างกา” เป็นแอ่งน้ำจืดที่ฝูงกาจำนวนมากชอบลงไปเล่นน้ำ จึงเป็นที่มาของ “ดอยอ่างกา” ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น “ดอยอินทนนท์” ตามพระนามของ “พระเจ้าอินทรวิชยานนท์” ในเวลาต่อมาหลังจากท่านสิ้นพระชนม์
สำหรับอ่างกาหรืออ่างกาหลวง เป็นหย่อมป่าที่มีลักษณะพิเศษมีระบบนิเวศแตกต่างจากผืนป่าทั่วไปในบ้านเรา นอกจากจะเป็น “ป่าเมฆ” ที่เกิดจากอากาศหนาวเย็นตลอดปีแล้ว กลางผืนป่าอ่างกายังเป็นแอ่งซับน้ำในลักษณะของ “ป่าพรุภูเขา” บนยอดดอยที่สูงที่สุดในเมืองไทย
ปัจจุบันทาง “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์” ได้จัดสร้าง “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” ระยะทาง 320 เมตร เป็นเส้นทางวงรอบเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินสัมผัสมนต์เสน่ห์ของผืนป่าอ่างกากันอย่างใกล้ชิด
ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับผืนป่าที่มีบรรยากาศดูคล้าย “ป่าโบราณ” หรือ “ป่าดึกดำบรรพ์” อันเนื่องมาจากการปรับตัวของต้นไม้น้อยใหญ่ให้เข้ากับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บและมีความชื้นสูง ทำให้ตามลำต้นกิ่งก้าน มี มอส เฟิน ฝอยลม ขึ้นปกคลุมหนาแน่น จนได้รับการขนานนามให้เป็น “ต้นไม้ใส่เสื้อผ้า” ที่ดูสวยงามน่าทึ่งไม่น้อย
นอกจากนี้ก่อนถึงปากทางเข้า-ออก ของเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ด้านขวามือยังมีอันซีนเชียงใหม่ คือ “แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์” ที่ใช้ในประเพณีสรงพระธาตุจอมทอง และใช้ประกอบในพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ มาช้านาน
แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อ่างกาหลวง ตั้งอยู่บนระดับความสูงราวกว่า 2,500 จากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นตาน้ำใต้ดินที่มีน้ำไหลผุดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้สร้างบ่อซีเมนต์เก็บน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็น 1 ใน 3 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในสมัยโบราณเมื่อต้องการใช้น้ำพระพุทธมนต์ประกอบพระราชพิธี เช่น น้ำอภิเษก น้ำบรมราชาภิเษก และน้ำพิพัฒน์สัตยา เป็นต้น เจ้าเมืองก็จะให้ราชบุรุษไปพลีกรรม นำน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อ่างกาหลวงมาประกอบพิธีทุกครั้งไป
สำหรับในปี พ.ศ.2567 ซึ่งเป็นปีมหามงคล ทางรัฐบาลได้จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่ง 76 จังหวัด เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2567 ด้วยฤกษ์เวลา 14.49 น. เป็นต้นไป โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำขึ้นพร้อมกัน ใน 3 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อ่างกาหลวง อำเภอจอมทอง แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ขุนแม่ปิง อำเภอเชียงดาว และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดบุพพาราม อำเภอเมืองเชียงใหม่
แล้วจึงอัญเชิญน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 แห่ง ไปประดิษฐาน ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เพื่อเตรียมประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม จะเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เดินทางไปประดิษฐานที่กระทรวงมหาดไทย ในการทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาต่อไป