ททท.เดินหน้าส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง ปั้นระนองเป็น “มหานครแห่งน้ำแร่” เตรียมยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใต้แคมเปญ “สุขทันทีที่เที่ยวระนอง” พร้อมปักหมุด13 แหล่งแช่น้ำแร่สุดฟิน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน
ช่วงชื่อของจังหวัด “ระนอง” เนื้อหอมไม่หยุด ปรากฏตามหน้าสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง หลังรัฐบาลเลือกเป็นพื้นที่จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในวันที่ 23 ม.ค.67 ในพื้นที่โซน 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
โดยนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ช่วงระหว่างลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจก่อนการประชุม (22 ม.ค.67) ที่จังหวัดระนอง มีเนื้อหาดังนี้
ริมทะเลยามเย็นที่ระนองครับ
ที่นี่อากาศดี ทะเลสวย วิวสวย อาหารอร่อย เหมาะกับการมาท่องเที่ยว และพักผ่อนครับ ผมเชื่อว่า ระนองมีศักยภาพมากเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตในอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากโครงการ Landbridge ยิ่งได้มายืนดูตรงนี้ด้วยตัวเอง ยิ่งเห็นภาพชัดครับ
พร้อมกันนี้ นายเศรษฐา และคณะรัฐมนตรี ทั้ง 20 กระทรวง ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ในระหว่างวันที่ 22 – 23 มกราคม 2567 เพื่อตรวจราชการที่สำคัญในหลายมิติ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การพัฒนาให้ท่าเรือระนองสามารถบริการแบบ one stop service ทั้งเรื่องท่องเที่ยว การเดินทาง และการพิจารณาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดระนอง การรับฟังความคิดเห็นและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมงและกลุ่มอื่นๆ ในพื้นที่ และติดตามพื้นที่โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย - อันดามัน (Land Bridge ชุมพร - ระนอง) ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 ณ หอประชุมจังหวัดระนอง พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง)ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ในช่วงเช้าวันที่ 23 มกราคม 2567
ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 มีมติมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการ 2 ประการสำคัญ ได้แก่ 1) ส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งศึกษาคุณประโยชน์เชิงสุขภาพของน้ำแร่จังหวัดระนองเพิ่มเติม เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ควบคู่กับประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในระนองให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างมากยิ่งขึ้น และ 2) เร่งจัดการประชุมรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวระหว่าง ไทย เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบในโครงการทั้งสิ้น 18 โครงการ แบ่งเป็นโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ 13 โครงการ มูลค่า 350 ล้านบาท และโครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชน 5 โครงการ มูลค่า 202 ล้านบาทด้วย
สำหรับจังหวัดระนอง เป็นพื้นที่ดำเนินโครงการ Landbridge อภิมหาโปรเจกต์เชื่อม 2 ฝั่งทะเล “อ่าวไทย-อันดามัน” (ชุมพร-ระนอง) นอกจากนี้ระนองยังเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำแร่ ที่นี่เป็นแหล่งน้ำแร่คุณภาพติด 1 ใน 3 ของโลก
นายสันติ พร้อมพัฒน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจราชการในการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดระนอง ว่า รัฐบาลและ สธ.มีนโยบายนำเรื่องสุขภาพมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยการพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งระนอง มีศักยภาพที่จะพัฒนายกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลกได้ จากความโดดเด่นของการมีแหล่ง “น้ำแร่” ที่มีคุณภาพดีเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และติด 1 ใน 3 ของโลก สามารถนำมาใช้บำบัดผู้ป่วยและให้บริการสปา เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และยังมีสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองเป็นศูนย์เวลเนสแล้วถึง 37 แห่ง ประกอบด้วย ที่พักนักท่องเที่ยว (โรงแรมและรีสอร์ท) 14 แห่ง, ร้านอาหารหรือภัตตาคาร 18 แห่ง, นวดเพื่อสุขภาพ 1 แห่ง, สปาเพื่อสุขภาพ 1 แห่ง และสถานพยาบาล 3 แห่ง
นายสันติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้น้ำแร่ร้อนบำบัดอาการและสปาเป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ด้าน “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)”ได้ขานรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เตรียมยกระดับ “ระนอง” ด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness Tourism) ภายใต้แคมเปญ “สุขทันทีที่เที่ยวระนอง”ชูจุดเด่นความเป็น “ระนองมหานครแห่งน้ำแร่”พร้อมปักหมุด 13 แหล่งแช่น้ำแร่ร้อนพร้อมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า จังหวัดระนอง ถือเป็นจังหวัดเมืองรองศักยภาพและพร้อมพัฒนาให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ททท. จึงเตรียมชูจุดแข็งความเป็น “ระนองมหานครน้ำแร่” และนำเสนอคุณประโยชน์ของน้ำแร่ระนอง ผ่าน 13 แหล่งแช่น้ำร้อน ผสมผสานกับรูปแบบการท่องเที่ยว city tour ชุมชน และธรรมชาติ ภายใต้แคมเปญ “สุขทันทีที่เที่ยวระนอง” เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดระนองให้เป็นที่รู้จัก พร้อมก้าวสู่การเป็น Wellness City ชั้นนำของโลกต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ททท. ได้ปักหมุด 13 แหล่งแช่น้ำแร่ร้อนสุดฟินในจังหวัดระนอง ได้แก่
1.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน
2.บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
3.น้ำนอง ฮอทสปา
4.ธาริน ฮอทสปริง
5.ราชาวดีสปาและน้ำแร่ (โรงพยาบาลระนอง)
6.ทินิดี ฮอทสปริง
7.น้ำใสเขาสวย รีสอร์ท
8.บ้านในหมง
9.โรงแรมกาญจน์ญาภา ฮอทสปริง
10.Wellness Sports Club Ranong
11.รัก ระนอง ฮอทสปริง สปา
12.บ่อน้ำร้อนพรุหลุมพี
13.บ่อน้ำร้อนบ้านหาดยาย อ.ละอุ่น
นอกจากนี้ ททท. ยังผสมผสานการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว City Tour ชุมชน และเกาะ ๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นอีกมิติหนึ่งที่ทำให้การท่องเที่ยวจังหวัดระนองเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ ททท. ยังมีทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระนอง ปี 2567 ผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ และมีแนวคิดนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ชุมพร-ระนอง และเส้นทาง ระนอง-พังงา รวมไปถึง Mega project ของจังหวัดระนองที่จะร่วมดำเนินงานกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โครงการขยายช่องทางจราจร และโครงการท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อเป็นศูนย์กลางการรับส่งนักท่องเที่ยวชาวไทย เมียนมา ซึ่งจะเป็นโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาค อันจะเป็นปัจจัยสนับสุนการเพิ่มรายได้ท่องเที่ยว จ.ระนอง ไม่ต่ำกว่าปี 2566 จาก 6,727 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท ตามที่ ททท. ตั้งเป้าหมายไว้