“อุ้มผาง” นอกจะเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว ดินแดน “แผ่นดินดอยลอยฟ้า” แห่งนี้ยังรุ่มรวยไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ นำโดยพระเอก “ทีลอซู” น้ำตกชื่อดังที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในเมืองไทย
นอกจากนี้อุ้มผางวันนี้ยังมีนางเอก คือ “น้ำตกสายรุ้ง” อันซีนแห่งใหม่ มาเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดในเส้นทางล่องแก่งลำน้ำแม่กลอง “อุ้มผาง-น้ำตกสายรุ้ง-ทีลอซู” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวสุดว้าวที่น่าตื่นตาตื่นใจกระไรปานนั้น
ล่องลำน้ำแม่กลอง
สำหรับกิจกรรมทัวร์ล่องแก่งพิชิตทีลอซู ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในอุ้มผางมักจะขายเป็นแพกเกจ 3 วัน 2 คืน รวมอาหาร-ที่พัก กิจกรรมล่องเรือยาง ไกด์ รถรับ-ส่ง และเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ โดยจุดเริ่มต้นล่องแก่งจะอยู่ในตัวเมืองบริเวณ “สบห้วย” ซึ่งเป็นสบที่แม่น้ำอุ้มผางกับแม่น้ำแม่กลองไหลมาบรรจบกันรวมเป็นแม่น้ำแม่กลอง ไหลยาวจากอุ้มผาง จ.ตาก ผ่านหลายจังหวัดไปออกอ่าวไทยที่สมุทรสงคราม
จากนั้นคณะเราที่เลือกใช้บริการแพกเกจทัวร์ของ “ตูกะสู คอทเทจ” ก็ลงเรือยางล่องไปตามลำน้ำแม่กลองที่ไหลเอื่อย ระหว่างทางสวยงามไปด้วยทิวทัศน์สองฟากฝั่งที่อุดมไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ดูร่มรื่นเขียวครึ้ม ด้านหนึ่งเป็นหน้าผาสูงใหญ่ตระหง่าน โดยมีหน้าผาต่าง ๆ เช่น (ถ้ำ) ผาโหว่ ผานางกวัก (หินรูปมือ) ผาแหงน ทักทายเราไปเป็นระยะ ๆ
ประมาณครึ่งชั่วโมงเรือจะล่องมาถึง “ทีลอจ่อ” ที่เป็นภาษากะเหรี่ยงหมายถึง “น้ำตกสายฝน” ที่มีลักษณะพิเศษเป็นน้ำตกที่เกิดจากน้ำไหลซึมผ่านดิน แล้วหยดเป็นม่านน้ำลงมาดูคล้าย (สาย) ฝนตกพรำยาวประมาณ 300 เมตร บางช่วงมองเห็นเป็นริ้วหินปูนรูปร่างแปลกตา ส่วนบางช่วงเป็นดงเฟินและตะไคร่ที่ดูเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำสบายตา
จับสายรุ้งกลางน้ำตก เปิดประสบการณ์สุดอันซีน
ถัดจากน้ำตกสายฝนไปเป็น “น้ำตกสายรุ้ง” อันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดตากที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา น้ำตกแห่งนี้เป็นแนวน้ำตกสายเดียวกับทีลอจ่อ แต่เป็นทีลอจ่อโซนท้ายสุด ซึ่งตอนหลังมีการเรียกชื่อใหม่ตามลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติว่า "น้ำตกสายรุ้ง"
น้ำตกสายรุ้ง (ทีลอจ่อโซนท้าย) มีลักษณะเป็นน้ำซึมผ่านชั้นดินแล้วไหลเป็นม่านสายน้ำ (คล้ายฝนตก) เมื่อต้องแสงแดดยามสายประมาณ 09.00-10.00 น. จะเกิดการหักเหของแสงมองเห็นเป็นสายรุ้งตัวอ้วนทอดตัวโค้งงามอยู่ในม่านน้ำตก
นอกจากนี้ในบางช่วงบางมุมเราจะมองเห็นเป็น “รุ้ง 2 ตัว” หรือ “รุ้ง 2 ชั้น” กินน้ำ ที่จัดว่าเด็ดยิ่งนัก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเข้าไปสัมผัสกับสายรุ้งในม่านน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
หลังจากนั้นเรือยางจะล่องไปขึ้นฝั่งที่ “บ่อน้ำร้อน” จุดแวะพักกลางทางท่ามกลางบรรยากาศของป่าไผ่อันร่มรื่น โดยมีบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติ (อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส) ทั้งบ่อเล็ก-บ่อใหญ่ ให้แช่เท้าคลายเมื่อยล้า รวมถึงมีซุปเปอร์มาร์เก็ตชาวดอยชายพวกของกินรองท้อง อย่าง หมูปิ้ง ไข่ปิ้ง กล้วยปิ้ง มันปิ้ง เครื่องดื่ม ชาชาวดอย ฯ และ “ห้องน้ำ” ให้บริการปลดทุกข์หนัก-เบา ก่อนออกล่องเรือต่อไป
ผาเลือด-ทีลอซู
เส้นทางล่องเรือลำน้ำแม่กลองสู่ทีลอซูในช่วงครึ่งหลัง ระหว่างทางยังคงสวยงามร่มรื่น บางช่วงก็จะมีนกสีสันสวยงามโผล่ออกมาอวดโฉม บางช่วงมองเห็นต้นจันทน์ผาขึ้นเรียงรายริมหน้าผา ก่อนที่ฝีพายจะพาเรือไปแวะชม “น้ำตกมอลู่” น้ำตกเล็ก ๆ สายน้ำไหลแรง แล้วพาไปขึ้นฝั่งยัง “ผาเลือด” (หน่วยพิทักษ์ป่าผาเลือด) จุดนั่งรถต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ซึ่งร่วมระยะทางล่องเรือยางราว 14-15 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
ผาเลือดเป็นหน้าผาสีแดงเกิดจากการสะสมของแร่ธาตุที่อยู่ในชั้นดินและหิน จากผาเลือดเราต้องนั่งรถ 2 แถวสมรรถนะสูง เข้าป่าฝ่าถนนคอนกรีตและถนนดินอันคดเคี้ยวเลี้ยวลดไปอีกประมาณ 14 กม. ก็จะถึงยังจุดสิ้นสุดทางรถยนต์บริเวณที่ทำการ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง” (น้ำตกทีลอซู)
ที่นี่เป็นทั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สถานที่พักแรม ลานกางเต็นท์ (สำหรับผู้พักค้าง) และเส้นทางเดินเท้าสู่ตัวน้ำตกทีลอซูระยะทาง 1.5 กม. กับเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนทางเดินคอนกรีตสบาย ๆ มีเดินขึ้น-ลง บ้างตามสภาพพื้นที่ ผ่านไปในผืนป่าใหญ่อันสวยงามร่มรื่น ก่อนจะไปสิ้นสุดยัง “ทีลอซู” น้ำตกที่ยิ่งใหญ่สวยงามอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่ต้อนรับเราด้วยเสียงดังสนั่นของสายน้ำที่โจนทะยานกับความงดงามอลังการของสายน้ำที่ปรากฏในเบื้องหน้า
ทีลอซู น้ำตกใหญ่ สวยที่สุดในเมืองไทย
น้ำตกทีลอซูเกิดจากลำห้วย “กล้อท้อ” ที่อยู่เหนือน้ำตกไปทางฝั่งประเทศเมียนมาร์ ซึ่งสายน้ำได้ก่อเกิดจากลำห้วยเล็ก ๆ ก่อนไหลรวมกับลำห้วยสาขาน้อย-ใหญ่ เกิดเป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงราว 300 เมตร กว้าง ประมาณ 500 เมตร
ทีลอซูมีทั้งหมด 5 ชั้น (ชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่จะนับชั้น 1 จากข้างบนลงมา) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมอย่างใกล้ชิดได้ถึงชั้น 3 ที่มีลักษณะเป็นน้ำตกสายใหญ่ไหลตกลงมายังแอ่งน้ำขนาดใหญ่เบื้องล่าง
ส่วนใครที่ต้องการเล่นน้ำ ทางขสป.อุ้มผาง ได้จัดจุดเล่นน้ำอย่างปลอดภัยไว้ให้ในบริเวณแถวชั้น 2 (นับจากชั้นล่างขึ้นไป) ซึ่งมีลักษณะเป็นน้ำตกเล็ก ๆ มีแอ่งน้ำไหลเย็นให้ลงแหวกว่ายแช่ตัวในแอ่งจากุซซี่ธรรมชาติอันสุดฟิน
ทีลอซู หรือทีหล่อซู ชื่อนี้เป็นภาษากะเหรี่ยง (ปกากะญอ) ทีแปลว่า น้ำ, ลอหรือหล่อแปลว่า ไหล ส่วนซู หมายถึงการไหลลงมาอย่างรุนแรงของสายน้ำปะทะกับพื้นเบื้องล่าง (ข้อมูลจาก ขสป.อุ้มผาง)
ในอดีตมีข้อมูลที่ทำให้หลายคนสับสน ว่า “ทีลอซู” หมายถึง “น้ำตกดำ” หรือ “น้ำตกสีดำ” ซึ่งคาดว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า “น้ำตกดัง” หรือ “น้ำตกเสียงดัง” ตามการพูดภาษาไทยที่ออกเสียงไม่ชัดของชาวกะเหรี่ยงในอดีต
อย่างไรก็ดีหากพิจารณาดูให้ดี จะพบว่าน้ำตกทีลอซูไม่ได้มีลักษณะทางกายภาพดูเป็นสีดำแต่อย่างใด ทำให้ปัจจุบันจึงมีการให้ข้อมูลความหมายใหม่ของชื่อทีลอซู ซึ่งนอกจากน้ำตกดังและน้ำตกเสียงดังแล้ว ยังรวมถึง “น้ำตกใหญ่” ที่เรียกขานตามลักษณะความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกแห่งนี้
วันนี้ทีลอซูนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในเมืองไทย ยังถูกยกให้เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย รวมถึงมีความสวยงามติดระดับโลก ซึ่งเป็นดังแม่เหล็กชั้นดีดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนอุ้มผางในช่วงไฮซีซั่นกันเป็นจำนวนมาก
โบสถ์ไม้สักทอง-ถนนคนเดิน-ดอยหัวหมด
หลังเพลิดเพลินจากการเที่ยวน้ำตกทีลอซูอย่างจุใจ ขากลับเรานั่งรถยาวประมาณ 25 กม. จากบริเวณน้ำตกทีลอซูมาออกที่หน่วยพิทักษ์ฯ หนองหลวง ขสป.อุ้มผาง
จากนั้นเราแวะไปยัง “วัดหนองหลวง” (บ้านหนองหลวง ต.หนองหลวง อ.อุ้มผาง) ซึ่งเป็นวัดที่ชาวกะเหรี่ยงได้ร่วมแรงร่วมใจกันขึ้นมา ภายในวัดมีไฮไลต์คือ “โบสถ์ไม้สักทอง” อันงดงามสมส่วน และ “หลวงพ่อศิลา (หยกขาว)” พระพุทธรูปศิลปะพม่าให้กราบสักการะเสริมสิริมงคล
ส่วนใครถ้ามาถึงอุ้มผางในวันศุกร์หรือเสาร์ ที่นี่จะมีการจัดถนนคนเดินอุ้มผาง ในเวลาประมาณ 17.00-21.00 น. ที่บริเวณตลาดชุมชน เทศบาลอุ้มผาง ซึ่งแม้จะเป็นถนนคนเดินเล็ก ๆ เน้นขายอาหารของกินท้องถิ่นและสินค้าชุมชน แต่ว่าก็น่าเดินไม่น้อย เนื่องจากมี “สะพานบุญไม้ไผ่อุพะ” (อุพะที่มาของชื่ออุ้มผาง) เป็นสะพานไม้ไผ่ขัดแตะคล้ายสะพานซูตองเป้ ให้เราเดินเที่ยว เช็กอินถ่ายรูปกับไฟประดับหลากสีสันและพร็อพเก๋ ๆ ที่มีอยู่หลายจุดด้วยกัน
ขณะที่ในวันรุ่งขึ้น (วันที่ 3 ) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของทริป โปรแกรมทัวร์ส่วนใหญ่จะพาขึ้น “ดอยหัวหมด” เพื่อชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าก่อนปิดทริป เดินทางกลับออกจากอุ้มผาง ที่ต้องฟันฝ่าผ่าน "1,219 โค้ง" อีกครั้ง ซึ่งหลายคน ๆ อาจจะประสบกับสภาวะอ้วกแตกอ้วกแตนกันเล็กน้อยถึงปานกลาง (ซ้ำขามาอีกครั้ง) แต่นั่นกลับกลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของการพิชิตอุ้มผาง ซึ่งหลายคนเมื่อได้มาเยือนดินแดนแผ่นดินดอยลอยฟ้าแห่งนี้ต่างก็ประทับใจ ติดตรึงอุรามิมีเสื่อมคลายเหมือนดังกับบทเพลง “แอ่วอุ้มผาง” ของ “ครูซัน” ที่เรายังจำได้ติดหูมาจนวันนี้
“ชื่ออุ้มผางคุณรู้จักไหม ดินแดนที่แสนห่างไกล ท่ามกลางแมกไม้สายธาร
ในอดีต เป็นแดนที่แสนกันดาร เคยมีเรื่องราวกล่าวขาน กลายเป็นตำนานผ่านมา
ขอเชิญชวนเที่ยวชมสักครา ธรรมชาติงดงามหนักหนา ตรึงอุรามิมีเสื่อมคลาย...”
เพลง “แอ่วอุ้มผาง” : ครูซัน : สมพงศ์ หมื่นจิต (คุณครูนักสู้ผู้ล่วงลับ)
##################################
น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก เปิดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี (แต่ปีนี้เปิดตั้งแต่ 1 ก.ย. 66)
ผู้ที่จะไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู นอกจากเส้นทางล่องแก่งตามลำน้ำแม่กลองตามที่ได้กล่าวมาในบทความแล้ว ยังสามารถไปได้ทางถนน (รถยนต์) จาก หน่วยฯ ห้วยหนองหลวง สู่ที่ทำการ ขสป.อุ้มผาง (น้ำตกทีลอซู)ระยะทาง 25 กม. เป็นถนนลูกรังมีสภาพคดเคี้ยว ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ขสป.อุ้มผาง โทร. 0-5557-7318, 088 427 5272 และสอบถามเรื่องที่พัก แพกเกจทัวร์ กิจกรรมท่องเที่ยวได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์อุ้มผาง โทร. 0-5556-1338
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถนำยาที่เหลือใช้ (แต่ไม่หมดอายุ) จากการกินยาไม่หมด ถูกเปลี่ยนยา หรือด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ มาบริจาคให้กับ “มูลนิธิโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อมนุษยธรรม” เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่อยู่ตามแนวชายแดนหรือผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อมนุษยธรรม โทร. 0-5556-1270 ต่อ 158
และสามารถสอบถามข้อมูลที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตาก ได้ที่ ททท. สำนักงานตาก โทร. 0-5551-4341-3