กาญจนบุรี - นักผจญภัยทะลักร่วมพิชิตสันหนอกวัวไม่เว้นวันหยุด ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย มองเห็นทิวทัศน์รอบทิศ 360 องศา ส่วนสองสามีภรรยาชาวสุราษฎร์ฯ ตะลุยเที่ยวบ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก สุดประทับใจ แต่ขอไปฟิตร่างกาย แล้วจะกลับมาใหม่หวังพิชิต สันหนอกวัว
วันนี้ (24 พ.ย.) นายอภิสิทธิ สมบัติมาศ หรือหัวหน้าเบิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เปิดเผยว่า ด้วยอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามโดดเด่น เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวหลายแห่ง โดยเฉพาะป่าเขาเขียว-เขาใหญ่ หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ซึ่งลักษณะขอดเขาคล้ายหนอกวัว จึงเป็นที่มาของคำว่า “สันหนอกวัว” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สันหนอกวัวเป็นเส้นทางเดินเพื่อศึกษาธรรมชาติที่มีความท้าทาย มีระยะทาง 9 กิโลเมตร เป็นยอดเขาสูงสุดอันดับ 1 ในจังหวัดกาญจนบุรี ระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.)
ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชาและศึกษาธรรมชาติ ประจำปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.66-วันที่ 11 ก.พ.67 เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้สัมผัสและศึกษาธรรมชาติได้โดยตรง และเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ สามารถควบคุมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยู่ในขีดความสามารถในการรองรับได้
อุทยานแห่งชาติ จึงจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปวันละไม่เกิน 120 คน หรือประมาณ 15 กลุ่มๆ ละ 7 คน โดยมีค่าใช้จ่ายสำหรับทริปพิชิตสันหนอกวัว กลุ่มละ 6,000 บาท เมื่อนำไปเฉลี่ยกันจะตกกลุ่มละประมาณ 857 บาท ถือว่าไม่แพง
สำหรับเขาสันหนอกวัว เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีระยะทางเดินเท้า 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 6 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางจะได้พบกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่มีความหลากหลาย รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิด ไฮไลต์คือ จุดชมวิวบนยอดเขานั้นสามารถมองเห็นวิวธรรมชาติของผืนป่า รวมทั้งบรรยากาศเมฆหมอกที่ปกคลุมทิวเขา และมองเห็นทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณได้ 360 องศา ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ช่วงเช้าและเย็นจะได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและลง เมฆบนท้องฟ้าจะเปล่งประกายเป็นสีเหลืองทอง ส่วนในช่วงกลางคืนจะมองเห็นดวงดาวที่เปล่งประกายเต็มท้องฟ้า จะเป็นภาพที่สวยงามทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เฉพาะวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุดมีเป็นจำนวนมากแล้ว
นายอภิสิทธิ สมบัติมาศ หรือหัวหน้าเบิ้ม กล่าวว่า หลังจากจบทริปพิชิต “สันหนอกวัว” หากนักท่องเที่ยวยังพอมีเวลาพอสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวชมบรรยากาศความสวยงามของสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ รวมทั้งล่องเรือไปชมโบสถ์จมน้ำ หรือเมืองบาดาล วัดวังก์วิเวการามเก่า รวมทั้งไปชมโบสถ์ของวัดสมเด็จ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาริมทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ ภายในมีพระพุทธรูปที่เก่าแก่ดูศักดิ์สิทธิ์และสวยงามไปอีกแบบ
ขากลับแวะพักผ่อนคลายความง่วงนอนจากการขับรถ ด้วยการเที่ยวชมความสวยงามของน้ำตกเกริงกะเวีย ตั้งอยู่ริมถนนสาย 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้จัดเตรียมสถานที่จอดรถเอาไว้อย่างสะดวกสบาย ภายในมีร้านสวัสดิการจำหน่วยอาหาร ของที่ระลึก และกาแฟคอยบริการอีกด้วย
ด้านคุณสมรรถกร หรือพี่นก และคุณ จันทร์จิรา หรือพี่หญิง สระศรี สองสามีภรรยาที่มาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันกล่าวว่า ครอบครัวของเราอยู่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบธุรกิจหมู่บ้านจัดสรร ชื่อโครงการบ้านจันทร์จิรา วิลเลจ สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัวเรา เพราะสมัยเป็นเด็กเคยเรียนหนังสืออยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีมาก่อน ก่อนที่จะกลับไปอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ถึงแม้ว่าจังหวัดสุราษฎร์ฯ จะอยู่ห่างจากจังหวัดกาญจนบุรี ไกลถึง 800 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทาง 8-9 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่อุปสรรคของเรา เพราะทุกปีครอบครัวของเราจะเดินทางมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่ครอบครัวเรานับถืออยู่เป็นประจำทุกปี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากนัก
มาในครั้งนี้จึงมีความตั้งใจว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนและชมบรรยากาศของบ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ซึ่งการเดินทางนั้นไม่ง่ายเลยเพราะต้องขึ้นและลงภูเขาที่สูงชัน สองข้างทางเป็นหน้าผา และมีโค้งที่แตกต่างกันไปมากถึง 399 โค้ง ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายของคนขับรถทุกชนิดเป็นอย่างมาก แต่ความท้าทายนั้นเต็มไปด้วยอากาศที่เย็นสบาย สองฟากฝั่งร่มรื่นไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก การที่ได้มาเที่ยวชมบรรยากาศและนอนพักผ่อนที่บ้านอีต่องถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
และนอกจากนี้ เรายังได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี ด้วยการนั่งเรือไปชมความสวยงานของโบสถ์จมน้ำ รวมทั้งสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ก่อนที่จะกลับมานอนพักผ่อนที่จุดชมวิวป้อมปี่ เมื่อตื่นเช้ามาพบบรรดากลุ่มนักท่องเที่ยวที่แต่งตัวอย่างรัดกุม จากการสอบถามทราบว่าทุกคนเดินทางมาเพื่อพิชิตสันหนอกวัว ระยะทาง 9 กิโลเมตร จากที่ได้ดูพบว่าทุกคนต่างมีร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้นตนกับภรรยาจึงต้องการที่จะกลับมาพิชิตสันหนอกวัวให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่จะขอกลับไปฟิตร่างกายให้แข็งแรงกว่านี้ก่อน แล้วเราจะกลับมาพิชิตสันหนอกวัวให้ได้