xs
xsm
sm
md
lg

“ดูไบ” มหัศจรรย์เมืองแมนเมด กับสิ่งก่อสร้างสุดล้ำ “ที่สุดในโลก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


ดูไบ มหัศจรรย์เมืองแมนเมด กับสถาปัตยกรรมตึกกรอบรูปใหญ่ที่สุดในโลก
“เมืองดูไบ” (Dubai) แห่งประเทศอาหรับเอมิเรตส์ (สหพันธรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เป็นหนึ่งในมหานครล้ำสมัยอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็น ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งก่อสร้าง สถาปัตยกรรม โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม อีกทั้งยังเป็นฮับสำคัญทางการบินแห่งภูมิภาคที่เชื่อมต่อระหว่างโลกอาหรับไปยังประเทศต่าง ๆ

นอกจากนี้ดูไบยังเป็นศูนย์กลางการบินของ “สายการบินเอมิเรตส์” (Emirates) สายการบินประจำชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีดีกรีรางวัลมากมายจนติดอันดับต้น ๆ ของสายการบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันสายการบินเอมิเรตส์ มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปยังดูไบ 35 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และจากภูเก็ตไปยังดูไบ14 เที่ยวบิน/สัปดาห์

ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ฮับเชื่อมโลกอาหรับสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
วันนี้ผู้มาเยือนดูไบส่วนใหญ่มักจะไม่พลาดการไปเที่ยวชมงานสถาปัตยกรรม และสิ่งก่อสร้างงานแมนเมดล้ำ ๆ ที่ส่วนใหญ่มีดีกรี “ที่สุดในโลก” พ่วงท้าย นับเป็นความมหัศจรรย์ของเมืองดูไบ (และวิสัยทัศน์ของผู้ปกครองเมือง) ที่สามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาพื้นที่ทะเลทรายอันร้อนแล้ง ให้กลายเป็นมหานครแห่งตึกระฟ้าในระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

เบิร์จ คาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลก


เบิร์จ คาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลก
สำหรับตึกสูงที่เป็นไฮไลต์ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวดูไบก็คือ ตึก “เบิร์จ คาลิฟา” (Burj Khalifa) หรือชื่อเดิมคือ ตึก “เบิร์จ ดูไบ” (Burj Dubai) ที่ตั้งตระหง่านยอดสูงเสียดฟ้าอยู่ในย่านดาวน์ทาวน์กลางเมืองใหม่ดูไบ

ตึกเบิร์จ คาลิฟา ตั้งชื่อตึกตามประธานาธิบดีคนที่สองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือ “Khalifa bin Zayed Al Nahyan” เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 2005 สร้างเสร็จในปี 2010 มีทั้งหมด 163 ชั้น มีความสูง 828 เมตร ครองตำแหน่งแชมป์ตึกสูงที่สุดในโลกนับตั้งแต่สร้างแล้วเสร็จมาจนถึงปัจจุบัน

ตัวเมืองดูไบมุมสูงเมื่อมองลงมาจากตึกเบิร์จ คาลิฟา
ตึกเบิร์จ คาลิฟา เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองดูไบและประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เคยเป็นฉากสำคัญในหนังดัง “Mission : Impossible (4) Ghost Protocol” ที่ป๋า “ทอม ครูซ” ไต่ระห่ำระฟ้าออกไปปีนป่ายบนตึกสูงแห่งนี้อย่างสุดหวาดเสียวลุ้นระทึก

ภายในตึกเบิร์จ คาลิฟา นอกจากจะเป็นที่ตั้งของ สำนักงาน โรงแรม ที่พัก ร้านอาหารแล้ว ยังมีจุดชมวิวในระดับชั้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น 124, 148 และ 152 ที่มีทั้งส่วนชมวิวในอาคารและระเบียงชมวิวนอกอาคาร

ระเบียงชมวิวบนตึกเบิร์จ คาลิฟา
เมื่อซื้อตั๋วขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงจากชั้นล่างขึ้นไปยังจุดชมวิวที่มีทั้งส่วนIndoor ภายในตึก และส่วน Outdoor บนระเบียงชมวิวรับลมเย็น ๆ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองดูไบในมุมสูงที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าได้อย่างรอบทิศ ทั้งยังมองเห็นไกลไปถึงท้องทะเล และทะเลทรายที่วันนี้กำลังมีสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาอีกเพียบ

ดูไบมอลล์ กับสิ่งที่สุดในโลก


ภายในดูไบมอลล์ ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตึกเบิร์จ คาลิฟา นอกจากจะเป็นจุดชมวิวที่มีจุดชมวิวบนอาคารสูงที่สุดในโลกแล้ว ยังมีภัตตาคารและสระว่ายน้ำสูงที่สุดในโลกอีกด้วย ขณะที่ด้านล่างของตึกก็เชื่อมต่อกับ “ดูไบมอลล์” (The Dubai Mall) ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยร้านค้ามากกว่า 1,200 ร้าน มีทั้งร้านแบรนด์เนมดังของโลก แบรนด์เนมดังของท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอาหรับ ร้านอาหาร-เครื่องดื่มมากมาย ซุปเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์อาหาร แฟชั่นอเวนิว สวนสนุก โรงภาพยนตร์ คิดส์ซาเนีย และอีกสารพัดร้านรวงและสินค้าต่าง ๆ ให้คนกระเป๋าหนักเลือกช้อปกันอย่างจุใจ

อุโมงค์กระจกลอดทะเลจำลองแห่ง Dubai Aquarium (ภาพจาก : visitdubai.com)
นอกจากนี้ห้างดูไบมอลล์ยังมี “Dubai Aquarium” อันน่าตื่นตาตื่นใจกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดอลังการ ที่ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่ามี “ตู้กระจกอะคริลิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” สามารถมองเห็นสัตว์ทะเลต่าง ๆ แหวกว่ายอย่างใกล้ชิดได้ในแบบพาโนรามา โดยมีไฮไลต์เป็นอุโมงค์กระจกทางเดินลอดใต้ท้องทะเลจำลอง ที่อุดมไปด้วยปลานานาชนิดและสัตว์น้ำทะเลต่าง ๆ ซึ่งรวมแล้วมีมากกว่า 30,000 ชนิดเลยทีเดียว

Dubai Fountain น้ำพุเต้นระบำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ห้างดูไบมอลล์ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเฝ้ารอชมกันอย่างเนืองแน่นนั่นก็คือ “Dubai Fountain” หรือ “น้ำพุแห่งดูไบ” อันตระการตาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นการแสดงโชว์น้ำพุหรือน้ำพุเต้นระบำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวกว่า 270 เมตร มีสายน้ำพุพุ่งขึ้นไปได้สูงสุดประมาณตึก 50 ชั้น โดยใช้น้ำรวมกันมากถึง 83,000 ลิตร

น้ำพุแห่งดูไบในมุมมองที่มีฉากหลังเป็นตึกเบิร์จ คาลิฟา
น้ำพุแห่งดูไบตั้งอยู่ในส่วนพื้นที่กลางแจ้งโซนด้านหน้าของห้างดูไบมอลล์ทุก ๆ เย็นไปจนถึงกลางคืน จะมีการแสดงโชว์น้ำพุเต้นระบำอันสุดอลังการประกอบบทเพลงเป็นรอบ ๆ ประมาณ 5 นาที กับบทเพลงหลากหลาย ท่ามกลางฉากหลังต่าง ๆ ที่สวยงาม โดยมีฉากไฮไลต์คือตึกเบิร์จ คาลิฟา ที่มีการฉายวิดีโอแมปปิ้งประกอบการแสดงไปบนอาคารตึกที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้

ดูไบเฟรม (ตึก) กรอบรูปยักษ์ สูงใหญ่ที่สุดในโลก


ดูไบเฟรม อลังการตึกกรอบรูปยักษ์สูงใหญ่ที่สุดในโลก
ในเมืองดูไบยังมี “ดูไบเฟรม” (Dubai Frame) เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่กับสถาปัตยกรรมสุดล้ำ ที่นอกจากจะดูสวยเด่นเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีดีกรีเป็นตึกทรง “กรอบรูป” ที่สูงใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

ดูไบเฟรม เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ตึกสูงชวนทึ่งของโลก กับสถาปัตยกรรมรูปทรงกรอบรูปยักษ์ ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บริเวณเขตแบ่งระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ของดูไบ

บนจุดชมวิวชั้น 48
ดูไบเฟรมใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 10 ปี ด้วยงบราว 1.39 พันล้านบาท เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2018 ตึกกรอบรูปยักษ์แห่งนี้มี 48 ชั้น สูง 150 เมตร กว้าง 83 เมตร ด้านนอกตกแต่งด้วยลวดลายอารบิกสีทอง ยามสะท้อนแสงแดดดูแวววาวมลังเมลือง

ภายในดูไบเฟรมเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิว เช็กอินบนชั้น 48 โดยด้านล่างฝั่งทางขึ้นลิฟต์ เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงบอกเล่าเรื่องราวของเมืองดูไบในอดีต

ตึกเบิร์จ คาลิฟา เมื่อมองจากดูไบเฟรม
จากพิพิธภัณฑ์ลิฟต์จะพาเราขึ้นสู่ชั้นที่ 48 เพื่อชมวิวมุมสูงของเมืองดูไบในแบบพาโนรามา 180 องศา ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งโซนเมืองเก่า และโซนเมืองใหม่มองเห็นตึกเบิร์จ คาลิฟา ตั้งโดดเด่นอยู่ไกล ๆ กลางเมือง โดยทางเดินบนพื้นชั้นนี้ บางช่วงจะทำเป็นพื้นกระจกใส มองทะลุลงไปเห็นถึงระดับพื้นดินซึ่งดูน่าตื่นเต้นและหวาดเสียวไม่น้อย
 
ขณะที่ขาลง (ลิฟต์คนละฝั่งกลับขาขึ้น) เมื่อมาถึงยังชั้นล่าง ดูไบเฟรมจะพานำชมอนาคตของเมืองดูไบที่มองไกลไปถึงปี 2030 ที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างและนวัตกรรมสุดล้ำ ดูปานประหนึ่งเมืองจินตนาการในหนังไซไฟยังไงยังงั้น

ดูไบมารีน่า
นอกจากเบิร์จ คาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ดูไบเฟรม สถาปัตยกรรมกรอบรูปยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และห้างดูไบมอลที่มากไปด้วยสิ่งที่เป็นที่สุดของโลกแล้ว ในดูไบยังสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง และงานแมดเมดหรูหรา อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ดูไบมารีน่า” (Dubai Marina) ย่านท่าเรือยอชต์สุดหรูที่เต็มไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้า, “พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต” (Museum of the Future) กัลป์สถาปัตยกรรมสุดล้ำที่ดูค้ายงานประติมากรรมขนาดยักษ์ประดับด้วยลวดลายภาษาอารบิก, “Burj Al Arab” หรือ “โรงแรมเรือใบ” โรงแรม 7 ดาวสุดหรูหราชื่อดังของโลก, “The Palm Islands” หรือ “หมู่เกาะต้นปาล์ม” เกาะเทียมรูปต้นปาล์มที่ถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างอลังการงานสร้าง จนถูกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกยุคปัจจุบัน

พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต
นอกจากนี้ดูไบยังมี “บุสตานิกา” (Bustanica) ฟาร์มแนวตั้งใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อความมั่นคงทางอาหารแห่งอนาคต รวมถึง “รีสอร์ตรูปดวงจันทร์” มูลค่านับแสนล้านบาท เพื่อสานฝันสำหรับผู้ที่ต้องการไปเหยียบดวงจันทร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอภิมหาโครงการในอนาคต

และนี่ก็เป็นเสน่ห์ของเมืองดูไบในด้านสร้างก่อสร้าง สถาปัตยกรรม งานแมนเมด ที่เริ่มต้นจากการเป็นเมืองชาวประมงเล็ก ๆ ริมอ่าวเปอร์เซียที่แวดล้อมไปด้วยทะเลทราย ก่อนค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในมหานครชั้นนำของโลก ที่หากใครไปเยือนดูไบแล้วไม่ได้พบกับสิ่งก่อสร้างใด ๆ ที่เป็นที่สุดในโลกนั้นถือว่ายังมาไม่ถึงดูไบโดยสมบูรณ์

Burj Al Arab หรือ โรงแรมเรือใบ




กำลังโหลดความคิดเห็น