xs
xsm
sm
md
lg

ไถหนาน เมืองประวัติศาสตร์ไต้หวัน - ชม 3 สีสันที่เที่ยวร่วมสมัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


Land Bank of Taiwan และบรรยากาศเมืองไถหนาน
ภูมิภาคตอนใต้ของไต้หวันเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กับวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของดินแดนแห่งนี้ก็ว่าได้ หนึ่งในนั้น คือ “ไถหนาน” (Tainan) อดีตเมืองหลวงและจังหวัดเก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน

ไถหนาน ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวัน เป็นเมืองที่มีความผสมผสานอิทธิพลทางวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก และมีเสน่ห์ในกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นด้วย เพราะเคยเป็นอาณานิคมของชาวดัตช์ และเคยถูกปกครองโดยญี่ปุ่น เมืองแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงยาวนานถึง 225 ปี  (ค.ศ. 1662-1887) ด้วยอดีตที่เคยเจริญรุ่งเรือง ไถหนานจึงมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีรากฐานทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า จนถึงยุคปัจจุบันก็โอบรับความร่วมสมัยแห่งยุคกลมกลืนกันได้อย่างลงตัวจนเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ควรปักหมุดการท่องเที่ยว

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในไถหนาน มีให้เลือกมากมาย เช่น “เขตอันผิง” หรือ “ต้าหยวน” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของชื่อ “ไต้หวัน” มีป้อมโบราณอันผิง อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี, แหล่งเที่ยวชมความงามทางธรรมชาติอย่างอุทยานฯ หรือเขื่อนต่างๆ, ทะเลสาบน้ำเค็มชีกู่ ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน, วัดวาอารามเก่าแก่ ฯลฯ

แต่เราขอแนะนำ 3 ที่เที่ยวที่เป็นสีสันแห่งความร่วมสมัย ผสมผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบ East Meet West เป็นอีกทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยว


ชั้นหนึ่ง “ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ”
“ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ” (Hayashi)
ลบภาพจำของห้างสรรพสินค้าแบบเดิมๆออกไปได้เลย เพราะ “ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ” เป็นห้างที่ปรับคอนเซปต์จุดขายในรูปแบบเชิงวัฒนธรรมและการสร้างสรรค์ ผสมกับบรรยากาศวินเทจย้อนเวลากลับไปในวันวานที่น่าหลงใหล

ห้างเก่าแก่แห่งนี้เปิดตัวในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1932 ซึ่งเป็นช่วงที่ไต้หวันถูกญี่ปุ่นยึดครอง โดยผู้ก่อตั้งก็เป็นนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นนามว่า “ฮายาชิ โฮอุชิ” นับเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งที่ 2 ของไต้หวัน และเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกทางภาคใต้

บรรยากาศกลิ่นอายย้อนยุคของห้างสรรพสินค้าฮายาชิ
ในช่วงเวลานั้นห้างฮายาชิมีความโดดเด่นหลายอย่างเป็นที่กล่าวถึง เช่น มีความสูงมากที่สุดจำนวน 6 ชั้น รวมชั้นดาดฟ้า เป็นห้างแห่งเดียวของไต้หวันที่มีลิฟต์ และมีศาลเจ้าบนชั้นดาดฟ้า อีกทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเปรียบเป็นตัวแทนแห่งความทันสมัยของยุค

บรรยากาศในห้างสรรพสินค้าฮายาชิ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ผู้ประกอบการได้ทยอยย้ายกลับประเทศญี่ปุ่น ห้างแห่งนี้จึงเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้งาน ก่อนที่จะประกาศให้เป็นโบราณสถานของเมืองไถหนาน ด้วยอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กแบบยุคโบราณที่มีความงดงามเชิงโครงสร้างสถาปัตยกรรม

สินค้าน่ารักๆในห้างสรรพสินค้าฮายาชิ
จนกระทั่งในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ.2014 ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ ได้เปิดให้เข้าชมอีกครั้งหลังการปรับปรุงใหม่ แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาสู่การเป็น “ห้างสรรพสินค้าเชิงวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์” ที่วางจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น ดีไซน์แปลกใหม่ มีแพคเกจน่ารักๆสวยงามน่าซื้อ และมีการผสมผสานระหว่างเสน่ห์ของสินค้าท้องถิ่นกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยสินค้าหลายอย่างก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะหาซื้อได้ที่ห้างแห่งนี้เท่านั้น

ชั้นดาดฟ้า “ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ” มองเห็น Land Bank of Taiwan
จุดสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนห้างดังแห่งเมืองไถหนาน เช่น ลิฟต์ที่ยังเป็นแบบหน้าปัดแบบเก่าซึ่งปัจจุบันน่าจะเป็นแบบเดียวที่เหลืออยู่ ในไต้หวัน ศาลเจ้ามีเสาโทริอิบนชั้นดาดฟ้า ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง รวมถึงความอลังการของ Land Bank of Taiwan ที่อยู่ฝั่งเยื้องกัน


ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ เปิดบริการทุกวัน 11.00-21.00 น.


ศาลเจ้าบนชั้นดาดฟ้า ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ


การเดินทาง รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานี Tainan และต่อรถไฟธรรมดา (TRA) จากสถานี Shalun มาลงที่สถานี Tainan และนั่งบัสสาย 14 ไปลงที่สถานี Mingquan Rd. (Beiji Temple)


สินค้าน่ารักๆในห้างสรรพสินค้าฮายาชิ
หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง (Ten Drum Cultural Village)
หมู่บ้านศิลปะและวัฒนธรรม “Ten Drum Cultural Village” สร้างขึ้นมาใหม่จากโรงงานน้ำตาลเก่าช่วงยุคนิคมของญี่ปุ่น ที่นี่มีโกดังเก่า จำนวน 22 โกดัง และเป็นโรงงานผลิตน้ำตาลมาก่อน ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้เป็นสวนสนุกที่มีกิจกรรมมากมาย และยังคงเป็นสถานที่สำคัญที่ได้มีการสืบสานมรดกทางอุตสาหกรรมและกลองโบราณดั้งเดิมของไต้หวัน

การตกแต่งสไตล์โลกเทพนิยายที่ หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง
จุดเปลี่ยนในปี ค.ศ. 2005 วง Ten Drum Band ได้นำวงดนตรีที่เน้นการตีกลองกลับมาใหม่ เพื่อเป็นแนวคิดในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งาน ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบจึงเสมือนการมอบชีวิตใหม่ให้กับโรงงานน้ำตาลอายุนับศตวรรษที่ถูกปล่อยร้างมานาน

การแสดงที่ หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง
การเกิดใหม่ของโกดังเก่า เป็นการเนรมิตบรรยากาศโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความดิบ แต่ตกแต่งใหม่โดยได้รวมเอาดนตรีการตีกลองไต้หวันที่เป็นสร้างสรรค์ของ Ten Drum Band มาสร้างสรรค์เป็นหมู่บ้านศิลปะนานาชาติในธีมการตีกลองแห่งแรกของเอเชีย หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลองจึงกลายเป็นโรงงานน้ำตาลเสมือนโรงละครการแสดง มีอุปกรณ์ขนาดใหญ่กลายเป็นเวทีสำหรับการแสดง จัดเต็มแสงสีเสียงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

ฝึกเรียนรู้การตีกลองไต้หวัน
บรรยากาศโดยรอบของหมู่บ้าน ยังมีไฮไลท์อย่างถังกากน้ำตาลขนาดมหึมา ที่รีโนเวทมาเป็นคาเฟ่สุดเท่ด้านใน มีเครื่องเล่นต่างๆเอาใจคนรักความตื่นเต้น เช่น สไลเดอร์ ซิปไลน์ เส้นทางเดินเหนือศีรษะ เครื่องเล่นดิ่งพสุธา 7 ชั้น รถไฟเล็กๆเอาใจคุณหนู รวมทั้งยังมีเวิร์กชอปให้ฝึกการตีกลองสไตล์ไต้หวัน

โกดังน้ำตาลเก่า กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเก๋ๆ

กิจกรรมชวนกรี๊ดที่หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง
การเดินทาง รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานี Tainan และต่อรถไฟธรรมดา (TRA) จากสถานี Shalun มาลงที่สถานี Bao An และเดินต่อประมาณ 10 นาที

คาเฟ่ภายในถังเก็บน้ำตาลเก่า
พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย (Chimei Museum)
ถ้าคนไม่เคยรู้จักไต้หวันมาก่อน การแวะถ่ายภาพที่บริเวณพิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย อาจนึกว่าเป็นบรรยากาศของวังในดินแดนตะวันตก ด้วยความวิจิตรตระการตาของอาคารและการตกแต่งในสไตล์ตะวันตกสุดอลังการ รายล้อมด้วยสวนหย่อมที่จัดภูมิทัศน์ไว้ราวกับสวนสวยในยุโรป

พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย
พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย ก่อตั้งขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนเงินจากบริษัทฉีเหม่ย คอร์ปอเรชั่น เมื่อปี ค.ศ. 1990 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก สำหรับจัดแสดงผลงานและให้ความรู้แก่ผู้เข้าชม โดยเน้นศิลปะตะวันตกแบบคลาสสิกและอิมเพรสชันนิซึม (impressionism)

พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย
นอกจากงานศิลปะแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังสะสมไวโอลินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด รวมไปถึงศาสตราวุธ ชุดเกราะโบราณ ซากกระดูกของไดโนเสาร์ สัตว์สต๊าฟต่างๆ หรือของสะสมในอดีตที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้อีกมากมาย ควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นที่สุด

พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย
อย่างไรก็ตาม หากมีเวลาจำกัด นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถแวะไปถ่ายภาพ หรือชมบริเวณด้านนอกได้ บรรยากาศลานกว้างและสวนสวยนั้นถูกออกแบบตกแต่งด้วยสไตล์ตะวันตกได้อย่างสวยงาม ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมและพักผ่อนได้ฟรี ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.30 น. และในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนยังมีการจัดงานฉลองเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย จึงกลายเป็นสถานที่ยอดฮิตของชาวไต้หวันที่จะมาใช้เวลาพักผ่อนหรือถ่ายรูป

การเดินทาง รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานี Tainan และต่อรถไฟธรรมดา (TRA) จากสถานี Shalun มาลงที่สถานี Bao An และเดินต่อประมาณ 10 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม
สำนักงานท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ https://www.taiwantourism.org/th/ หรือ Facebook : Taiwan Tourism TH

รูปปั้นที่ พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย


สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น