พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก
พระราชกรณียกิจต่าง ๆ โครงการหลวง และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินับพันโครงการจากพระองค์ท่าน หลาย ๆ โครงการนอกจากจะช่วยพลิกฟื้นชีวิตพสกนิกรในพื้นที่ให้มีงาน มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแล้ว ปัจจุบันยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่น ดึงดูดให้คนเดินทางไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ “อ่างเก็บน้ำเขาเต่า” ที่วันนี้นอกจากจะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนหัวหินแล้ว แล้วยังเป็นสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์อันงดงามน่าไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง
อ่างเก็บน้ำเขาเต่า โครงการชลประทานตามพระราชดำริแห่งแรก
อ่างเก็บน้ำเขาเต่า ตั้งอยู่ที่บ้านเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการชลประทานตามพระราชดำริแห่งแรก ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2506 สามารถเก็บกักน้ำได้ 600,000 ลูกบาศก์เมตร โดยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทำพิธีเจิมเสาเข็มเอก เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2506
สำหรับการสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่าใต้พระบารมีพ่อของแผ่นดินแห่งนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อครั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ วังไกลกังวล อ.หัวหินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 เป็นต้นมา และได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียง ทรงทราบปัญหาความยากลำบากของราษฎรบ้านเขาเต่า ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้ชายทะเลมีประชากรอยู่กันอย่างหนาแน่น แต่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ช่วงน้ำทะเลขึ้นจะไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรทุ่งตะกาด (ตะกาด เป็นภาษาท้องถิ่น หมายถึง ที่ ๆ น้ำทะเลท่วมถึง เมื่อน้ำลงพื้นที่ตรงนั้นก็กลายเป็นเลน) ทำให้ผลผลิตเสียหาย
ประกอบกับได้มีราษฎรรวมกลุ่มกันน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน ประมาณ 300 ไร่ บริเวณทุ่งตะกาด พระองค์ท่านจึงมีพระราชดำริพร้อมมอบทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 60,000 บาท ให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่าขึ้นจนแล้วเสร็จในปี 2506
บ้านเขาเต่า โรงเรียนธรรมชาติแห่งแรกใต้พระบารมี
ในช่วงแรกน้ำในอ่างเก็บน้ำเขาเต่ามีความเค็มไม่สามารถใช้บริโภคได้ เนื่องจากพื้นดินเดิมนั้น “เค็ม” จึงมีการใช้วิธีระบายน้ำเพื่อชะล้างความเค็มในอ่างเก็บน้ำเป็นระยะ ๆ รวมถึงมีการก่อสร้างระบบส่งน้ำและระบบระบายจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทำให้ภายหลังสภาพน้ำค่อย ๆ จืดขึ้น จนสามารถใช้อุปโภคบริโภคได้
ทำให้หมู่บ้านเขาเต่าถูกยกให้เป็นโรงเรียนธรรมชาติแห่งแรกใต้พระบารมี ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงศึกษาปัญหาทั้งเรื่องการขาดแคลนน้ำจืดและการพัฒนาปรับปรุงดิน
โดยส่วนหนึ่งของบทความ...เล่าเรื่องราวห้องเรียนธรรมชาติ ที่ “หมู่บ้านเขาเต่า” “48 ปี” ที่ล่วงมา – จนถึงปัจจุบัน “ตะกาด” บริเวณ “เขาเต่า” กลายเป็นชั้นเรียนธรรมชาติสำหรับเด็กนักเรียนผู้โชคดี...ในวารสารมูลนิธิชัยพัฒนา ฉบับธันวาคม 2544 ระบุว่า
หมู่บ้านเล็ก ๆ ติดทะเลใกล้เขาที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนเต่า ที่ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อที่เรียกกันว่า “บ้านเขาเต่า” ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพประมงมาแต่ครั้งรุ่นปู่ย่าตายาย แต่ในสมัยนั้นชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากกว่าที่เป็นในปัจจุบันมาก ถนนหนทางก็ลำบาก เป็นดินเลนมีหลุมบ่อเต็มไปหมด ไม่มี “น้ำ” สำหรับดื่มกิน ต้องไปหาบมาจาก “ตาน้ำ” ที่มีอยู่ในหมู่บ้าน และยังไม่มีน้ำสำหรับการปลูกพืชอีกด้วย อีกทั้ง “ดิน” ก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกเลย
ในวันหนึ่งของปี 2496 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปบ้านเขาเต่า โดยรถจี๊บโปโล และรถยนต์พระที่นั่งจมเลนในตะกาด ทุกคนที่ไปในวันนั้นต้องลงมาช่วยกันเข็น ตะกาดนี้ เป็นภาษาท้องถิ่น หมายถึง เป็นที่ที่น้ำทะเลขึ้นมา เมื่อถึงเวลาน้ำลง พื้นที่ตรงนั้นก็กลายเป็นเลน ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ต้นไม้ก็ยังขึ้นไม่ได้ มีเพียงปูตัวเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ปูเปี้ยว อยู่เต็มไปหมด
“หมู่บ้านเขาเต่า” จึงเป็นเสมือนโรงเรียนธรรมชาติแห่งแรก ที่ได้ทรงศึกษาปัญหาทั้งเรื่อง น้ำ และ ดิน โดยทรงเริ่มแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดของชาวบ้านที่นี่เป็นลำดับแรก โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ 60,000 บาท แก่กรมชลประทาน ก่อสร้างทำนบดินปิดกั้นน้ำทะเลไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล ทำให้เกิดเป็นอ่างเก็บน้ำสำหรับชาวบ้านได้ใช้ทั้งการอุปโภค บริโภค เลี้ยงปลา รวมทั้งเพื่อการเพาะปลูกพืชอีกด้วย
“อ่างเก็บน้ำเขาเต่า” แห่งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของพระราชดำริเรื่องน้ำ ที่ทรงเห็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดว่า …น้ำคือชีวิตของประชาชน…
นอกจากนี้เหตุการณ์รถยนต์พระที่นั่งจมเลนในตะกาดของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในการเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์เพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรที่บ้านเขาเต่า ยังมีอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจที่เป็นหนึ่งความทรงจำคู่เมืองหัวหินมาจนทุกวันนี้ กับเรื่องราวของ เด็กชายผู้โชคดีที่สุดที่มีโอกาสได้ช่วยเข็นรถพระที่นั่งของในหลวง ร.๙
โดยลุง “พนม ช่อจันทร์” อดีตเด็กชายผู้โชคดี ได้เคยเล่าเรื่องนี้ว่า ตอนนั้นยังเป็นนักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเทศบาลบ้านเขาเต่า แต่พนมเป็นเด็กโข่งที่ซ้ำชั้นหลายปี แม้เรียน ป.4 อายุก็ปาไป 16 ปีแล้ว
วันหนึ่งเด็กชายพนมที่ไม่ยอมไปโรงเรียนได้นำวัวที่บ้านไปเลี้ยงแถวทุ่งตะกาดกับเพื่อนอีก 2 คน แล้วจู่ ๆ ก็มีรถจี๊ปสีเขียวแล่นมาติดหล่มขี้เลนกลางแดดเปรี้ยง ๆ
เด็กชายพนมกับเพื่อนอีก 2 คน จึงไปช่วยกันทั้งเข็นทั้งดันรถจี๊ปคันนั้นเป็นเวลาร่วมชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเจ้าของรถจี๊ปเปิดประตูรถออกมาแล้วยื่นแบงก์ใบละ 1 บาทให้เด็กชายทั้ง 3 ดู พร้อมถามว่า “หนูเคยเห็นคนนี้ที่ไหน”
เด็กชายทั้ง 3 จึงตอบว่า “เคยเห็นแต่ในแบงก์ แต่ไม่เคยเห็นตัวจริง” หลังจากนั้นชายในรถก็ถอดหมวกออกแล้วถามเด็ก ๆ ว่า “เหมือนเราไหม” เด็กชายพนมจึงตอบว่า “เหมือนครับ”
“คือผมยังไม่รู้หรอกว่าเป็นในหลวง ก็ตอบไปตามความเห็นของเราในตอนนั้น แต่พอสักพักพระองค์ท่านก็ทรงถอดพระมาลา พวกเราสามคนนี่อึ้งเลย เข่าอ่อนทรุดนั่งกลางเลน กราบพระองค์ท่านทั้งสามคน พระองค์ท่านก็ตรัสว่า 'ลุกขึ้นลุกขึ้นเถิด อย่านั่งเลยมันเลอะ' เราก็เลยลุกขึ้นทันทีตามพระบัญชา” ลุงพนมเล่าไว้ใน นิตยสาร ฅ.คน ปีที่ 2 ฉบับที่ 14 เดือนธันวาคม 2549
จากนั้นในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงทรงพระอักษรสั่งความใส่แผ่นกระดาษ แล้วให้เด็กชายพนมนำไปส่งให้ครูที่โรงเรียนเทศบาลบ้านเขาเต่า ก่อนที่ครู นักเรียน และชาวบ้านจะมาช่วยกันดึงรถจี๊ปคันนั้นขึ้นจากหล่มเลน
ก่อนเสด็จฯ จากไป ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงตรัสว่า “ขอบใจมาก ๆ” ซึ่งเสียงนั้นสยังคงก้องอยู่ในใจลุงพนมและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังเป็นบันทึกความทรงจำแห่งเขาเต่า ก่อนจะมีการสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่าขึ้นในภายหลังตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
อ่างเก็บน้ำเขาเต่า แหล่งท่องเที่ยวทิวทัศน์งดงาม
ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำเขาเต่าได้สร้างประโยชน์หลากหลายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อาทิ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค เป็นแหล่งทำการประมงพื้นบ้าน เป็นสถานที่ออกกำลังกาย เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชนและชาวหัวหิน รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นแห่งอำเภอหัวหิน ที่เหมาะแก่การมาถ่ายรูปพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะในยามเย็น ที่นี่เป็นจุดพระอาทิตย์ตะวันลับเหลี่ยมเขาที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของหัวหิน
นอกจากบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ที่มีขุนเขาแวดล้อมแลดูสวยงามแล้ว อ่างเก็บน้ำเขาเต่ายังมีไฮไลท์คือ “พลับพลากลางน้ำ” ที่จำลองแบบมาจาก “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” พลับพลาในถ้ำพระยานคร ที่เป็นอันซีนไทยแลนด์อันเลื่องชื่อของ จ.ประจวบคีรีขันธ์
พลับพลากลางน้ำอ่างเก็บน้ำเขาเต่า เป็นพลับพลาทรงจัตุรมุข ด้านหน้ามีพระปรมาภิไธย ภปร. ซึ่งในค่ำคืนจะมีการเปิดไฟประดับพลับพลาแห่งนี้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้บริเวณอ่างเก็บน้ำเขาเต่ายังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ อีก อาทิ “จุดชมวิว” ที่ต้องเดินขึ้นเขาเต่าไปหน่อยแล้วมองลงมาจะเห็นบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำอย่างสวยงาม “วัดเขาเต่า” และ “วัดถ้ำเขาเต่า” ที่มากไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบสักการะ “ศูนย์หัตถกรรมบ้านเขาเต่า” ที่มีผ้าทอมือผืนงามลวดลายเป็นเอกลักษณ์จากฝีมือของชาวบ้านในชุมชนให้ช้อปกัน
ขณะที่รอบ ๆ อ่างเก็บน้ำก็มีที่พักและคาเฟ่เก๋ ๆ ให้เลือกพักผ่อนกันอยู่หลากหลาย รวมถึงมีภาพสตรีทอาร์ตอันสวยงามสื่อความเป็นหัวหิน และภาพรถจี๊ปพระที่นั่งของในหลวงรัชกาลที่ ๙ พร้อมเชือกเส้นใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้ดึงรถ ซึ่งได้จำลองเหตุการณ์ที่รถจี๊ปของพระองค์ท่าน เคยมาติดหล่มเลนที่ทุ่งตะกาดบ้านเขาเต่าจนนำมาสู่การสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่าแห่งนี้
สำหรับอ่างเก็บน้ำเขาเต่า โครงการชลประทานตามพระราชดำริแห่งแรกนั้น เป็นหนึ่งในพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็น “พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก”