xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เตรียมผลักดัน 6 ปัญหาเข้า กรอ.ฝากถึงรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หดตัวลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เตรียมผลักดัน 6 ปัญหาในพื้นที่เข้า กรอ.ฝากรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หดตัวลง ที่อาจมากกว่าในช่วงโควิดแพร่ระบาด หลังกำลังซื้อของประชาชนลดลงอย่างมาก

นายสัมพันธ์ พงษ์พรรณนากูล ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมร้านแดงอาหารทะเล เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ได้มีการประชุมคณะกรรมการหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายอุทัย ดำรงธรรม ประธานหอการค้า จ.สมุทรสงคราม นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้า จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพันธุ์ธัช หิรัญจิรวงศ์ ประธานหอการค้า จ.เพชรบุรี และนายชาธิป ตั้งกุลไพศาล ประธานหอการค้า จ.สมุทรสาคร พร้อมคณะกรรมการผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC ทั้ง 4 จังหวัดเข้าร่วม

โดยที่ประชุมได้สรุปปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง 2 ว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องเศรษฐกิจที่หดตัวลง ซึ่งอาจมากกว่าเมื่อตอนโควิด-19 แพร่ระบาดเนื่องจากมีสัญญาณเรื่องกำลังซื้อของประชาชนลดลงอย่างมาก

นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้า จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จ.ประจวบฯ มีปัญหาเรื่องเส้นทางการท่องเที่ยวและการเร่งปรับปรุงเพื่อเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่สนามบินหัวหิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้ามามากขึ้น

นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล ประธานหอการค้า จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า การส่งออกลดลงเนื่องจากปัญหากุ้งล้นตลาดและการกักตุนเพื่อพยุงราคาทำให้มียอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง ขณะที่โรงงานมีกุ้งในสต๊อกจำนวนมากจึงต้องลดการเลี้ยงของเกษตรกร นอกจากนี้ ยอดขายอาหารทะเลสดลดลงเนื่องจากร้านอาหารซื้อน้อยลงเพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคน้อยลง ประชาชนมีการจับจ่ายน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่นายอุทัย ดำรงธรรม ประธานหอการค้า จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า สมุทรสงครามประสบปัญหาปลาหมอสีคางดำที่แพร่ระบาดกินสัตว์น้ำเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ และได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง หรือเอลนีโญ กระแสน้ำที่เปลี่ยนไปมีผลต่อผลผลิตด้านการเกษตร อีกทั้งน้ำเค็มยังสูงขึ้นและรุกล้ำเข้าพื้นที่เกษตร

และนายพันธุ์ธัช หิรัญจิรวงศ์ ประธานหอการค้า จ.เพชรบุรี บอกว่าจะมีการพัฒนาทริปท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มรดกโลกทางธรรมชาติ และเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโกของ จ.เพชรบุรี ซึ่งอาจจะมีการจัดกิจกรรมด้านอาหารเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการรณรงค์ที่ทางจังหวัดกำลังดำเนินการคือเรื่องการอนุรักษ์แม่น้ำเพชรบุรีและผลักดันชะอำให้มีการพัฒนาเป็นสากลมากขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง

ด้านนายสัมพันธ์ พงศ์พรรณนากูล ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 กล่าวถึงข้อสรุปการประชุมครั้งนี้ว่า จะนําไปสู่การบรรจุวาระการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ กรอ. ภาคกลางตอนล่าง 2 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี 6 เรื่องที่จะเข้าสู่วาระ เรื่องแรก ได้แก่ การดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่กลุ่มจังหวัด โดยเฉพาะหัวหิน เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาน้อยในช่วงวันธรรมดาไม่เหมือนในอดีตจึงทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะมาจังหวัดอื่นน้อยลงไปด้วย เพราะอดีตมีเที่ยวบินจากต่างประเทศมาที่หัวหินจำนวนมาก แต่ขณะนี้สนามบินอยู่ระหว่างการปรับปรุงด้านความปลอดภัย และจะต้องเร่งรัดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้ได้ตามมาตรฐาน

เรื่องที่ 2 ปลาหมอสีคางดํา ซึ่งเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ในพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด ที่กระทบเศรษฐกิจด้านการประมง ทำให้สัตว์น้ำเศรษฐกิจลดลง จะเสนอให้ทางราชการทดลองใช้ปลาชะโดและปลากะพงมาปล่อยทําลายลูกปลาหมอสีคางดำ เรื่องที่ 3 การพัฒนาทริปท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มรดกโลกทางธรรมชาติ และเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโกของ จ.เพชรบุรี ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ เรื่องที่ 4 ปัญหาลิงแสมและตัวเงินตัวทอง สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการและประชาชนในทุกจังหวัดในกลุ่ม แต่ด้วยกฎหมายที่คุ้มครองสัตว์เหล่านี้ทําให้การกระทําใดๆ ต้องมีการขออนุญาตและมีความเสี่ยงผิดกฎหมาย จึงจะต้องหารือถึงแนวทางที่จะลดปริมาณหรือควบคุมประชากรสัตว์เหล่านี้ว่าจะทำได้อย่างไร เรื่องที่ 5 ประกาศควบคุมพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจทําให้เกิดปัญหาข้อขัดแย้งในการประกอบธุรกิจและที่อยู่อาศัย และเรื่องที่ 6 คือภาวะภัยแล้งที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งจะมีการวางแนวทางแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการร่วมกัน

นอกจากนี้ นายสัมพันธ์ ยังฝากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้มีแต่ภาคการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ยังพยุงสภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ให้อยู่ ส่วนด้านอื่น เช่นการส่งออก การค้าขาย กำลังซื้อทั้งดีมานด์ซัปพลายลดลงเกือบทั้งหมด จึงขอให้เร่งพัฒนาสนามบินหัวหิน เนื่องจากจะเป็นแหล่งกระจายนักท่องเที่ยวมาจังหวัดอื่นในกลุ่ม ซึ่งเราต้องพยุงตัวเองตรงนี้ไปก่อนไม่อย่างนั้นระบบเศรษฐกิจในกลุ่มจะล้มได้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจดี ประชาชนมีสภาพคล่องด้านการเงินปัญหาอื่นจะคลี่คลายไปด้วย ส่วนการลดภาระค่าใช้จ่าย ราคาน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนตนมองว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว








กำลังโหลดความคิดเห็น