“บ้านป่าบงเปียง” ตระการตา “ทุ่งนาขั้นบันได” สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

“ฤดูฝน” แม้จะได้ชื่อว่าเป็น “โลว์ซีซั่น” ของสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งในบ้านเรา (เช่น ท้องทะเล หมู่เกาะฝั่งอันดามัน)

แต่ฤดูฝนก็ถือเป็น “กรีนซีซั่น” (Green Season) และ “ไฮซีซั่น” ของสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งของบ้านเราด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ลำธาร ทุ่งหญ้า ป่าไพร ทุ่งดอกไม้ป่าหน้าฝน ที่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน รวมไปถึง “ทุ่งนา” ที่จะดูสวยงามเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำสบายตา โดยเฉพาะทุ่งนาขั้นบันไดที่ดูเขียวขจีมีการปลูกข้าวไล่ไต่ระดับเป็นขั้นเป็นชั้นไปตามพื้นที่อันสวยงามกว้างไกล


สำหรับหนึ่งในทุ่งนาขั้นบันไดที่ได้ชื่อสวยงามที่สุดก็คือ ทุ่งนาขั้นบันไดที่ “บ้านป่าบงเปียง” ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอ หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “กะเหรี่ยง” (คำไม่สุภาพ)

บ้านป่าบงเปียง ชื่อหมู่บ้านนี้มาจากชื่อของ “ไผ่บง” ไม้ไผ่ชนิดหนึ่งซึ่งภาษาเหนือ เรียกว่า “ไม้บง” ส่วนคำว่า “เปียง” หมายถึงที่ราบสันเขา ซึ่งในอดีตบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านแห่งนี้มีไม้ไผ่บงขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นดังป่าไผ่ในท่ามกลางที่ราบสันเขา


ต่อมาเมื่อมีการตั้งชุมชนขึ้น ป่าไผ่ได้กลายเป็นท้องทุ่งนาบนตามไหล่เขาหรือ “นาขั้นบันได” ที่เดิมก็เป็นการปลูกข้าวไร่ไปตามสภาพพื้นที่ของชาวชุมชนบ้านป่าบงเปียง

กระทั่งเมื่อกิจกรรมการท่องเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดในบ้านเราได้รับความนิยมตั้งแต่ประมาณเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว บ้านป่าบงเปียงก็เป็นหนึ่งในจุดหมายที่บรรดาสายเที่ยว สายถ่ายรูป ปักหมุดไว้ว่าต้องไปเยือนสักครั้งหรือหลาย ๆ ครั้ง


สำหรับจุดเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดของบ้านป่าบงเปียง จะเปล่งประกายความงามออกมาอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โดยช่วงหน้าฝนท้องทุ่งจะเป็นสีเขียวขจีสดใสดูเพลินตาเพลินใจ ส่วนในช่วงฤดูหนาวทุ่งนาที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองดุจดังทุ่งรวงทองอันงดงามน่าตื่นตาตื่นใจ

ทุ่งนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่หลังดอยอินทนนท์ บนความสูงกว่า 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทุ่งมีพื้นที่ราว 500 กว่าไร่ ซึ่งชาวบ้านได้ปลูกข้าวเป็นขั้นบันไดไล่ระดับไปตามพื้นที่ไหล่เขาท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่แห่งดอยอินทนนท์ โดยมีการปลูกพืชชนิดอื่น อย่างเช่น ถั่ว ข้าวโพด แซมบ้างในบางพื้นที่


ทุก ๆ ปี ในช่วงฤดูทำนา (ฤดูฝนถึงฤดูหนาว) ชาวบ้านที่นี่จะลงมือทำการดำนาปักกล้าปลูกข้าวตั้งแต่กลางฤดูฝนราวกลางเดือนกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคม (ตามสภาพฟ้าฝนของปีนั้น ๆ ) หลังจากนั้นต้นข้าวที่นี่ก็จะค่อย ๆ เจริญเติบโตกลายเป็นทุ่งนาขั้นบันไดอันสวยงามกว้างไกล ย้อมพื้นที่หลังดอยอินทนนท์ให้เขียวขจีดุจดังพรมสีเขียวขนาดใหญ่ในช่วงฤดูฝน

ครั้นเมื่อถึงช่วงฤดูหนาวต้นข้าวจะแตกรวง ใบเปลี่ยนสีกลายเป็นทุ่งนาขั้นบันไดสีทองที่มีเสน่ห์สวยงามไปอีกแบบ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของช่วงกลางฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่ชาวบ้านจะลงมือเก็บเกี่ยวปิดฤดูการทำนาของปีนั้น ๆ


หลังบ้านป่าบงเปียงเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในแหล่งเที่ยวชมนาขั้นบันไดสวยที่สุดของเมืองไทยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ชาวชุมชนก็ได้มีการปรับเปลี่ยนบ้านกะเหรี่ยงบางหลังให้เป็นที่พักแบบโฮมสเตย์นำโดยบ้านของ “มาฉิโพ” โฮมสเตย์รุ่นบุกเบิกเจ้าแรก ๆ ของที่นี่

วันนี้หลังบ้านป่าบงเปียงโด่งดัง ถูกปักหมุดให้เป็นแหล่งเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดไม่ควรพลาดของเมืองไทย ก็ได้มีการสร้างบ้านพักแบบโฮมสเตย์ผุดขึ้นมากลางทุ่งนาอีกหลายสิบหลัง


อย่างไรก็ดีก็ต้องขอชื่นชมชาวบ้านที่นี่ที่วันนี้ยังไม่มีการสร้างที่พักที่ดูประดักประเดิดไม่เข้าพวก หรือสร้างสิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดทรรศนะอุจาดขึ้นมาในพื้นที่แต่อย่างใด

สำหรับโฮมสเตย์ที่นี่ส่วนใหญ่จะสร้างในสไตล์บ้านกะเหรี่ยง ให้นักท่องเที่ยวพักค้างกันแบบดิบ ๆ เรียบง่าย นอนฟูก กางมุ้ง บ้านหลายหลังมีห้องน้ำแยกออกมาอยู่ข้างล่าง ซึ่งหากนักท่องเที่ยวคนใดที่ไม่สะดวกต่อการพักค้างแบบโฮมสเตย์แบบบ้าน ๆ ในสไตล์นี้ก็สามารถหาที่พักตามที่ใจตนต้องการพักค้างได้ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือในตัวเมืองเชียงใหม่แล้วเดินทางมาเที่ยวบ้านป่าบงเปียงแบบไปเช้า-เย็นกลับ


ขณะที่นักท่องเที่ยวที่มานอนพักโฮมสเตย์แบบบ้าน ๆ ที่นี่นั้น ก็จะได้รับสิทธิ์ (เฉพาะ) ในการสัมผัสกับไฮไลท์ของวิวทิวทัศน์และเสน่ห์ความงามธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม

โดยเฉพาะในยามเช้าตรู่ของวันที่ฟ้าเป็นใจ ที่บ้านป่าบงเปียงนอกจากจะได้เห็นทุ่งนาขั้นบันไดอันสวยงามกว้างไกลที่มีการปลูกข้าวไร่ไล่ไต่ระดับไปตามพื้นที่ท่ามกลางฉากหลังของขุนเขาน้อยใหญ่แล้ว ยังมีทะเลหมอกขาวโพลนลอยอ้อยอิ่งในหุบเขาเบื้องล่างดูประหนึ่งเป็นนาขั้นบันไดเหนือเมฆหมอกที่ดูแล้วช่างงดงามน่าประทับใจกระไรปานนั้น ส่วนในยามเย็นก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกท่ามกลางท้องทุ่งนาขั้นบันไดท่ามกลางขุนเขาน้อย-ใหญ่ที่ดูสวยงามไปอีกแบบ


สำหรับการเดินทางสู่บ้านป่าบงเปียง ปัจจุบันมี 2 เส้นทาง คือไปทางดอยอินทนนท์ (อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์) ที่เป็นทางลัด (หากไปจากเชียงใหม่) ซึ่งมีระยะทางสั้นกว่าแต่ว่าเป็นเส้นทางขึ้นเขา-ลงเขา เลี้ยวลดคดโค้ง คนขับต้องมีความชำนาญไม่น้อย

อย่างไรก็ดีในเส้นทางดอยอินทนนท์นั้น ระหว่างทางก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากหลายให้แวะเที่ยวชมกัน อาทิ น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร พระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ทุ่งนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวง เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา (ป่าดึกดำบรรพ์) และจุดสูงสุดแดนสยาม เป็นต้น


ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งไปจาก อ.แม่แจ่ม เป็นทางลาดยางสลับลูกรัง เส้นทางนี้แม้ไกลกว่าแต่ว่ามีความน่าสนใจตรงที่ ระหว่างทางมีทุ่งนาขั้นบันไดให้เที่ยวชมกันเป็นระยะ ๆ ในเส้นทางเดียวกัน ได้แก่ นาขั้นบันไดบ้านทุ่งยาว บ้านป่าตึง บ้านตีนผา และบ้านป่าบงเปียง นอกจากนี้ก็ยังมีวัดน่าสนใจอีกหลากหลายในอำเภอแม่แจ่มให้แวะท่องเที่ยว ทำบุญไหว้พระกันอีกหลากหลายตามจิตศรัทธา


และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของทุ่งนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียงที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดเที่ยวชมนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดในเมืองไทย ซึ่งสำหรับผู้รักการถ่ายภาพขอแนะนำให้ไปนอนค้างที่ที่พักหรือโฮมสเตย์แถวนั้น เพื่อถ่ายบรรยากาศยามเย็นของแสงแดดอ่อน ๆ ยามพระอาทิตย์เคลื่อนลอยคล้อยต่ำทอแสงอาบไล้ต้นข้าวดูงดงามดังทุ่งรวงทอง

หรือถ่ายบรรยากาศยามเช้าที่วันไหนโชคดีมีทะเลหมอก เราก็จะได้เห็นภาพท้องทุ่งนาสวยงามกว้างใหญ่ มีทุ่งนาสวยงามทอดตัวเด่นอยู่เหนือทะเลหมอกขาวโพลนที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในหุบเขา

นับเป็นมนเสน่ห์แห่งแม่แจ่มอันแจ่มจรัสที่เห็นแล้วช่างน่าประทับใจกระไรปานนั้น


#################################

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เชื่อมโยงกับบ้านป่าบงเปียงได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0 5324 8604-5