เชียงใหม่ - การันตีแบบนี้ไม่ทำลายธรรมชาติ..กลุ่มมอเตอร์ไซค์เมืองฝางชวนพิสูจน์เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนลาหู่ยอดดอยผ้าห่มปก-บ้านเกิด “ริชชี่-อรเณศ” ควบรถวิบากเลาะทางเดินเท้าชมสวนชาอัสสัม “พันธุ์ชาพระราชทาน ร.๙” ขึ้นดอยปู่หมื่น
“บ้านดอยปู่หมื่น” ชุมชนชาติพันธุ์ลาหู่ ชายแดนฝาง-แม่อาย จ.เชียงใหม่ ถิ่นกำเนิดดาราสาวชนเผ่าที่มีผลงานการแสดงเป็นที่รู้จักดีอย่าง ‘ริชชี่ อรเณศ’ เริ่มมีชื่อติดหูนักท่องเที่ยวสายอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้น เป็นชุมชนบนดอยสูง อยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก มีความสูงอันดับสองของประเทศไทย รองจากดอยอินทนนท์ ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี
เป็นชุมชนหมู่บ้านที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จฯ ทรงเยี่ยมหมู่บ้าน และพระราชทานต้นชาอัสสัม เพื่อให้ขยายพันธุ์แจกจ่ายทำให้ชาวบ้านสามารถยึดอาชีพทำสวนชาอัสสัม ปลูกกาแฟอะราบิกา เลี้ยงสัตว์สุกร วัว ควาย ฯลฯ กลางผืนป่าใหญ่ อยู่ได้อย่างไม่ขัดสนจนถึงทุกวันนี้
โดยเฉพาะ “ชาอัสสัม” นั้นสามารถแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น ยอดอ่อนสามใบใช้ทำชาแห้งชงดื่มเป็นสมุนไพรที่นิยมทั่วโลก ใบอ่อนหมักดองทำ “เมี่ยง” ใช้อมแก้ง่วง ที่ชาวบ้านล้านนาสมัยก่อนนิยมกันแทบทุกครัวเรือน ใบแก่แห้งใช้ดับกลิ่น และยอดอ่อนนั้นยังนิยมนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ยำใบชา ผัดน้ำมันหอย
ล่าสุดกลุ่มมอเตอร์ไชค์อำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ รวมกลุ่มลุยพิสูจน์เส้นทางท่องเที่ยวดอยเชิงอนุรักษ์ ชมธรรมชาติบ้านดอยสามหมื่น ใช้รถจักรยานยนต์วิบากจากฝาง ลัดเลาะไปตามทางเท้าที่ชาวบ้านใช้สัญจร ชมสถานที่หลายๆ แห่งที่แฝงความสวยงามตามธรรมชาติ ต้นไม้ ลำธาร สวนกาแฟ สวนชาอัสสัม ฯลฯ ตลอดเส้นทาง
ขณะที่นายเจริญ ไชยกอ ลูกชายนายจะฟะ ไชยกอ ที่ครั้งหนึ่งเคยเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ รับพระราชทานชาอัสสัมมาขยายพันธุ์ทำสวนชา-ปลูกกาแฟอะราบิกา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,344 เมตร สร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวมาตลอด ยังได้สร้างที่พักโฮมสเตย์ รับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวอยู่เป็นระยะๆ บริการอาหารแบบชนเผ่าลาหู่ และอาหารไทย โดยใช้พืชผักและเนื้อสัตว์ที่ปลูกเอง-เลี้ยงเอง ปลอดจากสารพิษ
นักท่องเที่ยวสนใจท่องเที่ยวแบบนี้ ติดต่อทางผู้นำชนเผ่านี้ได้ นายเจริญ ไชยกอ 08-2190-5957 และ 09-1666-9215 ซึ่งจะมีรถยนต์โฟร์วีลขับเคลื่อน 4 ล้อ บริการรับส่งในตัวเมืองฝาง จ.เชียงใหม่
โดยบริการค่าที่พัก : คืนละ 150 บาทต่อคน ค่าชมการแสดงการละเล่นพื้นบ้าน (แล้วแต่จะให้) ค่าโลคัลไกด์ : พาศึกษาวิถีชีวิตในชุมชน นำเที่ยวสถานที่เที่ยวต่างๆ เริ่มต้น 300 บาทต่อวัน (ไม่เกิน 8 คนต่อกลุ่ม) ค่าอาหาร : มื้อเช้า คนละ 80 บาท มื้อเที่ยงหรือเย็น คนละ 100 บาท และหากต้องการสำรับกับข้าวกระบอกไม้ไผ่สไตล์ลาหู่ คิดหัวละ 250 บาท
ค่ารถ : รับ-ส่งโดยมอเตอร์ไซค์ 500 บาท/คน (ไป-กลับ) / รถกระบะ ไปกลับ 1 วัน 1,300 บาท/คัน ค้างคืน 1,500 บาท/คัน (ไม่เกิน 8 คน) One day Trip จากฝาง-ดอยปู่หมื่น แวะน้ำตก 1,300 บาท Trip 2 วัน 1 คืน จากฝาง-ดอยปู่หมื่น แวะน้ำตก 1,500 บาท ทั้งนี้ ราคาค่าบริการอาจขึ้นลงตามฤดูกาลท่องเที่ยว
