“สีเขียว” เป็นสีโทนเย็น ดูสบายตา เป็นสีที่ทำให้รู้สึกสงบร่มเย็น แถมเพิ่มความประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 20% แต่ทำไมต้นไม้ต้องมีสีเขียวด้วยนะ สีเขียวที่เห็นมาจากอะไรกันแน่ ตามไปดูกัน
“คลอโรฟิลล์” สาเหตุเห็นใบไม้สีเขียว
ตามธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ที่เห็นกันอยู่นี้ มาจากสารที่ชื่อว่า “คลอโรฟิลล์” (Chlorophyll) พบอยู่ในคลอโรพลาสต์ (Chloroplast) มีลักษณะคล้ายถุงแบนๆ เจ้าคลอโรพลาสต์ก็มีเยื่อหุ้มอีก ชื่อว่าไทลาคอยด์ (Thylakoid) และในไทลาคอยด์นี้แหละที่มี “คลอโรฟิลล์” อยู่ จะมีหน้าที่รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ สังเคราะห์แสงเพื่อเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงต้นไม้
ส่วนที่เห็นว่าใบไม้เป็นสีเขียว เป็นเพราะคลอโรฟิลล์ดูดกลืนแสงสีฟ้ากับสีแดงไว้ ส่วนสีเหลืองกับสีเขียวดูดกลืนน้อย เพราะฉะนั้นเมื่อต้นไม้ได้รับแสง คลอโรฟิลล์ดูดสีฟ้ากับสีแดง ส่วนสีเขียวที่ไม่ถูกดูดกลืนจึงสะท้อนแสงออกมาให้เห็น และบางครั้งพอถึงช่วงเวลาหนึ่งพืชก็จะผลัดใบ
ต้นไม้ผลัดใบเป็นสีอื่น ไม่ใช่แค่สีเขียว
ส่วนปัจจัยที่ทำให้มันผลัดใบ นั่นก็คือฤดูกาลเปลี่ยนและอุณหภูมิเปลี่ยน จึงทำให้คลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ มีน้อยลงไปอีก เพราะอากาศเปลี่ยน แสงแดดก็น้อยลง พืชจึงสร้างคลอโรฟิลล์น้อยลง ใบไม้จึงเปลี่ยนสีจากเขียว เป็นสีเหลืองจากเหลืองเป็นส้ม จากส้มเป็นแดง จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและร่วงสู่พื้น เป็นกระบวนการการผลัดใบ ส่วนมากจะพบการผลัดใบได้จากประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี
แต่จริงๆ แล้ว พืชไม่ได้มีแค่คลอโรฟิลล์ แต่ยังมีสารแคโรทีนอยด์ ที่อยู่ในคลอโรพลาสต์เช่นเดียวกันแต่เป็นสารที่มีสีโทนร้อน แบ่งเป็นสาร 2 ชนิด ได้แก่
สารแคโรทีน (Carotene) เป็นสารที่มีสีแดงหรือสีส้ม ถ้าใบไม้มีคลอโรฟิลล์และแคโรทีนในใบเดียวกัน ก็จะสะท้อนแสงออกมาเป็นสีแดง เขียวแกมน้ำเงินและแสงสีน้ำเงิน ทำให้ใบมีสีเขียว
สารแซนโทฟิลล์ (Xanthophyll) เป็นสารสีเหลืองหรือสีน้ำตาล
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ควรจะต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สบายตาหน่อยไหม SO GREEN เรามีบริการจัดสวน ดูแลสวนโดยทีมงานมืออาชีพ ได้รับรองมาตรฐานจากองค์กรต่างๆ พร้อมให้คำแนะนำการดูแลสวนด้วยทีมงานมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของต้นไม้แต่ละประเภท รับรองว่าได้พื้นที่สีเขียวที่ตรงใจคุณลูกค้าอย่างแน่นอน