พูดถึง “บางลำพู” หลายคนอาจนึกถึงย่านตลาดเก่าที่มีของกินน่าอร่อย หรือนึกถึงถนนพระอาทิตย์ ถนนข้าวสาร แหล่งชิลล์แฮงเอาท์ ส่วนใครที่มองหาแหล่งท่องเที่ยวในย่านนี้ ขอแนะนำเส้นทางเดินเที่ยว “บางลำพู” เพลินใจหลากสไตล์ได้ทั้งวัน
ใครที่จะมาเที่ยวในย่านบางลำพู แนะนำให้เริ่มต้นตั้งแต่ “พิพิธบางลำพู” ซึ่งตั้งอยู่ติดกับป้อมพระสุเมรุ ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ (มีรอบเข้าชมทุกครึ่งชั่วโมง) และมีเจ้าหน้าที่นำชมคอยบรรยายในส่วนต่างๆ (พิพิธบางลำพู เปิดบริการวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. หยุดวันจันทร์ สอบถามโทร. 0-2281-9828)
“พิพิธบางลำพู” พิพิธภัณฑ์ที่รวมเอาความเป็น “บางลำพู” มาไว้ที่นี่ ถ้าใครได้มาชมพิพิธบางลำพูก็จะได้รู้จักเสน่ห์ของบางลำพูอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น รู้จักทั้งชุมชนเก่าแก่และอาชีพที่หลากหลายของคนในชุมชน ทั้งการทำทอง การทำชุดโขน ทำขนม การเป็นแหล่งการค้า แหล่งช้อปปิ้ง ฯลฯ
อีกทั้งยังจะได้รู้ถึงความเป็นมาของสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ซึ่งเดิมเคยเป็น “โรงพิมพ์คุรุสภา” หรือ “โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช” มาก่อน อาคารเก่าแก่นี้เกือบจะถูกรื้อทิ้ง แต่ชาวบางลำพูได้ร่วมกันคัดค้าน ทั้งยังช่วยกันผลักดันจนสามารถขึ้นทะเบียนอาคารโรงพิมพ์คุรุสภาแห่งนี้เป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรในปี 2544 และปัจจุบันก็ได้ใช้อาคารหลังนี้จัดทำเป็นพิพิธบางลำพูได้ในที่สุด
การจัดแสดงของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนั้นเป็นเรื่องราวของ “กรมธนารักษ์” นิทรรศการถาวรเกี่ยวกับความเป็นมา และบทบาทหน้าที่ของกรมธนารักษ์ที่จะดูแลรักษาทรัพย์สินของแผ่นดิน ทั้งทรัพย์สินมีค่าที่สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีของชาติ ที่ดิน หรือเหรียญกษาปณ์ ได้เห็นขั้นตอนกว่าจะมาเป็นเหรียญกษาปณ์ใช้หมุนเวียนในท้องตลาดได้นั้นต้องผ่านกรรมวิธีอะไรบ้าง รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดสรรดูแลที่ราชพัสดุอีกด้วย
ส่วนที่ 2 จะเป็นเรื่องราวของ“บางลำพู” ย่านเก่าแก่ที่มีอดีตความเป็นมาอย่างยาวนาน พาย้อนกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองของบางลำพูที่มีรถรางตัดผ่าน มีทั้งโรงภาพยนตร์ ร้านค้า ร้านอาหาร ที่นับว่าบางลำพูนั้นเป็นศูนย์รวมความเจริญก็ว่าได้
จากนั้นไปที่ “สวนสันติชัยปราการ” สวนแห่งนี้มีทัศนียภาพของคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมาก นับเป็นสวนสาธารณะเพียงไม่กี่แห่งของกรุงเทพมหานคร ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ชื่นชมบรรยากาศริมแม่น้ำ และบริเวณโดยรอบมี “ป้อมพระสุเมรุ” เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๑ มีลักษณะงดงาม
ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้มีต้นไม้ประดับตกแต่งโดยรอบ มีที่นั่งพักผ่อนสบายๆ กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวบางลำพูและนักท่องเที่ยว และภายในสวนยังมี “พระที่นั่งสันติชัยปราการ” ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ถัดมาจะเป็น “หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา” อาคารทรงปั้นหยาที่ด้านในเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ มีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะแขนงต่างๆ อยู่เสมอ
ย่านบางลำพูมีวัดวาอารามที่เงียบสงบ อย่างเช่นที่ “วัดชนะสงคราม” เดิมวัดนี้มีชื่อว่าวัดตองปุ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดชนะสงครามหลังจากที่สมเด็จฯ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท หรือวังหน้าในรัชกาลที่ ๑ ทรงมีชัยชนะในสงครามเก้าทัพ และกลับมาบูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่
พระอุโบสถของวัดชนะสงครามก็ถือว่างดงามไม่แพ้วัดไหน เพราะเป็นฝีมือของช่างวังหน้าสมัยรัชกาลที่ ๑ ด้านในพระอุโบสถค่อนข้างกว้าง ภายในประดิษฐานพระประธานนามว่า "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหธิศักดิ์ ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ" พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองปางมารวิชัยที่มีความงดงามและศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง
อีกหนึ่งวัดสำคัญย่านบางลำพู ก็คือ “วัดบวรนิเวศวิหาร” เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ หรือวังหน้าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แต่ในสมัยของพระองค์ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ต่อมารัชกาลที่ ๓ ได้ทรงอาราธนาสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าฟ้ามงกุฏ (สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔) ซึ่งผนวชเป็นพระภิกษุอยู่วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) เสด็จมาครองเมื่อ พ.ศ.2375
ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมสำคัญหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ “พระอุโบสถ” ที่สร้างขึ้นตามแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ ๓ ภายนอกบุผนังด้วยหินอ่อนทั้งหมด เสาด้านหน้าเป็นเสาเหลี่ยมมีบัวหัวเสาลวดลายแบบตะวันตก ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามด้วยฝีมือของขรัวอินโข่ง
ภายในพระอุโบสถของวัดบวรนิเวศวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน 2 องค์ด้วยกัน องค์แรกคือพระสุวรรณเขต หรือหลวงพ่อโต หรือหลวงพ่อเพชร เป็นพระประธานองค์ใหญ่ตั้งอยู่ด้านในสุด
และด้านหลังพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์สีทองขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๓ ต่อรัชกาลที่ ๔ องค์พระเจดีย์มีสัณฐานกลม มีคูหาภายในเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์กาไหล่ทองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณระเบียงรอบพระเจดีย์มีซุ้มเก๋งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญที่มักมีผู้คนมาสักการะอยู่เสมอนั่นคือ “พระไพรีพินาศ” พระพุทธรูปศิลาปางประทานพรขนาดย่อม พระพุทธรูปองค์นี้มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังทรงผนวชอยู่ พระองค์ได้ถวายพระนามว่า “พระไพรีพินาศ” เนื่องด้วยเมื่อได้พระพุทธรูปองค์นี้มาเสี้ยนศัตรูทั้งหลายต่างก็สิ้นไป
ไม่ไกลจากวัดบวรนิเวศ โดยข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม หรือเราเดินเลียบไปตามทางเดินริมคลองอันร่มรื่น ชมบ้านเรือนห้องแถวทั้งเก่าและใหม่ริมคลองบางลำพู จะพบกับ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน” อันงดงามแห่งเดียวในฝั่งพระนคร
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline