xs
xsm
sm
md
lg

10 จุดเที่ยว “เมืองนนท์” เที่ยวสบายๆ ใกล้กรุง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เที่ยวสบายๆ ที่นนทบุรี
เที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ ในวันหยุดสบายๆ ที่ “นนทบุรี” กับ 10 จุดท่องเที่ยว ที่มีทั้งการไปไหว้พระ เดินชมสถาปัตยกรรมสวยๆ ชอปปิ้งของกินแสนอร่อย และตลาดสำหรับคนรักต้นไม้

วันหยุดสบายๆ อยากออกไปเที่ยวแบบชิลๆ เดินทางไม่ไกล แต่ได้ครบทั้งไหว้พระทำบุญ ชอปปิ้ง ชิมของอร่อย และได้ของฝากกลับบ้าน ชวนมาเที่ยวที่ “นนทบุรี” จังหวัดที่อยู่ติดกรุงเทพมหานคร เดินทางสะดวกสบาย และมีที่เที่ยวหลากหลายครบครัน

ชวนมาเช็คอินกับ 10 จุดท่องเที่ยวใน “นนทบุรี” จดไว้ในลิสต์ที่เที่ยว เผื่อวันหยุดครั้งหน้าจะได้ชวนครอบครัวเพื่อนฝูงมาเที่ยวกัน

ท่าน้ำนนทบุรี

หอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรี
ท่าน้ำนนทบุรี
“ท่าน้ำนนทบุรี” ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยวที่ดีเยี่ยม เนื่องจากสามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถส่วนตัว รถสาธารณะ และยังเป็นท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ที่สามารถขึ้นลงเรือได้ที่นี่ โดยจุดสำคัญของท่าน้ำนนทบุรีก็คือ “หอนาฬิกา ท่าน้ำนนทบุรี” โดยหอนาฬิกาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อพี่ พ.ศ. 2500 ตัวเรือนนาฬิกาเป็นยี่ห้อ Tag Heuer ซึ่งเป็นตัวเรือนของ Tag Heuer ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หอนาฬิกาแห่งนี้ตั้งอยู่เคียงคู่ท่าน้ำนนท์มาอย่างยาวนาน ใช้บอกเวลาเเก่ผู้ที่สัญจร

ตลาดเทศบาลนนทบุรี

ร้านนนท์เบเกอรี่
ตลาดเทศบาลนนทบุรี
“ตลาดเทศบาลนนทบุรี” ตั้งอยู่ใกล้กับท่าน้ำนนทบุรี เป็นแหล่งรวมของอร่อยมากมาย มีตลาดสดที่เดินชอปกันได้ตลอดทั้งวัน ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักสด ของแห้งต่างๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอร่อยเจ้าดังที่เปิดขายอยู่ในตลาดด้วย เช่น ขนมฝรั่งแม่ไน้ ข้าวเหนียวมูนแม่ประไพศรี เจ๊พันหมูสะเต๊ะ นนท์เบเกอรี่ เป็นต้น

พระอุโบสถ วัดเฉลิมพระเกียรติ

พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา
วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร
“วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร" วัดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น ในพื้นที่ซึ่งเป็นนิวาสถานเดิมของพระอัยกา (ตา) พระอัยกี (ยาย) และพระราชมารดาของพระองค์ หรือเจ้าจอมมารดาเรียม ซึ่งภายหลังได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระศรีสุลาลัย โดยพระองค์ทรงเห็นว่าควรที่จะสถาปนาสถานที่แห่งนี้ขึ้นเป็นพระอารามหลวงสักแห่งหนึ่งเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแก่บุคคลทั้งสามนั้น

ที่วัดแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ ที่รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ตามแบบพระราชนิยม หลังคาพระอุโบสถมุงด้วยกระเบื้องรางดินเผาทำเป็นลอนลูกฟูกแบบจีน หน้าบันประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสดจากประเทศจีน ประดับตกแต่งสีให้เป็นใบและดอกพุดตาน และด้านในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน "พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองแดง ซึ่งรัชกาลที่ 3 โปรดให้ขุดแร่ทองแดง ที่อำเภอจันทึก จังหวัดนครราชสีมาโปรดให้หล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่เพื่อนำไปประดิษฐานเป็นพระประธานประจำในพระอุโบสถแห่งนี้

อุโบสถหลังเก่าวัดชลอ

อุโบสถเรือสุพรรณหงส์
วัดชลอ
“วัดชลอ” อยู่ในตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราว พ.ศ.2275 ตัววัดตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย หรือเดิมเรียกว่าคลองลัดบางกรวย ซึ่งขุดขึ้นใน พ.ศ. 2081 ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา

อุโบสถเก่าแก่ของวัดนั้นก็เป็นศิลปะสมัยอยุธยา ฐานอาคารโบสถ์แอ่นโค้งแบบที่เรียกว่า ตกท้องสำเภา ซึ่งเป็นงานที่นิยมสร้างในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันวัดชลอยังคงรักษาอุโบสถหลังเก่าไว้เป็นอย่างดี ตัวโบสถ์มีขนาดเล็ก มีหลักฐานว่าตัวอุโบสถได้รับการบูรณะต่อมาภายหลังโดยดูจากเสาขนาดใหญ่ทางตอนหน้าที่เป็นลักษณะซึ่งพบเห็นในรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อเข้าไปด้านในจะพบพระพุทธรูปงดงามสามารถเข้าไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ ส่วนอุโบสถหลังใหม่คือ “อุโบสถเรือสุพรรณหงส์” ที่ลอยสง่างามอยู่ภายในวัดเห็นโดดเด่นแต่ไกลนั้นริเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 2526 โดยดำริของพระครูนนทปัญญาวิมล (หลวงพ่อสุเทพ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชะลอ

อุโบสถลักษณะคล้ายท้องเรือสำเภา วัดปราสาท

ด้านในอุโบสถวัดปราสาท
วัดปราสาท
“วัดปราสาท” เป็นอีกหนึ่งวัดโบราณของจังหวัดนนทบุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็น เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เป็นวัดในสังกัดมหานิกาย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2310 ซึ่งเป็นปีที่เสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2

ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ที่อุโบสถ มีลักษณะการสร้างแบบก่ออิฐถือปูนศิลปะสมัยอยุธยา ตัวอุโบสถลักษณะคล้ายท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสมัยกรุงศรีอยุธยา มีประตูทางเข้าอุโบสถ 3 บาน ไม่มีการสร้างหน้าต่าง ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ มีการสร้างช่องแสงด้านหลังองค์พระประธาน 1 ช่อง เพื่อให้แสงสว่างกระจายไปทั่วพระประธาน เสมือนมีพระรัศมีส่องแสงออกมา ถือเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญามหัศจรรย์ที่บรรพชนได้สร้างสรรค์ไว้

วัดเล่งเน่ยยี่ 2

ด้านในอุโบสถ วัดเล่งเน่ยยี่ 2
วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์
“วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์” หรือ “วัดเล่งเน่ยยี่ 2” เป็นวัดจีนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายรัชกาลที่ ๙ เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์”

สำหรับสถาปัตยกรรมภายในวัดสวยงดงามตระการตา ได้ถูกออกเเบบด้วยสถาปัตยกรรมจีนในยุคสมัยราชวงศ์หมิง เเละถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมพุทธศิลป์จีนโบราณ บรรยากาศภายในวัดจึงเหมือนอยู่ในพระราชวังจีน หลายคนที่มาที่นี่นอกจากจะมาไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลในชีวิตแล้ว ก็มักจะมาแก้ปีชงภายใน วิหารท้าวจตุโลกบาล สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นปีชงก็มีโอกาสได้สักการะขอพรเทพเจ้าองค์อื่นๆ อาทิ พระศรีอาริยเมตไตรย,ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ทิศ และเทพเจ้าองค์อื่นๆ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารเเห่งนี้

อุโบสถหลังเก่าวัดชมภูเวก

ภาพเขียนแม่พระธรณีบิดมวยผม
วัดชมภูเวก
“วัดชมภูเวก” เป็นวัดมอญ สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายระยะต้น ในสมัยพระนารายณ์มหาราช ราว พ.ศ. 2225 โบราณสถานแรกที่ถือเป็นสัญลักษณ์คู่วัดชมพูเวก คือ “พระมุเตา” หรือ “เจดีย์ทรงมอญ” ต่อมาได้ทำการบูรณะสร้างพระมุเตาให้สูงใหญ่กว่าเดิมและสร้างเจดีย์รายที่มุมพระมุเตาทั้งสี่ของฐาน นอกจากนั้นได้สร้างเจดีย์อีกสององค์ด้านหลังพระมุเตาเพื่อบรรจุอัฐธาตุอดีตเจ้าอาวาส ส่วนพระมุเตาสันนิษฐานว่าสร้างเพื่อบรรจุพระบรมธาตุ

ส่วน “อุโบสถเก่า” ที่ตั้งอยู่ข้างอุโบสถหลังใหม่นั้น ก็มีอายุเก่าแก่ประมาณ 350 ปี เช่นกัน ลักษณะเด่นของอุโบสถเก่านี้คือ ถูกออกแบบให้มีประตูเข้า-ออก ทางด้านหน้าด้านเดียวตามคติมอญ เรียกว่า โบสถ์มหาอุด ผนังด้านข้างทั้งสองสอบเข้าเพื่อใช้ผนังในการรับน้ำหนักทั้งหมดแทนเสา เชื่อกันว่าอุโบสถลักษณะมหาอุดนี้ปลุกเสกของขลังได้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

ส่วนจิตกรรมฝาผนังที่เลื่องชื่ออยู่บริเวณเหนือประตู เป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ ใต้รูปพระพุทธเจ้าเป็นภาพเขียนรูป “แม่พระธรณีบิดมวยผม” ในซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งงามวิจิตรด้วยความคดเคี้ยวของเส้น แสดงให้เห็นถึงลักษณะของศิลปะขั้นสูงฝีมือบรมครู ซึ่งศิลปินที่เป็นจิตกรของกรมศิลปากรต่างยกย่องและรับรองว่าเป็นแบบอย่างภาพเขียนแม่พระธรณีที่งดงามที่สุดในโลกเลยทีเดียว

พุทธสถานเชิงท่า หน้าโบสถ์

ศาลเจ้าพ่อเสือ
พุทธสถานเชิงท่า หน้าโบสถ์
"พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์" เป็นศาสนสถานที่เทศบาลนครนนทบุรีร่วมกับกรมศิลปากร ได้พัฒนาจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยรวมวัดหน้าโบสถ์และวัดเชิงท่าซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง และต่อมาเป็นวัดร้าง เลยเรียกรวมกันว่า พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์

สถานที่สำคัญของวัดซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายก็คือ “ศาลเจ้าพ่อเสือ” บริเวณด้านข้างของวัดหน้าโบสถ์นี้ และยังมี “หลวงพ่อเสือ” ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าโบสถ์ของวัดหน้าโบสถ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของผู้คนในบริเวณนี้ และเจดีย์วัดเชิงท่า รวมถึงอุโบสถวัดเชิงท่า หลงเหลือสภาพเพียงฐานดังที่เห็นในปัจจุบัน

เจดีย์เอียง เกาะเกร็ด

เดินเล่นที่เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ด
"เกาะเกร็ด" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดนนทบุรี รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา และประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบนเกาะเกร็ด ก็จะมีทั้งมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง หาของอร่อยๆ กิน บ้างก็เลือกนั่งเรือชมรอบเกาะ หรือเช่าจักรยานปั่นรอบเกาะสัมผัสวิถีชุมชนอย่างใกล้ชิด

การเดินทางมายังเกาะเกร็ดนั้น สามารถมาข้ามเรือข้ามฟากได้ที่วัดสนามเหนือ ใน อ.ปากเกร็ด เพียงชั่วอึดใจ ก็จะข้ามมาถึงฝั่งเกาะเกร็ดแล้ว ซึ่งสัญลักษณ์ที่คุ้นตากันดีของเกาะเกร็ดก็คือ “เจดีย์เอียง” หรือ “เจดีย์มุตาว” เป็นเจดีย์สีขาวทรงรามัญ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดปรมัยยิกาวาส

นอกจากนี้หากใครมาถึงที่เกาะเกร็ดแล้ว ก็ต้องมาเยี่ยมชมตลาดที่เปิดขายตลอดเส้นทางรอบๆ เกาะ ซึ่งตลาดบนเกาะเกร็ดแห่งนี้จะเปิดทุกวัน แต่มีร้านค้าคึกคักเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยของที่ขายนั้นก็มีทั้งอาหารคาว-หวาน ขนม ของเด็กเล่น เครื่องปั้นดินเผา เสื้อผ้า ของฝากของที่ระลึกต่างๆ ส่วนเมนูของกินก็คือ ทอดมันหน่อกะลา อันเป็นของขึ้นชื่อของเกาะเกร็ด และขนมหวานไทยๆ ที่มีให้เลือกชิมหลากหลายชนิด

ตลาดต้นไม้การ์เด้นท์เซ็นเตอร์
ตลาดต้นไม้บางใหญ่
ใครที่รักการปลูกต้นไม้ อยากหาซื้อต้นไม้ใหม่ๆ หรืออุปกรณ์เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ ที่ย่านอำเภอบางใหญ่ ก็มีตลาดต้นไม้ให้เลือกเดินหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น “ตลาดต้นไม้การ์เด้นท์เซ็นเตอร์” ตลาดต้นไม้เก่าแก่ที่เปิดบริการมานานกว่า 10 ปี มีร้านขายต้นไม้ให้เลือกซื้ออยู่หลายร้าน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงกระถางต้นไม้ก็มีขายด้วยเช่นกัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.

“ตลาดต้นไม้บุญยง” เป็นตลาดกลางศูนย์รวมพืชพันธุ์ไม้ไว้หลายชนิด มีทั้งขายปลีกแล้วก็ขายส่งทำให้ได้ราคาถูก มีทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ล้อม มาพร้อมอุปกรณ์และของในการจัดตกแต่งสวนน่ารักๆ ให้เลือกซื้อเพียบ เปิดทุกวัน 07.00 – 18.00 น.

ตลาดต้นไม้บุญยง
“ตลาดค้าส่งต้นไม้พระเงิน” ภายในมีต้นไม้หลากหลายให้เลือกซื้อตั้งแต่ต้นเล็ก ๆ อย่างไม้ดอกไม้ประดับ ไม้มงคล ไม้ยืนต้น กล้วยไม้ เฟิร์น สับปะรดสี พืชสมุนไพร และพืชผักสวนครัว รวมถึงดิน อิฐ หิน และอุปกรณ์ทำสวนต่าง ๆ ด้วยความที่เป็นตลาดต้นไม้ขายส่ง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ซื้อต้นไม้เป็นจำนวนเยอะ ๆ เพราะยิ่งซื้อเยอะ ก็ยิ่งราคาถูก แต่สำหรับใครที่อยากซื้อในราคาปลีกก็มีให้เลือกซื้อหาเช่นกัน เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

ตลาดค้าส่งต้นไม้พระเงิน

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น