xs
xsm
sm
md
lg

หนึ่งปีมีครั้งเดียว! ร่วมรำลึกวันจักรี ที่ “ปราสาทพระเทพบิดร” วัดพระแก้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันจักรี 6 เม.ย.นี้ สำนักพระราชวังเปิดปราสาทพระเทพบิดรให้ประชาชนกราบถวายบังคมพระบูรพมหากษัตริยาธิราช

สำนักพระราชวัง แจ้งการเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน 2566 เนื่องในพระราชพิธีวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์


นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ ตั้งแต่เวลา 08.00– 12.00 น. งดเข้าชมพระอุโบสถทั้งวัน และเข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในได้ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 13.00 น.

ทั้งนี้ โปรดแต่งกายสุภาพ สุภาพบุรุษห้ามสวมกางเกงยีนส์ สุภาพสตรีต้องสวมกระโปรงหรือผ้านุ่ง




ทั้งนี้ "วันจักรี" นั้น จะตรงกับวันที่ 6 เมษายนของทุกปี โดยเป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทย ในปี พ.ศ. 2325 และด้วยด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว


และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อประดิษฐานไว้ให้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละครั้ง และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ย้ายพระบรมรูปมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 และได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ 6 เมษายน ในปี พ.ศ.2461 และโปรดฯ ให้เรียกวันที่ 6 เมษายนของทุกปีว่า “วันจักรี”


นอกจากนี้ภายใน“วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” มีศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงาม ในพระอุโบสถประดิษฐาน “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” หรือ “พระแก้วมรกต” พุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย และยังมี “ภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์” ให้ได้ชม โดยได้วาดไว้บริเวณระเบียงคดรอบพระอุโบสถ

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น