เผยสถิติ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด มาเลเซียมาเป็นอันดับ 1 ตามด้วยอินเดีย และ ลาว ใน 3 อันดับแรก ขณะที่ ล่าสุดตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทย พุ่งทะลุกว่า 11 ล้านคนแล้ว
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2565 เป็นจำนวนถึง 11,049,769 คน
สำหรับสถิตินักท่องเที่ยว 10 ประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย (
ข้อมูล : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ณ วันที่ 26 ธ.ค.2565 มีดังนี้
1.มาเลเซีย 1,789,136 คน
2.อินเดีย 914,229 คน
3.สปป.ลาว 789,351 คน
4.กัมพูชา 555,819 คน
5.สิงคโปร์ 555,370 คน
6.เกาหลีใต้ 495,011 คน
7.เวียดนาม 450,047 คน
8.สหรัฐอเมริกา 424,711 คน
9.อังกฤษ 422,679 คน
10.รัสเซีย 367,236 คน
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวรายด่าน 5 อันดับแรก สะสม 1 มกราคม-22 ธันวาคม 2565 ได้แก่ 1. ทอ.สุวรรณภูมิ 5,729,695 คน 2. ทอ.ภูเก็ต 1,457,683 คน 3. ทอ.ดอนเมือง 904,717 คน 4. สะเดา 670,400 คน และ 5. หนองคาย 328,957 คน
ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี เปิดเผยว่า ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ตั้งแต่ที่ประเทศไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยแล้วเฉลี่ยวันละ 60,000-70,000 คน โดยกลุ่มหลักเป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย อินเดีย และขณะนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามาวันละประมาณ 5,000 คน เป็นผลจากที่มีการเพิ่มเที่ยวบินจากรัสเซียบินตรงมายังกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเริ่มมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำบินตรงมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยคาดว่าในปี 2565 นี้ยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีถึง 11.5 ล้านคน เมื่อรวมกับการท่องเที่ยวในประเทศ 175 ล้านคน/ครั้ง จะทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่ารวมในปี 2562 สำหรับเป้าหมายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ปี 2566 ททท. ได้คาดการณ์ว่าจะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2566 กลับมาในอัตราร้อยละ 80 ของปี 2562 ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวที่ร้อยละ 50 ของปี 2562 หรือประมาณ 20 ล้านคน
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการผลักดันการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของการท่องเที่ยวไทย ทั้งส่วนของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และการส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าการผลักดันฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว ต้องให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้สู่เมืองรอง ผลักดันการท่องเที่ยวชุมชน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อให้ความเข้มแข็งเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับฐานรากของเศรษฐกิจ พร้อมกำชับให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อรองรับและกระตุ้นนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในอนาคต ตลอดจนแผนการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว โดยให้พิจารณาความพร้อมและศักยภาพของประเทศในทุกด้านควบคู่ด้วย ทั้งนี้ การที่สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวที่ได้ร่วมกับขับเคลื่อน ซึ่งจะช่วยทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวเร็วที่สุดในโลกได้” นายอนุชาฯ กล่าว