กลายเป็นกระแสดังให้กล่าวถึงทันที สำหรับ “ป่าช้าวัดดอน” หรือ “สุสานแต้จิ๋ว” เมื่อ “นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กล่าวเชิญชวนประชาชนให้ชมดนตรีในสวน ณ สุสานแห่งนี้ในวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย.
โดยระบุว่า “ที่สมาคมแต้จิ๋วไม่ธรรมดา ตามจริงสมาคมแต้จิ๋ว คือ ป่าช้าวัดดอน ซึ่งจะมีคนที่นอนอยู่ใต้ดินที่มาร่วมฟังกับเราอีกเป็นพัน เป็นหมื่น ถือว่าท่านเป็นผู้อาวุโสมาก่อน เราให้ความเคารพ แต่เป็นสถานที่ไม่น่าเชื่อ อะเมซิ่ง
ใครไม่เคยไปก็จะได้บรรยากาศ เค้าเรียกว่าเป็นหลุมตายาย คนที่ไม่มีญาติ เป็นหมื่นๆ ศพ มีการล้างป่าช้า ก็เป็นที่ที่สวยงามอยู่กลางเมืองเลย ไปรถไฟฟ้าก็สะดวก”
ใครไม่เคยไปที่นี่อาจนึกภาพไม่ออก และเกิดกระแสถกเถียงกันไป ดังนั้น เราจึงชวนคุณมาทำความรู้จักกับสถานที่แห่งนี้ สำหรับ “ป่าช้าวัดดอน" จากสุสานเก่าแก่ ที่วันนี้จริงๆแล้ว คือ “สวนสาธารณะสวยใจกลางเมือง"
อดีตกาลนานมาแล้ว
“ป่าช้าวัดดอน” หรือ “สุสานแต้จิ๋ว” เป็นสุสานเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ และเป็นสุสานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯชั้นใน ต้นแบบมาจากสิงคโปร์ คือ ระบบ กงซีซัว (ลักษณะเป็นหลุมฮวงซุ้ย)
ภาพจำในยุคก่อนนั้นออกไปในทางลบพอสมควร เพราะติดอันดับสถานที่ชวนสยองในเมืองหลวงก็ว่าได้ ด้วยการเคยเป็นสุสานขนาดใหญ่ มีพื้นที่มากกว่า 150 ไร่ เป็นที่ฝังศพมากกว่าหมื่นศพ ทั้งศพที่ฝังในลักษณะของฮวงซุ้ย ศพที่บรรจุเฉพาะอัฐิ รวมไปถึงศพที่ไม่มีญาติบรรจุรวมกันไว้
มีบริเวณที่เรียกว่า หลุมหมื่นศพ เพราะเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่สุด และสุสานแห่งนี้อยู่ในความดูแลของ 3 องค์กร คือ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย มูลนิธิปอเต็กตึ้ง และสมาคมไหหลำด่านเกเต้
สมัยก่อน สุสานแต้จิ๋วไม่ได้เปิดให้ใครเดินเข้ามาง่ายๆ แต่จะเข้าได้ก็เฉพาะช่วงเทศกาลเชงเม้ง หรือวันที่ชาวจีนจะไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษ จึงทำให้พื้นที่ยิ่งดูเปลี่ยว รกร้าง แถมสมัยก่อนมีสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายอาศัยอยู่จำนวนมาก ยิ่งเพิ่มความสยองขวัญขึ้นไปอีก
ความสะพรึงกว่านั้น คือ บริเวณนอกรั้ว เคยเป็นสถานที่เสื่อมโทรม มีน้ำท่วมขัง ขาดการดูแล ถึงขนาดว่ามีศพไร้ญาตินอนแช่น้ำน่าอนาถ และยังเป็นแหล่งที่ชาวบ้านยังนำเอาขยะมาทิ้งทับถมกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมลพิษทางกลิ่นและความสกปรก
ดังนั้นตำนานเรื่องผีๆ หรือความสยองขวัญของที่นี่ ไม่เป็นรองที่ไหน ชนิดที่ว่าหากเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งแถวนั้นยามค่ำคืน เป็นอันต้องโดยปฏิเสธแน่นอน
ความเปลี่ยนแปลงประมาณ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตำนานความเฮี้ยนและความน่ากลัวของป่าช้าวัดดอน ค่อยๆเลือนหายไป เนื่องจากมีการล้างป่าช้าทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณไปหลายครั้ง ขณะเดียวกันขยายตัวของเมืองใหญ่ก็ชัดเจน จากความเปลี่ยวร้าง ก็กลายเป็นการล้อมรอบด้วยทางด่วน ถนนหนทาง คอนโด ตึกสูง แม้แต่รถไฟฟ้าก็อยู่ไม่ไกลเกินจะเดินไปถึง
แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เมื่อสำนักงานเขตสาทร เข้ามาพัฒนาพื้นที่ในส่วนสุสานให้พื้นที่สาธารณะ โดยมี “ชมรมนักวิ่งสุขภาพสมาคมแต้จิ๋ว” เป็นหัวแรงหลัก ร่วมกับองค์กรอื่นๆ
มีโครงการที่เรียกว่า "สวนสวยในป่าช้า" หรือ "สวนสวยสมาคมแต้จิ๋ว" โดยได้มีการปรับปรุงป่าช้าวัดดอน บางส่วนเพื่อใช้เป็นสวนสาธารณะ อนุญาตให้คนทั่วไปได้เข้าไปใช้เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย และปัจจุบันก็ไม่มีการนำศพเข้ามาฝังในป่าช้าวัดดอนอีกแล้ว ยิ่งทำให้บรรยากาศความน่ากลัวแบบเดิมลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
เมื่อสุสานกลายเป็นสวนสาธารณะ บรรยากาศของสุสานจึงเหลือเพียงฮวงซุ้ย ที่มีอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีความน่ากลัวแบบเดิมๆอีก เพราะมีเส้นทางวิ่งตัดผ่าน มีต้นไม้ร่มรื่น พร้อมทั้งชมรมกิจกรรมต่างๆอีกนับสิบชมรมของกลุ่มผู้สูงวัยและประชาชนในละแวกนั้น เช่น แบดมินตัน ฟิตเนส แอโรบิก หมากรุก เทควันโด ฯลฯ โดยมีสมาคมนักวิ่งแต้จิ๋วเป็นชมรมหลัก
บรรยากาศในวันนี้
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า สุสานวัดดอน หรือสุสานแต้จิ๋ว ในวันนี้ คือ อีกหนึ่งสวนสาธารณะที่สวยงามร่มรื่น และมีเอกลักษณ์ แบบ Amazing ในกรุงเทพฯ
บรรยากาศของผู้คนที่มาออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ท่ามกลางความร่มรื่น ตกแต่งภูมิทัศน์สวยงาม ร้านกาแฟ ศาลเจ้าไต้ฮงกงให้บรรยากาศแบบจีนโดยมีตึกสูงเป็นฉากหลังอยู่ลิบๆ ขณะที่เส้นทางเดิน-วิ่ง ก็มีพื้นที่ฮวงซุ้ยโบราณรายล้อม ถือเป็นความแปลกตาหาชมได้ยาก
และในยุคนี้ ก็จะมีกิจกรรม “ดนตรีในสวน” เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่สุสานสวยใจกลางเมือง
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline