“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2565 ตอน สะกิด “แผลเก่า” ทบ. มหากาพย์ไม้ล้างป่าช้า จีที 200 กระทบ “3ป.”
กรณีเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธ และวัตถุระเบิด หรือ GT200 ที่เป็นมหากาพย์ “ไม้ล้างป่าช้า” หลังเมื่อปี 2556 ศาลอังกฤษตัดสินจำคุก “แกรี โบลตัน” เจ้าของบริษัทโกลบอล เทคนิคัล 7 ปี ข้อหาจำหน่ายเครื่องตรวจ GT200 ให้หลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย โดยการฉ้อโกง
ต่อมาปี 2559 ศาลอังกฤษตัดสินยึดทรัพย์ “เจมส์ แมคคอร์มิค” ผู้ต้องหาในคดีจำหน่ายเครื่อง GT200 ปลอม 7.9 ล้านปอนด์ หรือราว 395 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
ล่าสุด “แผลเก่า” ถูกสะกิดขึ้นมาอีกครั้งกลางสภา หลัง “จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์” ส.ส. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการใช้งบประมาณกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ปรากฏในเอกสารงบประมาณว่า ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กองทัพบกทำสัญญาจ้าง มูลค่ารวม 7.5 ล้านบาท ให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ไปตรวจสอบเครื่อง GT200 จำนวน 757 เครื่อง ตกเครื่องละ 10,000 บาท
ทำให้เกิดคำถามถึงการตรวจสอบดังกล่าว ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณ 7.5 ล้านบาท และความคืบหน้าฟ้องร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ต่อมา พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กองทัพบกชี้แจงมาว่าที่ตั้งงบประมาณไว้ เนื่องจากเป็นไปตามคดีอาญา ที่กองทัพบกได้ฟ้องบริษัทผู้ขายกับพวกรวม 5 คน ต่อศาลฐานร่วมโกง และศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ก็ตัดสินชี้มูลมาแล้วว่า จำเลยมีความผิด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
.
พล.อ.คงชีพ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คดีในทางปกครอง กองทัพบกได้ฟ้องบริษัทผู้ขาย โดยศาลปกครองกลางได้สั่งให้ต้องชำระหนี้กับกองทัพบก เป็นเงินกว่า 683 ล้านบาท ต่อมาทางบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
โดยทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นว่า การตรวจเครื่อง GT200 ที่ไม่สามารถใช้งานได้ทุกเครื่อง ทั้ง 757 เครื่อง เป็นสาระสำคัญของคดี จึงมีความจำเป็นให้กองทัพบกตรวจสอบทุกเครื่องว่า ใช้งานได้หรือไม่
และให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญมีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบ ทั้งการวัดวัตถุไฟฟ้าสถิต การแพร่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การวัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง การวิเคราะห์ผลรวมถึงการผ่าพิสูจน์ตัวเครื่อง
กองทัพบกจึงได้ดำเนินการจ้างไปที่ สวทช. ตามที่เสนอราคามาโดยในปี 2564 ใช้งบประมาณประมาณ 3.2 ล้านบาท และในปี 2565 อีก 4.37 ล้านบาท ก็ได้ทยอยตรวจสอบ
ต่อมาศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยให้บริการ ซึ่งดำเนินการวิเคราะห์ ทดสอบ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้มาตรฐานสากล ชี้แจงว่า ได้รับการประสานจากกรมสรรพาวุธทหารบก เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของ GT200 ทั้ง 757 เครื่อง ว่าใช้งานได้หรือไม่ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์
รวมถึงการผ่าพิสูจน์เครื่อง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการดำเนินคดีปกครอง การทดสอบจึงต้องดำเนินการตามหลักการทดสอบทุกรายการที่มีการดำเนินการทดสอบเครื่อง GT200 และใช้เป็นบรรทัดฐานของข้อมูลประกอบการพิจารณาคดีก่อนหน้านี้ และเชื่อถือได้ในชั้นการพิจารณาของศาล
พร้อมย้ำว่าค่าบริการทดสอบทั้งหมด ศูนย์ PTEC คำนวณจากการใช้วัสดุและอุปกรณ์ทดสอบ ห้องปฏิบัติการทดสอบ ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการใช้สารเสพติดและวัตถุระเบิดในการทดสอบ เพื่อให้ได้คุณภาพของผลการทดสอบตามเอกสารว่าจ้างที่ระบุทุกรายการ ซึ่งค่าบริการดังกล่าวมีราคาถูกกว่าการทดสอบโดยห้องปฏิบัติการต่างประเทศ
ดูเหมือนจะจบแต่ไม่จบ กลายเป็นเรื่อง “โยนกันไปมา” หลัง “ประยุทธ เพชรคุณ” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ออกมากล่าวแย้งว่า ความเห็นของอัยการสูงสุดให้จ้างตรวจ GT200 ทั้งหมด 757 เครื่อง เพื่อที่จะทราบว่าเป็นของที่ไม่มีคุณสมบัติตามสัญญาจริง แต่จะจ้างใครตรวจและราคาเท่าใดเป็นเรื่องของกองทัพบก
ซึ่งอัยการสูงสุดเห็นว่าควรตรวจเพื่อเป็นประเด็นชี้ขาดทางคดี พร้อมย้ำว่าคดีได้จบแล้ว หลังศาลปกครองกลางสั่งบริษัทเอวิเอ แซทคอมฯ ชำระเงินให้กับกองทัพบก 683 บาท และสำนักงานอัยการสูงสุดได้แจ้งผลคดี ให้กองทัพบกทราบ ตั้งแต่ 8กันยายน 64 จึงไม่มีความจำเป็นต้องตรวจอีก
กลายเป็นเรื่องกระทบชิ่งมาถึง “3ป.บูรพาพยัคฆ์” ที่อยู่ในช่วงเกี่ยวเนื่องกับ “ไม้ล้างป่าช้า” ชนิดนี้ด้วย โดยเฉพาะกับ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. เคยสั่งซื้อเครื่อง GT200 มากที่สุดในหน่วยงานของไทย
.
โดยกองทัพบก จัดซื้อจีที 200 ระหว่างปี 2550-2552 จำนวนทั้งสิ้น 757 เครื่อง แบ่งเป็นสมัย พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. จัดซื้อ 755 เครื่อง ส่วนที่เหลืออีก 2 เครื่อง จัดซื้อสมัย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ.
ทว่าเกิดคำถามกับประสิทธิภาพของเครื่อง GT200 หลังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ เครื่องดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริงตามสรรพคุณที่อวดอ้าง โดยขณะนั้นในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประสิทธิภาพ GT200 และ ALPHA 6 ขึ้นมา
ผลกระทบสอบผลทดสอบ 10 ครั้ง ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยได้ไม่ถึงครึ่ง ทำให้ ทบ. สั่งเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดจากการใช้งาน นำมาสู่มหากาพย์การตรวจสอบครั้งใหญ่ จุดเริ่มต้นตำนาน “ไม้ล้างป่าช้า” นั่นเอง
ถือเป็นเรื่อง “ก้าวพลาด” ที่ตามหลอกหลอน “กองทัพบก” แถมกระทบมาถึง “3ป.” โดยในยุคนั้น “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์
พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. ที่จัดซื้อมากที่สุด รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็น รมว.กลาโหม ในยุคปัจจุบัน ที่มีการใช้จ่ายงบตรวจสอบเครื่อง GT200 จำนวน 7.5 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสนิยมรัฐบาล กับ “3ป.บูรพาพยัคฆ์” ที่เรตติ้งดิ่งลง กลับยิ่งจมลงไปอีก
-----------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1