กราบ “หลวงพ่อคง” องค์ใหญ่ อิ่มบุญสุขใจที่วัดบางกะพ้อม

ที่เมืองสองสมุทรหรือจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นอีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร วัดวาอาราม ให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาเยี่ยมชม


ครั้งนี้จะขอพาแวะกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “วัดบางกะพ้อม” ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ที่มีตำนานเรื่องเล่ามากมายเล่าต่อกันมา ซึ่งวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยไม่ปรากฏนามผู้สร้าง แต่มีตำนานเล่าขานที่มาของชื่อวัดว่า

สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนี้ และมีอาชีพด้วยการสานกระพ้อมใส่ข้าวเปลือกขาย วันหนึ่งกองทหารพม่าได้ยกพลมาปล้นบ้านเรือนราษฎรในเมืองแม่กลองและกำลังสู้รบกันอยู่ที่ค่ายบางกุ้งที่อยู่ไม่ไกลกัน สามีภรรยาคู่นี้ด้วยความจวนตัวและไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนจึงได้เข้าไปหลบอยู่ในกะพ้อมที่ตัวเองสาน พร้อมอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า ถ้ารอดชีวิตออกไปจะจัดการสร้างวัดและวิหารขึ้นในบริเวณนี้
 

และก็เป็นจริงดังนั้นเมื่อกองทหารพม่าผ่านทั้งคู่ไปโดยมิได้พบเห็น เมื่อทั้งคู่ปลอดภัยและทรัพย์สินก็ไม่เสียหายจึงได้ทำตามสัญญาด้วยการบริจาคที่ดินบ้านเรือนสร้างวัดขึ้น ณ บริเวณนั้น โดยชาวบ้านต่างเรียกขานกันว่า “วัดบังกะพ้อม” หรือไม่ก็ “วัดบังกับพ้อม” ก่อนที่จะเพี้ยนมาเป็น “วัดบางกะพ้อม” ในปัจจุบัน


เมื่อมาถึงที่วัดแล้วให้แวะที่จุดแรกคือ “ศาลาหลวงพ่อ 6 องค์” สักการะปิดทองรูปหล่อเหมือนจริงของ “หลวงพ่อคง” อดีตเจ้าอาวาสผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัด เป็นเกจิชื่อดัง ซึ่งที่วิหารนี้ยังมี “หัวใจหลวงพ่อคง” และรูปหล่อของหลวงปู่หลวงพ่ออีกหลายองค์ให้ได้ขอพรกันด้วย




ด้านซ้ายของวิหารนี้จะเป็นที่ตั้งของ “วิหารหลวงพ่อคง” เป็นวิหารทรงจตุรมุข ซึ่งสามารถปิดทองได้เช่นกัน ถัดไปด้านหลังจะมี “ศาลาเรือหลวงพ่อคง” ที่จะมีส่วนหนึ่งของเรือที่หลวงปู่คงเคยใช้ให้ได้เห็นกัน




และ “วิหารรอยพระพุทธบาท” วิหารหลังนี้สร้างขึ้นมาพร้อม ๆ กับการสร้างวัดโดย 2 สามีภรรยาผู้สร้างวัดนั่นเอง แต่ว่ายุคนั้นยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย กระทั่งในรัชกาลที่ ๒ มีเชื้อพระวงศ์ท่านหนึ่งในราชวงศ์จักรีได้ออกผนวชและได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางกะพ้อม ท่านจึงได้สร้างวิหารต่อให้เสร็จสมบูรณ์ 

รูปแบบที่ออกมาจึงได้รับอิทธิพลของงานศิลปกรรมในสมัยรัชกาลที่ ๒ มาไม่น้อย นั่นก็คือ เป็นวิหารออกแนวสถาปัตยกรรมจีน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าปั้นเป็นลายปูนปั้นแบบจีน มีทางเข้าเป็นช่องกลมพร้อมด้วยทวารบาลทหารปูนปั้น 2 นาย ซ้าย-ขวา ยืนเฝ้าปากประตูอยู่ ภายในมีรอยพระพุทธบาท 4 รอย ขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่


และมีไฮไลต์ของที่วัดคือ “ภาพจิตกรรมฝาผนังปูนปั้นนูน” ที่ทางวัดระบุว่ามีที่เดียวในเมืองไทยนั่นเอง ภาพจิตกรรมฝาผนังปูนปั้นที่นี่มีทั้งเป็นภาพนูนสูง นูนต่ำ และภาพเขียนสีแซมในบางส่วน ทั้งสามด้านเป็นเรื่องราวของพุทธประวัติและเรื่องราวของรอยพระพุทธบาท


รวมถึงยังมี “วิหารหลวงพ่อดำ” เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธทรงไทยองค์สีดำใหญ่, “วิหารขาว” ภายในมีพระพุทธปางมารศรีวิชัยอยู่ และ “วิหารหลวงพ่อพระนอน” ที่เห็นเป็นโครงสร้างกำแพงเดิมเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระนอน หลวงพ่อพระสังกัจจายน์ และหลวงปู่ฤาษีอุตตะโม










จากนั้นขับรถเข้าไปด้านในอีกประมาณ 400 เมตร ถึงบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง จะถึงจุดไฮไลต์เด่นของที่วัดนั่นคือ “หลวงพ่อคง” องค์สีดำขนาดใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 11 เมตร นั่งเด่นเป็นสง่าอยู่บนวิหารหลังใหม่




ซึ่งภายในวิหารหลังใหม่นี้รูปเคารพเหมือนจริงของหลวงพ่อคงให้ได้กราบไหว้ขอพรกัน รวมถึงมีรูปหล่อหลวงปู่หลวงพ่อ รูปเคารพศักดิ์สิทธิ์ อีกหลายองค์ด้วยเช่นกัน อิ่มบุญกันแล้ว สามารถมาเดินเล่นที่สวนริมน้ำแม่กลองให้ได้สุขใจกันก่อนกลับได้อีกด้วย 


“วัดบางกะพ้อม” ตั้งอยู่ที่ ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่Youtube :Travel MGR