อีกหนึ่งวัดสวยงามใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นพุทธสถานสำคัญอีกแห่งที่อยากจะแนะนำให้ทุกท่านได้เข้าไปสัมผัสความสวยงามของสถาปัตยกรรม รวมทั้งอุโบสถสีขาวที่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญที่ตกแต่งด้วยแก้วคริสตัลทั้งองค์ และผนังภายในที่ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา
แม้ในวันนี้วัดแห่งนี้จะเริ่มเป็นที่รู้จักและถูกพูดถึงบางแล้วในกลุ่มที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ แต่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสพื้นที่ภายในอย่างละเอียด
วันนี้ (12 ธ.ค.) manager online จะพาไปทำความรู้จักกับวัดแห่งนี้ที่มีชื่อว่า “วัดพรประภานิมิต” เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินบ้านเขาดินห่างไกลจากชุมชน มีพระครูวินัยธรชัยวัตร อาภาธโร เจ้าอาวาสวัดเทพบุตร ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง เป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง พร้อมได้บอกเล่าความเป็นมาที่น่าสนใจดังนี้
เดิมที “วัดพรประภานิมิต” มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “วัดเขาดินเทวานิมิต” เป็นวัดที่เกิดจากความคิดริเริ่มของอาจารย์โสตถ์ พระลูกวัดเทพบุตร ที่ได้ฝันว่ามีเทวดามาบอกให้ช่วยสร้างวัดบนเขา จึงได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างวัดบนที่ดินบนเขาที่ขณะนั้นยังเป็นเพียงที่พักสงฆ์ และยังไม่มีการรับรองให้เป็นวัด ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์
ต่อมา พระครูวินัยธรชัยวัตร อาภาธโร เจ้าอาวาสวัดเทพบุตร ที่ได้รับมอบหมายจาก พระครูวิจิตรธรรมสาร เจ้าคณะอำเภอบางละมุง ให้รับหน้าที่ดำเนินการจัดตั้งวัดเขาดินเทวานิมิต ให้เป็นวัดที่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์เมื่อปี พ.ศ.2554 และได้มีการประกาศเป็นวัดเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2557 ตามมติมหาเถรสมาคมที่ได้ประกาศชื่อวัดเป็น “วัดพรประภานิมิตร” เพื่อให้สอดคล้องกับนามสกุลของผู้บริจาคที่ดินคือตระกูล “พรประภา” จนเป็นวัดที่ถูกต้องมาจนถึงปัจจุบัน
จากนั้นพระครูวินัยธรชัยวัตร อาภาธโร และคณะสงฆ์วัดเทพบุตร ได้ช่วยกันพัฒนาวัดแห่งนี้ขึ้นตามลำดับ กระทั่งปี พ.ศ.2556 ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถและยกเสาเอก เสาโท หล่อพระประธานประจำอุโบสถ และทำพิธีชักพระประธานเข้าอุโบสถในปี พ.ศ.2560
ส่วนแนวคิดและการออกแบบพระอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งเป็นพระอุโบสถแบบภาคกลางที่มีความยาว 25 เมตร กว้าง 11 เมตร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 6 ไร่ ให้เป็นพระอุโบสถสีขาวเป็นการสร้างและทาสีตามแนวทางครูบาอาจารย์ที่นับถือ คือ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” และอุโบสถภายในที่ตกแต่งด้วยกระจกแก้วประดับคริสตัล ก็เปรียบเสมือนการจำลองสวรรค์ ส่วนการนำไม้มาทำพื้นด้านล่างก็เพื่อจำลองความเป็นโลกมนุษย์เพื่อให้สาธุชนได้สัมผัสทั้งในส่วนของโลก และสวรรค์
ขณะที่พระประธานองค์ใหญ่มีนามว่า “พระธเนศองค์ปฐม ปรางค์จักรพรรดิ์” หรือเรียกอีกชื่อว่า “ปรางค์พระนิพพาน” เป็นพระพุทธรูปที่ใช้เครื่องทรงของกษัตริย์ ซึ่งการสร้างพระพุทธรูปเครื่องทรงกษัตริย์ เป็นไปตามความเชื่อของคนในสมัยก่อนสมัยสุโขทัยที่เชื่อว่า พระราชาจะต้องมีธรรม ซึ่งหากพระราชามีธรรม ศาสนาก็จะอยู่ได้ ด้วยธรรมะอยู่คู่กับพระราชา
นอกจากนั้น ภายในพระอุโบสถยังมีวาดภาพพระพุทธรูปองค์เล็กที่ทรงเครื่องกษัตริย์รอบหน้าต่างอีกจำนวน 28 พระองค์ ส่วนบานหน้าต่างจะมีพระการวาดภาพพระพุทธรูปปรางค์พระพุทธเจ้าครั้งอยู่บนโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นการจำลองของโลกมนุษย์และวิสูตรธิเทพ
ทั้งนี้ แม้การก่อสร้างวัดจะใช้เวลานานกว่า 5 ปี และใช้งบประมาณที่ได้รับการบริจาคของประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาไปแล้วกว่า 25 ล้านบาท แต่การก่อสร้างก็ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ และยังเหลือการก่อสร้างในส่วนอุโบสถเสาร์ กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ และรายละเอียดอีกบางส่วน ก่อนจะทำการฝังลูกนิมิตและดำเนินการก่อสร้างต่อ
ปัจจุบัน วัดแห่งนี้ยังไม่เปิดให้ประชาชนได้เข้าชมความสวยงามอย่างเป็นทางการ แต่หากประชาชนสนใจเข้ากราบไหว้สิ่งศักดิ์และชมความสวยงามก็สามารถเข้าชมได้เนื่องจากมีพระสงฆ์จำวัดอยู่ 5 รูป
