เวลาเราจัดทริปท่องเที่ยวกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ไม่ว่าจะไปที่จังหวัดไหนๆ จะต้องมีวัดวาอารามอยู่ในลิสต์นั้นด้วย นอกจากเข้าวัดไหว้พระ ทำบุญ เสริมสิริมงคลให้กับตนเองแล้ว เรายังได้เดินชมสถาปัตยกรรมอันงดงามภายในวัดแห่งนั้นด้วย ครั้งนี้จึงได้รวบรวมความงดงามของโบสถ์สีสวยเด่นทั่วไทยมาให้ทุกคนตามไปเช็คอินกัน
วัดปากน้ำโจ้โล้ จ.ฉะเชิงเทรา
“วัดปากน้ำโจ้โล้” ที่มีพระอุโบสถสีทองหนึ่งเดียวในประเทศไทยตั้งโดดเด่นอยู่ริมน้ำบางปะกงเป็นที่สะดุดตาและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมความวิจิตรนี้ยิ่งนัก
“วัดปากน้ำโจ้โล้” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนปลายสร้างประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด ในอดีตบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่า ซึ่งยกทัพบกและทัพเรือมาปะทะกับกองทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชผลการสู่รบพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีชัยเหนือพม่า จึงโปรดฯให้สร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์
ไฮไลต์เด่นของที่วัดนี้ก็คือ “พระอุโบสถสีทอง” เป็นอุโบสถสีทองหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ทาสีทองทั้งหลัง ซึ่งสีทองเป็นเสมือนการจำลองภาพบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อมีผู้พบเห็นเกิดความปีติสุข และเลื่อมใสศรัทธาต่อพุทธศาสนา โดยรอบพระอุโบสถตกแต่งด้วยพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก สำหรับตัวอุโบสถสร้างแบบก่ออิฐถือปูน หลังคาประดับด้วยพญานาคและธรรมจักรตรงกลางมีบุษบกยอดฉัตร ส่วนบริเวณกำแพงแก้วชั้นนอกตกแต่งด้วยลวดลายธรรมจักรสลับกับโคมไฟรูปช้างสามเศียรเป็นระยะๆ
ส่วนด้านในยังคงใช้สีทองทั้งหมด ผนังโบสถ์ไม่ได้วาดเป็นจิตรกรรมฝาผนังแต่ใช้การประดับกรอบประตู หน้าต่างด้วยลวดลายปูนปั้นแทน อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่วัดก็คือการลอดใต้ฐานพระประธานเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยบริเวณทางเข้าจะหลบมุมต้องเดินเข้าไปใกล้จึงจะรู้ว่ามีทางเดินลอดระยะสั้นๆ อยู่ ด้านในมีพัดลมช่วยระบายอากาศ เวลาเดินให้เดินเข้าทางซ้ายและเดินทะลุออกมายังฝั่งขวาของพระประธาน ขณะลอดก็จะมีบทสวดมนต์ภาวนาอธิษฐานจิตเพื่อให้จิตสงบเป็นสมาธิ ส่วนด้านขวาของพระอุโบสถมีพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรองค์ใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่
วัดศรีสุพรรณ จ.เชียงใหม่
“วัดศรีสุพรรณ” ตั้งอยู่ที่ ถ.วัวลาย ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นงานช่างสิบหมู่ สืบสานงานศิลป์จากภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน สร้างฐานเศรษฐกิจชุมชนหัตถกรรมสล่าล้านนาอาทิ สล่าเงิน สล่าแกะ และสล่าหล่อ ฯลฯ นำภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล
โดยมีไฮไลท์ที่สำคัญอย่าง “อุโบสถเงิน” หลังนี้ใช้วิธีการก่อสร้างจากฐานและพัทธสีมาและพระพุทธประธานในอุโบสถหลังเดิม ลักษณะเป็นอุโบสถรูปทรงสถาปัตยกรรมล้านนา ก่อด้วยอิฐถือปูน ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 17.50 เมตร สูง 18 เมตร ประดับตกแต่งสลักลวดลายแนวประเพณีล้านนา ภายในศิลปกรรมแสดงถึงการเคารพสักการะพระรัตนตรัย คือ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ ส่วนภายนอกศิลปกรรมแสดงสัญลักษณ์ของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ซึ่งลวดลายทุกส่วนล้วนสลักตกแต่งด้วยภูมิปัญญาเครื่องเงิน โดยใช้กรรมวิธี บุ คุนลวดลายด้วยแผ่นเงิน เงินผสม และวัสดุแทนเงิน(อลูมิเนียม) ทั้งภายในภายนอกรวมทั้งหลัง โดยถือว่าอุโบสถเงินหลังนี้จะเป็นแหล่งรวบรวมลวดลายศิลปะล้านนาและลวดลายประจำท้องถิ่น มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมและกราบไหว้อยู่สม่ำเสมอ
วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย
“วัดร่องขุ่น” ตั้งอยู่ที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง เป็นวัดชื่อดังแห่งเมืองเชียงราย มีความสวยงามอลังการด้วยสถาปัตยกรรมพุทธศิลป์รูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์จิตรกรรม ปี 2554
ภายในวัดร่องขุ่นมีโบสถ์อันงดงามอลังการโดดเด่นด้วยงานพุทธศิลป์ ที่เป็นสถาปัตยกรรมปูนปั้นสีขาวอันอ่อนช้อยละเมียดละไม และถูกตกแต่งด้วยกระจกแวววับ ซึ่งการสร้างโบสถ์เช่นนี้เกิดมาจากแนวความคิดของ อ.เฉลิมชัย ที่สร้างขึ้นด้วยคติจักรวาล มีสระน้ำรอบล้อมโบสถ์ เปรียบดังมหานทีสีทันดร มีสะพานทอดข้ามผ่านเปรียบดังการเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ และตัวพระอุโบสถที่เป็นจุดเด่นสำคัญเป็นดังดินแดนแห่งการหลุดพ้น
วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย
“วัดร่องเสือเต้น” เป็นวัดที่มีเอกลักษณ์ความงดงาม ความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งสีสันที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร ก็จะทำให้นึกถึง “วัดร่องเสือเต้น” ที่ตั้งอยู่หมู่บ้านร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก ฝั่งด้านซ้ายทางทิศตะวันออกของเทศบาลนครเมืองเชียงราย
ความโดดเด่นของวัด อยู่ที่ “วิหารวัดร่องเสือเต้น” ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ เพราะใช้โทนสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทองเพิ่มความโดดเด่น โดยสีน้ำเงินฟ้าของตัววิหารนั้นแสดงถึงธรรมะของค์สมเด็จพระพุทธเจ้า เป็นศิลปแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่แฝงด้วยธรรมของพุทธองค์
ภายในวิหารมีพระประธานที่ชื่อว่า “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" พระประธานสิงห์หนึ่งสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี
“วัดปากน้ำแขมหนู” อีกหนึ่งวัดสวยของเมืองไทย ที่นี่มีความโดดเด่นอยู่ที่ “โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน” ที่สวยงามโดดเด่นและแปลกตากว่าที่อื่นๆ เหตุที่โบสถ์เป็นสีสวยแบบนี้ เนื่องมาจากโบสถ์หลังเก่าชำรุดและต้องการก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ให้อยู่คงทน ป้องกันการชำรุดเสื่อมโทรเร็วเนื่องจากพื้นที่อยู่ติดน้ำเค็ม
หลังจากศึกษารูปแบบการก่อสร้างโบสถ์จากวัดอื่นๆ จึงมีแนวคิดที่จะใช้เซรามิกมาเคลือบชั้นปูนเพื่อป้องกันน้ำเค็ม โดยมีการผสมสีลงไปในชิ้นงาน ตลอดจนขึ้นเป็นลวดลายต่างๆ นำมาประดับตกแต่งโบสถ์ทั้งหลัง จนกลายเป็นโบสถ์สีน้ำเงินที่มีลวดลายงดงามอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้
วัดเพลง (โบสถ์สีชมพู) จ.นนทบุรี
วัดเพลง (โบสถ์สีชมพู) ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ถูกทิ้งร้างประมาณ 200 ปีมาแล้ว ต่อมาหลวงพ่อศรีนวลได้เดินธุดงค์มาจาก จ.เชียง ใหม่ เมื่อปี 2529 เมื่อได้พบจึงได้ปักหลักพักค้างมาตั้งแต่ปี 2529 เป็นต้นมา ก่อนที่จะบูรณะซ่อมแซมและสร้างอุโบสถขึ้นใหม่ หลังจากหลวงพ่อศรีนวลได้มรณภาพ ทางวัดก็ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการพัฒนา จึงทำให้ถาวรวัตถุที่สร้างขึ้นผุพังสึกกร่อนเสียหายลงไปตามกาลเวลา
จนกระทั่งเมื่อกลางปี 2553 “พระธรรมกิตติมุนี” เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี และเจ้าอาวาสวัดเฉลิมพระเกียรติ ได้แต่งตั้งให้ “พระครูสังฆรักษ์ประสิทธิ์ สิทธิโก หรือ พระอาจารย์ประสิทธิ์” มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเพลง (โบสถ์สีชมพู) เดิมท่านเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ดอนพรหม ด้วยท่านเป็นพระนักพัฒนา ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทางพุทธศาสนาทำให้เป็นที่ประจักษ์ยอมรับของชาวบ้านทั้งบ้านใกล้บ้านไกล จึงได้รับการไว้วางใจให้มาพัฒนาวัดเพลง (โบสถ์สีชมพู)
สำหรับวัดเพลง(โบสถ์สีชมพู) เป็นวัดที่มีความสำคัญเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าหลวง ที่ประชาชนทั่วไปใช้แทนพระ นามของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเหตุผลดังกล่าววัดเพลง (โบสถ์สีชมพู) นี้จึงเป็นที่รู้จักของชาว จ.นนทบุรี และบริเวณใกล้เคียงอย่างแพร่หลาย ภายในบริเวณวัดนอกจากจะมีพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 แล้วยังมีพระอุโบสถที่มีความงดงามมาก ทาด้วยสีชมพู ซึ่งเป็นสีที่มีความหมายด้วยเป็นสีประจำพระองค์ ด้านนอกมีพระสังกัจจายน์ พระแห่งโชคลาภ ประดิษฐานอยู่ใต้ต้นไทร ให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้บูชาขอพร
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR