xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวสุขใจ "สุพรรณบุรี" เสริมชะตา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุทยานมังกรสวรรค์เด่นสะดุดตา
“สุพรรณบุรี” จังหวัดท่องเที่ยวเดินทางง่ายใกล้กรุง ไปเช้า-เย็นกลับก็ได้ หรือไปค้างคืนก็ดี ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายและหลายหลาย โดยเฉพาะวัดวาอารามที่มีความงดงาม วันนี้เราจึงแนะนำเส้นทางไหว้พระวัดคู่บ้านคู่เมือง และกราบสักการะสรีระสังขารพระเกจิชื่อดังแห่งเมืองสุพรรณบุรีเพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิต

วัดดอนไร่ ต.หนองสะเดา อำเภอสามชุก
ถ้าจะกล่าวถึงพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของเมืองสุพรรณ “หลวงพ่อมุ่ย” แห่ง “วัดดอนไร่” ต.หนองสะเดา อำเภอสามชุก จ.สุพรรณบุรี ท่านเป็นพระคณาจารย์ถึง 5 รัชกาล ที่เกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรีอีกรูปหนึ่ง หลวงพ่อมุ่ยท่านเป็นพระสมถะ ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ศึกษาหาความรู้ทุกด้านโดยเฉพาะในเรื่องตัวเลขอักขระยันต์ คาถาอาคมของท่านเข้มขลังยิ่งนัก ถือเป็นพระนักปฏิบัติธรรมปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่ชาวบ้านต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก

กราบสักการะพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของเมืองสุพรรณ
ด้วยความที่เป็นพระเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ขยันในการศึกษาหาความรู้ทุกด้านโดยเฉพาะในเรื่องตัวเลขอักขระยันต์ คาถาอาคมของท่านเข้มขลังยิ่งนัก ทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อมุ่ยทุกรุ่น ได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมาก

บรรจุสรีระสังขารหลวงพ่อมุ่ย
ภายในวัดมีมณฑปหลวงพ่อมุ่ย สถานที่บรรจุสรีระสังขาร ซึ่งมรณภาพไปแล้วแต่ร่างกายยังไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันจึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้ขอพรจำนวนมาก โดยทางวัดจะเปิดให้เข้าสักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสุดอลังการของสุพรรณบุรีต้องยกให้ “อุทยานมังกรสวรรค์” อ.เมือง ที่เด่นสะดุดตาด้วยมังกรขนาดยักษ์ที่กำลังเลื้อยไหลอยู่บนก้อนเมฆ พร้อมพ่นน้ำเป็นสายออกมาจากปาก ซึ่งภายในตัวมังกรนี้เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร” ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอารยธรรมจีนที่ยาวนานถึง 5,000 ปี รวมถึงประวัติความเป็นมาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทยโดยใช้สื่อจัดแสดงที่ทันสมัย

ในบริเวณอุทยานมังกรสวรรค์ยังเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารรูปเก๋งจีน องค์เจ้าพ่อหลักเมืองเป็นพุทธประติมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ศิลปะเขมร มีพระนามว่าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือที่เรียกกันว่าพระนารายณ์สี่กร เป็นที่เคารพของทั้งชาวไทยและชาวจีนในเมืองสุพรรณและพื้นที่ใกล้เคียง

หมู่บ้านมังกรสวรรค์
นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านมังกรสวรรค์ โดยจำลองมากจากหมู่บ้านลี่เจียง 1,000 ปี หากใครมาเที่ยวหมู่บ้านมังกรสวรรค์แห่งนี้จะได้บรรยากาศของหมู่บ้านจีนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า โรงเตี้ยม โรงหนัง และสัญลักษณ์ที่สำคัญคือ กังหันพ่อลูก เป็นกังหันไม้โบราณพันปีที่อยู่ตรงทางเข้าหน้าหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีหอชมวิวซึ่งสามารถชมวิวของเมืองสุพรรณได้ในมุมสูง

เจดีย์ทรงปรางค์ เป็นประธานของวัด
เมื่อเยือนที่สุพรรณบุรีแล้วจะต้องไม่พลาดที่ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” ตั้งอยู่บนถนนสมภารคง ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง เดิมเป็นวัดสำคัญศูนย์กลางของเมืองโบราณสุพรรณบุรีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ก่องถูกทิ้งร้างไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง เอคราวสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ. 2310 จากนั้นมีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่อีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์

วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง จุดเด่นของวัดอยู่ตรงองค์พระปรางค์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรี ที่โด่งดังมากในวงการพระเครื่อง และเป็นหนึ่งใน "เบญจภาคี" 5 พระเครื่องยอดนิยม อันได้แก่ พระสมเด็จนางพญาของสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร, พระผงสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี, พระสมเด็จนางพญา จังหวัดพิษณุโลก, พระทุ่งเศรษฐี จังหวัดกำแพงเพชรและพระรอด จังหวัดลำพูน

พระผงสุพรรณขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร
ประวัติการสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุสุพรรณบุรี ปรากฏในจารึกบนแผ่นลานทอง ที่พบจากกรุพระปรางค์และยอดนภศูล เมื่อปีพ.ศ 2456 ข้อความในจารึกระบุถึงการสร้างพระสถูป (องค์พระปรางค์) ของพระมหากษัตริย์และการปฏิสังขรณ์ โดยพระราชโอรสในสมัยต่อมา ซึ่งนักวิชาการมีความเห็นว่า พระมหากษัตริย์ผู้ทรงสร้าง อาจหมายถึงสมเด็จพระศรีนครินทราธิราช หรืออาจหมายถึง สมเด็จพระบรมราชาธิราช ที่ 2 (เจ้าสามพระยา) จึงนำไปสู่ข้อสันนิษฐานว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุสุพรรณบุรี สถาปนาขึ้นช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ระหว่างรัชกาลใดรัชกาลหนึ่งดังกล่าว

สถาปัตยกรรมภายในวัดประกอบไปด้วย เจดีย์ทรงปรางค์ เป็นประธานของวัด ด้านข้างมีปีกปรางค์ หรือปรางค์ขนาดเล็ก ขนาบปรางค์ประธานทั้ง 2 ข้าง ทำระเบียงคดล้อมอยู่โดยรอบ บ้านนอกระเบียงโคตรมีวิหารหลวงอยู่ด้านหน้าทางทิศตะวันออก พระอุโบสถอยู่ด้านหลังทางทิศตะวันตก โดยสร้างอยู่ในแนวแกนเดียวกับปรางค์ประธาน ตามความนิยมในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น นอกระเบียงคดยังมีวิหารราย และเจดีย์รายอีกหลายองค์อยู่โดยรอบ

โลงบรรจุสังขาร พระครูศรีรัตนาภิรักษ์
เมื่อเข้ามาในวิหารจะได้พบกับพระผงสุพรรณขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่บนวิหาร อยู่ทางด้านหน้าทางเข้าพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สาเหตุที่เรียกว่า "ผงสุพรรณ" ก็เนื่องจากการค้นพบจารึกลานทอง กล่าวถึงการสร้างจากผงว่านเกสรดอกไม้อันศักดิ์สิทธิ์ จึงได้รับการเรียกขานกันว่า "ผงสุพรรณ" นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมี โลงบรรจุสังขาร พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ (หลวงพ่อโพธิ์) อยู่ในวิหารพระผงสุพรรณ ซึ่งชาวบ้านท้องถิ่นมีความเชื่อถึงกิตติศัพท์อันโด่งดังและเลื่องชื่อของ หลวงพ่อโพธิ์ ได้แก่ หลวงพ่อ มีความเข้มขลังในด้านวาจาศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนทั่วไปจึงได้เข้าไปกราบสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลเช่นกัน

ต้นมะขามยักษ์อายุกว่า 1,000 ปี
ปิดท้ายที่ “วัดแค” ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อปรากฏในวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” ตั้งอยู่ใน อ.เมือง ภายในวัดนี้มีต้นมะขามใหญ่วัดโคนต้นโดยรอบได้ประมาณ 9.50 เมตร อายุประมาณ 1,000 ปี เชื่อกันว่าขุนแผนได้เรียนวิชาเสกใบมะขามให้เป็นตัวต่อตัวแตนจากต้นมะขามต้นนี้กับท่านอาจารย์คงเพื่อใช้เวลาโจมตีข้าศึก ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้ทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า “คุ้มขุนแผน” เพื่อเป็นอุทยานวรรณคดีและเป็นการอนุรักษ์ศิลปะด้านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ และวัดแคยังเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2447 อีกด้วย

คุ้มขุนแผนเรือนไทยทรงโบราณ

รูปปั้นหลวงปู่คงนั่งพญาต่อ
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีรูปปั้น “หลวงปู่คงนั่งพญาต่อ” ที่มีการนำรังต่อยักษ์มาแสดงไว้ข้างเคียงกันด้วย รวมไปถึงโบราณวัตถุที่น่าสนใจอย่าง “พระพุทธบาทสี่รอย” ทำจากทองเหลือง ที่รอยพระบาทสร้างซ้อนกันไว้ถึงสี่รอยด้วยกัน เป็นต้น

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR


กำลังโหลดความคิดเห็น