หลังรัฐบาลคลายล็อกเปิดให้คนเดินทางท่องเที่ยว บรรยากาศการท่องเที่ยวในบ้านเราก็คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น
สำหรับบรรดานักเที่ยวสายบุญ สายธรรมะ วันนี้มีหลายวัดดัง ๆ ในเมืองไทย ได้เปิดมุมมองใหม่ให้ผู้สนใจผ่านการเที่ยวชมแสงสีประดับไฟยามราตรี ที่นอกจากจะมีความสวยงามแปลกตา ไม่ต้องเจอแดดร้อนในตอนกลางวันแล้ว ยังเป็นการช่วยกระจายตัวนักท่องเที่ยวไม่ให้ไปแออัดกันในตอนกลางวัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของโควิด-19 ได้อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” หรือ PEA ได้คัดสรรวัดดัง ๆ ส่วนหนึ่งของบ้านเรา ที่มีการประดับไฟยามค่ำคืนอย่างสวยงาม ภายใต้โครงการ “PEA LED” ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย โดย 5 วัดดังประดับไฟจากการคัดสรรของ PEA มีดังนี้
วัดพระปฐมเจดีย์
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม วัดที่มี “องค์พระปฐมเจดีย์” สิ่งศักดิ์สิทธิ์เลื่องชื่อของเมืองไทย
องค์พระปฐมเจดีย์ถือเป็นพระมหาเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเดิมมีชื่อเรียกว่า “พระธมเจดีย์” ประวัติความเป็นมาขององค์พระปฐมเจดีย์มีมาอย่างยาวนานย้อนกลับไปถึงยุคสุวรรณภูมิ คาดว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราช เดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิ
องค์พระปฐมเจดีย์เดิมโครงสร้างเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นใหญ่ ก่อด้วยอิฐ ก่อนจะได้รับการปฏิสังขรณ์ในครั้งแรกโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ขณะที่ทรงยังผนวชได้ธุดงค์และพบองค์พระปฐมเจดีย์ที่อยู่ในสภาพเก่าแก่ชำรุดทรุดโทรม
ปัจจุบันองค์พระปฐมเจดีย์เป็นเจดีย์ทรงระฆัง หรือทรงโอคว่ำสีทองอร่าม มีความสูงถึง 120.45 เมตร ถือเป็นเจดีย์ที่สูง-ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย อีกทั้งองค์พระปฐมเจดีย์ หรือที่หลาย ๆ คนนิยมเรียกว่า “องค์พระ” ยังเป็นแลนด์มาร์คและไฮไลท์ต้องห้ามพลาดสำหรับผู้มาเยือนนครปฐม ในยามค่ำคืน วัดพระปฐมเจดีย์จะมีการประดับไฟองค์พระปฐมเจดีย์อย่างสวยงามดูขรึมขลังเหลืองทองอร่าม
นอกจากองค์พระปฐมเจดีย์แล้ว วัดพระปฐมเจดีย์ยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระร่วงโรจนฤทธิ์” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองนครปฐม ซึ่งที่ผ่านมาพุทธคุณของพระร่วงโรจนฤทธิ์ ได้แผ่ขยายขจรไทยถึงต่างประเทศ จึงมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบสักการะท่านกันเป็นจำนวนมากไม่ขาดสาย
นอกจากองค์พระปฐมเจดีย์แล้ว วัดพระปฐมเจดีย์ยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระร่วงโรจนฤทธิ์” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองนครปฐม ซึ่งที่ผ่านมาพุทธคุณของพระร่วงโรจนฤทธิ์ ได้แผ่ขยายขจรไทยถึงต่างประเทศ จึงมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบสักการะท่านกันเป็นจำนวนมากไม่ขาดสาย
วัดมหาธาตุแหลมสัก
วัดมหาธาตุแหลมสัก ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ วัดสำคัญคู่ชุมชนแหลมสักมาอย่างยาวนานมีไฮไลท์คือ “พระมหาธาตุเจดีย์” ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายใน ศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ ตั้งตระหง่านเด่นริมทะเลอันดามัน ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญองวัดแห่งนี้
พระมหาธาตุเจดีย์ วัดมหาธาตุแหลมสัก จัดสร้างโดยดำริของ “หลวงปู่เนตร จิรปุญโญ” พระอริยะเจ้าแห่งอันดามัน อันเป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวชุมชนและชาวกระบี่ ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่สื่อถึงความมั่นคง
ในยามค่ำคืนหลังมีการตกแต่งประดับไฟให้กับองค์พระมหาธาตุเจดีย์ สีขาวพื้นของพระธาตุสะท้อนประกายจากหลอด LED แผ่ให้พื้นที่รอบศาลาราย สว่างไสวงดงามยามราตรีที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธา น่าสักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง
วัดหนองแวง
วัดหนองแวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น อีกหนึ่งวัดดังคู่บ้านคู่เมืองหมอแคน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับบึงแก่นนคร วัดนี้โดดเด่นไปด้วย “พระมหาธาตุแก่นนคร” หนึ่งในพระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่เมืองขอนแก่น (อีกองค์หนึ่งคือพระธาตุขามแก่น)
พระมหาธาตุแก่นนคร เป็นพระธาตุเก้าชั้นฐานสี่เหลี่ยม สลับจัดเรียงอย่างงดงามไปจนถึงเรือนยอด จัดสร้างในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในอาคารองค์พระธาตุ และสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของตัวเมืองขอนแก่น ที่มีบึงแก่นนครเป็นไฮไลท์ได้ที่ชั้นสูง ๆ ขององค์พระธาตุ
สำหรับพระธาตุองค์นี้เชื่อกันว่า เมื่อได้มากราบขอพรที่วัดแห่งนี้แล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน หรือยศถาบรรดาศักดิ์ จากการได้รับการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
นอกจากนี้ ในยามราตรีที่นี่จะดูงดงามด้วย LED ที่ประดับประดาองค์พระธาตุดูวิววับระยิบระยับ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนค์มาร์คสำคัญของเมืองขอนแก่น ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปพระมหาธาตุแก่นนครยามราตรีกันเป็นจำนวนมาก
วัดพระธาตุพนม
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญยิ่งแห่งถิ่นอีสาน เป็นพระธาตุประจำวันเกิดวันอาทิตย์ตามคติความเชื่อทางภาคอีสานที่เชื่อว่า ณ ที่แห่งใดซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุหลัก บริเวณใกล้เคียงก็จะมีพระธาตุบริวารเกิดขึ้นรายล้อมพระบรมธาตุองค์หลัก ซึ่งพระธาตุพนมถือเป็นพระบรมธาตุองค์หลักนั่นเอง
นอกจากนี้พระธาตุพนมยังเป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีวอกตามคติความเชื่อของล้านนาโบราณ ซึ่งคนไทยจากทั่วทุกสารทิศต่างเลื่อมใสศรัทธา รวมถึงชาวลาวและอีกหลายประเทศ
เชื่อกันว่าการได้มานมัสการองค์พระธาตุพนม จะได้รับอานิสงส์ให้มีบุญบารมี มีคนให้ความเคารพนับถือ โดยตามตำนานโหราศาสตร์ ได้กล่าวได้ว่า พระอาทิตย์นั้นเป็นเทพที่ไว้ยศไว้ศักดิ์และเป็นที่เคารพนับถือ ส่วนผู้ที่เกิดปีวอกหากได้มาสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิตแล้วก็จะช่วยเสริมบุญบารมี และด้วยความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่ไม่เคยเสื่อมคลายมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
พระธาตุพนมเป็นเจดีย์เหลี่ยมสูง ศิลปะขอมอันเป็นเอกลักษณ์ ภายในองค์พระธาตุพนมบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนภายนอกตกแต่งลวดลายประดับงานพุทธศิลป์อันงดงามเป็นเอกลักษณ์
ในยามค่ำคืนองค์พระธาตุพนมจะประดับไฟ LED ส่องแสงวิบวับไปทั่วเขตวัด ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ไปเยือนนครพนม
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หนึ่งในสัญลักษณ์อันโดดเด่นแห่งเขาค้อ สถานที่อันเป็นมงคลและมีความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความเชื่อที่ว่า ลูกแก้วที่ลอยลงมาจากฟ้าก่อนหายลับไปบริเวณถ้ำ เป็น “พระบรมสารีริกธาตุ” เสด็จมายังสถานที่แห่งนี้
ภายในวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว มีไฮไลท์สำคัญอยู่ 2 ส่วน ได้แก่
-“เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต” ที่สร้างด้วยรูปทรงดอกบัวซ้อน 7 ชั้น ภายในเจดีย์แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ โดยมีการนำเครื่องถ้วยเบญจรงค์ อัญมณี แก้วแหวนเงินทอง มาประดับตกแต่งอยู่ทั่วไปทั้งภายนอกและภายในอาคาร
-“มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์” เป็นสถาปัตยกรรมพระพุทธรูปซ้อนองค์ไล่เรียงจากเล็กไปใหญ่สีขาวเด่น ดูงดงามเปี่ยมศรัทธา ภายในมหาวิหารใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ และเป็นที่พักของผู้เข้าปฏิบัติธรรม
ในยามค่ำคืนมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ จะดูสวยงามเปี่ยมศรัทธา และดูแปลกตาแตกต่างไปจากตอนกลางวัน ถือเป็นอีกหนึ่งมุมอันซีนที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
และนี้ก็คือมนต์เสน่ห์ของ 5 วัดดังที่มีการเปิดมุมมองใหม่ผ่านการประดับไฟยามค่ำคืน ภายใต้โครงการ “PEA LED” ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยวสายบุญ สายถ่ายรูป หรือสายอื่น ๆ ให้ลองมาเที่ยวเปิดมุมมองใหม่ของวัดดังยามราตรีที่มีความสวยงามและน่าเที่ยวไม่น้อย