ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 เป็นต้นไป อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้กลับไปเยือนอีกครั้ง หลังจากที่ต้องปิดมานานกว่า 3 เดือน เพราะสถานการณ์ของโรคโควิด-19
แม้การท่องเที่ยวในอุทยานฯ ต่างๆ จะเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่บางแห่งก็ยังมีข้อจำกัด เช่น เปิดให้เที่ยวแต่ไม่ให้พักกางเต็นท์ หรือให้เที่ยวแต่ไม่ให้ลงเล่นน้ำ และมีกฎที่ต้องปฎิบัติตามคือต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ก็ทำให้คนรักธรรมชาติได้มีพื้นที่ไปพักผ่อนหย่อนใจให้หายคิดถึงบรรยากาศของผืนป่า ผืนน้ำ สายน้ำตกกันบ้าง
ในโอกาสนี้เราจึงขอนำเอา "10 อันดับอุทยานแห่งชาติยอดฮิต" มาให้ดูกันว่าจะตรงกับที่หลายๆ คนตั้งใจจะไปเที่ยวกันหรือไม่ โดยเป็นข้อมูลจากส่วนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ ระบุสถิตินักท่องเที่ยวที่เข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561-กันยายน 2562) จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 20,819,396 คน (นักท่องเที่ยวชาวไทย 14.9 ล้านคน และชาวต่างชาติ 5.8 ล้านคน) โดยทั้ง 10 อันดับ ได้แก่
อันดับ 1. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 1,619,908 คน
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เป็นอุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่งผสมหมู่เกาะในทะเล มีแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่ทุกคนรู้จักกันดีก็คือ "เกาะเสม็ด" และเกาะเล็กเกาะน้อยในทะเลระยอง ได้แก่ เกาะจันทร์ เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะมะขาม และเกาะปลายตีน อีกทั้งยังรวมไปถึงพื้นที่บนแผ่นดินบริเวณเขาแหลมหญ้าและชายทะเลด้านทิศตะวันตกของเขาแหลมหญ้า
สำหรับในวันที่ 1 ก.ค. นี้ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าฯ จะเปิดให้บริการบางส่วน โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวจำกัดวันละ 4,000 คน แบ่งเป็นเกาะเสม็ด 2,700 คน หาดแม่รำพึง 1,000 คน และเขาแหลมหญ้า 300 คน โดยบริเวณเขาแหลมหญ้ายังไม่เปิดให้บริการกางเต็นท์ แต่โดยรอบได้มีการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม อีกทั้งเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเลียบทะเลนั้นก็ได้ปรับปรุงใหม่ให้เป็นแบบอารยสถาปัตย์ ผู้พิการใช้รถเข็นก็สามารถท่องเที่ยวและใช้งานในจุดเหล่านี้ได้
อันดับ 2 อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) จำนวนนักท่องเที่ยว 1,573,476 คน
จากเดิมที่เป็นวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แต่หลังจากเหตุการณ์ "13 หมูป่าติดถ้ำ" ก็ทำให้ชื่อของถ้ำหลวงขุนน้ำ-นางนอนโด่งดังกลายเป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และมีนักท่องเที่ยวมากมายที่อยากจะไปเยือนถ้ำหลวงสักครั้ง จนทำให้ยอดคนมาเยือนในปี 62 พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 2
อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ จะเปิดให้บริการบางส่วนในวันที่ 1 ก.ค. โดยช่วงที่ปิดเพราะโควิด-19 นั้น ทางอุทยานฯ ได้ปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ อาทิ การก่อสร้างถนนทางเชื่อมระหว่างถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอนหรือสระมรกต เพิ่มระบบรถราง และสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน ทั้งนี้ที่ถ้ำหลวงยังสามารถเที่ยวชมได้เฉพาะภายนอก แต่สามารถชม “อนุสาวรีย์จ่าแซม” และชมภาพวาด "The Heroes" ภายในศาลาอนุสรณ์สถาน และไปชม “ขุนน้ำนางนอน” หรือสระขุนน้ำมรกตที่อยู่ห่างจากถ้ำหลวงไปประมาณ 2 ก.ม. ได้เช่นเดิม โดยรับนักท่องเที่ยว 600 คน/วัน
อันดับ 3 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวนนักท่องเที่ยว 1,551,449 คน
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ยังไงก็ติดโผยอดนิยม เนื่องจากเดินทางง่าย สะดวก มีจุดท่องเที่ยวหลายจุด มีพื้นที่ครอบคลุมหลายจังหวัดคือ นครราชสีมา สระบุรี นครนายก และ ปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ผืนป่าขนาดใหญ่ มีความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติของไทย
ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เปิดให้ท่องเที่ยวได้ทุกจุด โดยรับนักท่องเที่ยวจำนวนจำกัด 5,000 คนต่อวัน สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวบนเขาใหญ่นั้นก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกางเต็นท์แคมปิ้งกันที่จุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ หรือจุดกางเต็นท์ลำตะคอง เที่ยวชมทิวทัศน์ผาเดียวดาย ผาตรอมใจ ไปรับความชุ่มฉ่ำของน้ำตกเหวนรก เหวสุวัต เดินเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทำกิจกรรมส่องสัตว์เขาแผงม้า เป็นต้น
อันดับ 4 อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จำนวนนักท่องเที่ยว 1,179,671 คน
จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี นี้แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือผู้ที่มาสักการะรอยพระพุทธบาทพลวงบนเขาคิชฌกูฏ ที่จะเปิดให้ขึ้นไปนมัสการได้เพียงปีละครั้ง ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ของทุกปี แต่นอกจากรอยพระพุทธบาทและหินลูกบาตรยักษ์ที่เป็นไฮไลต์แล้ว ภายในอุทยานฯ ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง อาทิ น้ำตกกระทิง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 500 เมตร ต้นน้ำเกิดจากเทือกเขาคิชฌกูฎ มีความสูงถึง 13 ชั้น ชั้นที่สวยงามที่สุดคือชั้นที่ 8 และชั้นที่ 9 ส่วนชั้นที่ 10 ไม่มีแอ่งน้ำแต่เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่มองเห็นอ่างเก็บน้ำทุ่งเพลและผืนป่าดิบชื้นที่ปกคลุมพื้นที่อย่างหนาแน่น
อีกทั้งยังมีน้ำตกคลองไพบูลย์ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นธารน้ำตกขนาดใหญ่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำและพักผ่อน บรรยากาศสงบร่มรื่น โดยอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏจะเปิดทุกแหล่งท่องเที่ยว รับนักท่องเที่ยว 1,279 คน/วัน
อันดับ 5 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จำนวนนักท่องเที่ยว 1,142,113 คน
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดฮิตของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ โดยมีจุดท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก อาทิ เกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ ทะเลแหวก เป็นต้น ปัจจุบันตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของอุทยานฯ ก็ได้รับปรุงให้การใช้งานต่างๆ เป็นแบบอารยะสถาปัตย์ คือทุกๆ คนทุกๆ สภาพร่างกายรวมถึงผู้พิการใช้รถเข็นก็สามารถท่องเที่ยวและใช้งานในจุดเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางเดินริมหาด ที่จอดรถคนพิการ ทางลาด เป็นต้น
ทางอุทยานฯ จะเปิดให้ท่องเที่ยวได้เพียงบางส่วน โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว 2,150 คน/วัน
อันดับ 6 อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จำนวนนักท่องเที่ยว 999,035 คน
อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยในเขต จ.พังงา ครอบคลุมพื้นที่ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์คงสภาพธรรมชาติดั้งเดิมอยู่เป็นจำนวนมาก มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามหลายจุดด้วยกัน อาทิ "เขาพิงกัน" เป็นเกาะเล็ก ๆ ซึ่งเกิดจากการทรุดตัวของก้อนหิน ดูเหมือนเป็นภูเขา 2 ลูกถูกผ่าออกจากกันและพิงกันอยู่ "เขาตะปู" เกาะขนาดเล็กตั้งอยู่โดดๆ และถูกกัดกร่อนโดยน้ำทะเลทำให้ส่วนล่างถูกกัดเซาะจนเล็กเรียวลง
อุทยานฯ เปิดให้ท่องเที่ยวได้ทุกจุด รับนักท่องเที่ยว 1,600 คน/วัน
อันดับ 7 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จำนวนนักท่องเที่ยว 874,372 คน
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ โดยยอดดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาสูงสุดของประเทศ และเป็นดินแดนที่มีสภาพป่าดิบเขาที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ มีลักษณะของพันธุ์ไม้เขตอบอุ่น ผสมกับพันธุ์ไม้เขตร้อน
ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อาทิ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร กิ่วแม่ปาน อ่างกา ยอดดอยอินทนนท์ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์จะยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในวันที่ 1 ก.ค. นี้ เนื่องจากยังคงอยู่ในช่วงเตรียมการท่องเที่ยววิถีใหม่
อันดับ 8 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จำนวนนักท่องเที่ยว 676,793 คน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เป็นอีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติทางทะเลในท้องทะเลอันดามันที่มีน้ำทะเลสวยใสและปะการังใต้ทะเลที่ยังอุดมสมบูรณ์ โดยคำว่า "สิมิลัน" เป็นภาษายาวี แปลว่า "เก้า" จึงมีชื่อเรียกกันว่า หมู่เกาะสิมิลัน หรือเกาะเก้า ประกอบไปด้วยเกาะใหญ่น้อย 9 เกาะด้วยกันเรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง
ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวในวันที่ 1 ก.ค. เนื่องจากตรงกับฤดูมรสุม ซึ่งเป็นช่วงปิดเกาะตามปกติ (ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี)
อันดับ 9 อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีจำนวนนักท่องเที่ยว 671,395 คน
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามมีน้ำตลอดปี แหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนไทยมาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่รัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จประพาสหลายครั้ง พร้อมทั้งยังได้ทรงสร้าง "อลงกรณ์เจดีย์" เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วอีกด้วย แต่นอกจากน้ำตกพลิ้วแล้ว ในเขตอุทยานฯ ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ น้ำตกคลองนารายณ์ น้ำตกตรอกนอง เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกพลิ้ว ฯลฯ เป็นจุดท่องเที่ยวอีกด้วย
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วเปิดให้ท่องเที่ยวได้ทุกจุด โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว 1,435 คน/วัน แต่งดกิจกรรมทางน้ำทุกประเภท (งดเล่นน้ำ) สามารถชมวิวทิวทัศน์ถ่ายรูปกันได้ตามสะดวก
อันดับ 10 อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ จำนวนนักท่องเที่ยว 650,852 คน
อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมคือ "น้ำตกเอราวัณ" น้ำตกหินปูนสีเขียวมรกตที่มีความสวยงามโดยมี 7 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนสุดชั้นที่ 7 มีชื่อว่าภูผาเอราวัณ เมื่อน้ำตกไหลบ่าลงมายังก้อนหินจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียรหรือช้างเอราวัณจึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกและชื่ออุทยานแห่งชาติเอราวัณนั่นเอง
อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณเปิดให้ท่องเที่ยวได้ทุกจุด แต่ยังไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ เนื่องจากเชื้อไวรัส covid-19 สามารถติดต่อได้ทางน้ำ การลงเล่นน้ำอาจมีสารคัดหลั่งสะสมปนเปื้อนอยู่ภายในแอ่งน้ำ และการรักษาระยะห่างจากการเล่นน้ำอาจจะไม่สามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึง ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นในการรับหรือแพร่กระจายเชื้อ รวมถึงน้ำตกของอุทยานแห่งชาติเอราวัณเป็นแหล่งน้ำที่นำมาใช้อุปโภคและบริโภคภายในอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการสะสมและการแพร่กระจายเชื้อให้กับนักท่องเที่ยวที่มาค้างพักแรมและเจ้าหน้าที่พักอาศัยซึ่งใช้น้ำจากน้ำตกได้ และที่นี่รับนักท่องเที่ยวได้ 520 คน/วัน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR
