ตั้งแต่เริ่มต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา เริ่มมีสายการบินที่กลับมาให้บริการเส้นทางการบินในประเทศแล้ว ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะยังคงมีการขอความร่วมมือให้อยู่บ้าน และงดเดินทางข้ามจังหวัด รวมถึงมีประกาศเคอร์ฟิวในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. แต่หากว่าใครมีความจะเป็นจะต้องเดินทางโดยสารเครื่องบิน ก็ต้องมีการเตรียมตัวก่อนเดินทางที่มากกว่าในช่วงเวลาปกติ
เช็คข้อมูลของจังหวัดที่จะเดินทางไปเนื่องจากแต่ละจังหวัดมีการประกาศ/คำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางแตกต่างกัน บางจังหวัดไม่มีเงื่อนไขในการเดินทางเข้า-ออก และไม่มีมาตรการปิดจังหวัด บางจังหวัดต้องยื่นเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพก่อนเข้าพื้นที่จังหวัด บางจังหวัดเมื่อเดินทางเข้าไปแล้วต้องกักตัวในสถานที่ที่กำหนดเป็นเวลา 14 วัน ข้อมูลของแต่ละจังหวัดเหล่านี้ต้องตรวจสอบก่อนเดินทาง จะได้ไม่มีปัญหาเมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง
เช็คข้อมูลประกาศของจังหวัดที่ต้องกักตัว 14 วัน (อัพเดต 1 พ.ค. 63) คลิก https://mgronline.com/travel/detail/9630000046267
ตรวจสอบเส้นทางการบินและข้อมูลสนามบินถึงแม้ว่าจะมีสายการบินที่กลับมาเปิดบินในประเทศแล้ว แต่ก็มีบริการไม่ครบทุกเส้นทาง และในแต่ละวันก็มีเพียงไม่กี่เที่ยวบิน รวมถึงตารางการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควรตรวจสอบโดยตรงกับทางสายการบินที่จะเดินทางด้วย
ส่วนข้อมูลสนามบินที่ให้บริการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ประกาศให้ท่าอากาศยานเปิดให้อากาศยานขึ้นลงได้เฉพาะระหว่างเวลา 07.00-19.00 น. และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
การเตรียมตัวในวันเดินทางเมื่อถึงวันเดินทาง แนะนำให้มาถึงสนามบินก่อนเวลาบินประมาณ 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากต้องผ่านขั้นตอนการตรวจที่มากกว่าปกติ เริ่มตั้งแต่ก่อนเข้าอาคารสนามบิน จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิ หากมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าหรือเท่ากับ 37.3 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้พักรอและทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง ซึ่งหากยังตรวจพบอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าค่าที่กำหนดจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าในอาคาร ซึ่งในกรณีที่เป็นผู้โดยสาร ทางสนามบินจะประสานงานกับสายการบินที่จะเดินทาง รวมถึงเจ้าหน้าที่แพทย์ เพื่อประเมินอาการและพิจารณาว่าจะอนุญาตให้เดินทางหรือไม่
สำหรับผู้โดยสารที่เดินทาง จะถูกตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายอีกครั้งบริเวณประตูก่อนขึ้นเครื่อง และก่อนถึงจุดหมายปลายทาง โดยหากมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าหรือเท่ากับ 37.3 องศาเซลเซียส ทางสายการบินอาจปฏิเสธไม่ให้เดินทางในเที่ยวบินนั้นได้
เมื่ออยู่ในสนามบิน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing เว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ทั้งการยืนเข้าแถว และบริเวณที่นั่งพักคอย โดยจะมีเครื่องหมายแสดงตำแหน่งติดไว้ในพื้นที่ต่างๆ
เตรียมตัวเช็คอินและสัมภาระทางสายการบินแนะนำให้เช็คอินล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือเช็คอินผ่านตู้คีออส เพื่อลดการสัมผัสระหว่างบุคคล
สามารถโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้ตามปกติ (เงื่อนไขตามที่สายการบินกำหนด) ส่วนการนำสัมภาระขึ้นเครื่องควรตรวจสอบล่วงหน้า โดยสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ อนุญาตให้นำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น ขนาดไม่เกิน 30x40x20 เซ็นติเมตร โดยมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ส่วนสายการบินไทยแอร์เอเชีย อนุญาตให้นำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ชิ้น เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าคอมพิวเตอร์ ขนาดไม่เกิน 40x30x10 เซ็นติเมตร และมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ตามเงื่อนไขที่ทางสายการบินกำหนด
ของเหลวสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร เจลล้างมือสามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 350 มิลลิลิตร แต่ต้องมีปริมาณรวมกับของเหลวอื่นๆ ไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร
มาตรการป้องกันโรคระหว่างการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายอีกครั้ง เมื่อผ่านขึ้นเครื่องแล้วต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ดังนั้น ผู้โดยสารจำเป็นจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาตั้งแต่เดินทางเข้าสนามบิน เวลาที่อยู่ในสนามบิน ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน ไปจนถึงสนามบินปลายทางและเดินทางออกจากสนามบินปลายทาง
ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยแต่ละสายการบินจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ให้สำหรับผู้โดยสาร ตั้งแต่เช็คอิน พื้นที่ในรถบัส สะพานเทียบอากาศยาน รวมถึงการจัดที่นั่งเส้นระยะห่างบนเครื่องบิน
งดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มระหว่างเที่ยวบิน รวมถึงไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มมารับประทานบนเครื่อง
ต้องกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์มด้านสุขภาพ ซึ่งจะแจกให้ผู้โดยสารก่อนเดินทางที่ประตูขึ้นเครื่องในแต่ละเที่ยวบิน หรือแจกให้ก่อนจะเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง
ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการป้องกันโรคที่จะต้องเจอหากจะต้องโดยสารเครื่องบินในยุคโควิด-19 ระบาด ผู้ที่จะเดินทางต้องเตรียมตัวล่วงหน้ามากกว่าปกติ และตอนนี้ยังอยู่ในช่วงที่ขอให้งดการเดินทางระหว่างจังหวัด ฉะนั้นควรงดหรือเลื่อนการเดินทางด้วยยานพาหนะต่างๆ ออกไปก่อน แต่หากจำเป็นจะต้องเดินทางจริงๆ ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้วิกฤติโควิด-19 ผ่านไปโดยเร็วที่สุด
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR