MGR Online - สายการบินเอมิเรสต์เป็นสายการบินแรกในโลกที่ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีตรวจเร็ว รู้ผลภายใน 10 นาที กับผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง เริ่มจากเที่ยวบินระหว่างดูไบ-ตูนีเซียเมื่อ 15 เม.ย.
วานนี้ (15 เม.ย.) สายการบินเอมิเรตส์ได้ออกแถลงการณ์ และเผยแพร่คลิปวิดีโอ ระบุว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ สายการบินเอมิเรสต์เป็นสายการบินแรกที่ดำเนินการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีตรวจเร็ว หรือ Rapid Test โดยดำเนินการเป็นครั้งแรกในกลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางจากดูไบ ไปยังประเทศตูนีเซียในช่วงเช้าวานนี้
"เอมิเรตส์เป็นสายการบินแรกที่ดำเนินการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธีตรวจเร็วให้กับผู้โดยสาร โดยผู้โดยสารบนเที่ยวบินไปยังตูนีเซียวันนี้ถูกตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทางจากดูไบ โดยสายการบินเอมิเรสต์ดำเนินการตรวจเชื้อร่วมกับหน่วยงานด้านสาธาณสุขของดูไบ (Dubai Health Authority) ณ อาคารผู้โดยสารหมายเลข 3 ของสนามบินนานาชาติดูไบ โดยการตรวจใช้เวลาเพียง 10 นาที"
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขของไทยโดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า ชุดตรวจ Rapid Test คือ “การตรวจหาภูมิคุ้มกัน” เมื่อร่างกายได้รับเชื้อเข้าไป จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรค ซึ่งจะใช้เวลาหลังจากรับเชื้อประมาณ 5 - 7 วัน ฉะนั้นการตรวจ Rapid Test จะได้ผลเป็นบวกหรือลบ ต้องตรวจหลังรับเชื้อ 5 -10 วันขึ้นไป กว่าจะรู้ผลยืนยันว่าติดเชื้อหรือไม่ต้องใช้เวลากว่า 10 วัน ที่สำคัญหากไปตรวจหลังเสี่ยงรับเชื้อวันที่ 1 หรือ 3 เมื่อได้ผลเป็นลบก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าติดเชื้อหรือไม่ ดังนั้น การตรวจด้วยอุปกรณ์นี้ช่วงเวลาการตรวจจึงมีความสำคัญ ส่วนที่เร็วคือขั้นตอนการตรวจใช้เวลาแค่ 5 นาทีเสร็จ แต่ในแง่ของการวินิจฉัยโรคถือว่าช้า จึงกล่าวได้ว่า “เร็วตอนตรวจแต่วินิจฉัยโรคได้ช้า”
ทั้งนี้วิธีการตรวจที่ใช้เป็นมาตรการทางการแพทย์ทั่วโลก รวมถึงในไทยใช้อยู่ที่ได้ผลดีที่สุด และองค์การอนามัยโลกแนะนำ คือ วิธีตรวจหาเชื้อไวรัสโดยตรง โดยวิธีการตรวจที่ไวที่สุดคือ “การตรวจสารพันธุกรรม” (RT PCR) (อ้างอิง : ข้อจำกัดชุดตรวจ ‘โควิด-19’ Rapid Test “เร็วตอนตรวจแต่วินิจฉัยโรคได้ช้า”)