MGR ONLINE--ไต้หวันภายใต้การนำของประธานาธิบดีหญิงเหล็ก ไช่ อิงเหวินเพิ่งได้รับคำชมล้นหลามในการจัดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เยี่ยมยอด แต่ไม่กี่วันมานี้จำนวนผู้ติดเชื้อฯกลับดีดตัวสูงขึ้นโดยเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามายังดินแดน ซึ่งไม่ต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง ที่กำลังผจญภัยความเสี่ยงการระบาดระลอกใหม่จากกรณีติดเชื้อนำเข้า
คณะกรรมาธิการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดไต้หวันแถลง(1 เม.ย.) พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย ทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้เดินทางต่างประเทศ ได้แก่ ผู้เดินทางจากสหรัฐอเมริกา 6 คน และจากอังกฤษ 1 คน และข่าวดีของไต้หวันในวันนี้คือ ไม่มีผู้ติดเชื้อฯภายในท้องถิ่น
กระทรวงคมนาคมไต้หวันประกาศเมื่อคืนวานนี้(31 มี.ค.) นับจากวันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ผู้โดยสารระบบขนส่งมวลชนรวมทั้งผู้ใช้ถนนทางหลวง จะต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สำหรับผู้โดยสารที่วัดอุณหภูมิสองครั้งแล้วตัวเลขเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ให้กลับบ้านไปพักผ่อนหรือไปพบแพทย์ นอกจากนี้ผู้โดยสารรถสาธารณะทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยจึงสามารถเข้าไปยังสถานีรถประจำทาง ขึ้นรถ หรือเข้าไปยังศูนย์บริการขนส่งมวลชน
ชาวเน็ตโกรธ “ในหัวกะโหลกในหัวกะโหลกมีแต่ X หรือยังไง?”
ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันในไต้หวันสูงขึ้นกว่าสิบรายและพุ่งสูงในวานนี้(31 มี.ค.) โดยพบผู้ติดเชื้อฯรายใหม่ 16 ราย ในจำนวนนี้ 14 รายเป็นกรณีติดเชื้อมาจากต่างประเทศ และที่เหลืออีก 2 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในท้องถิ่น ดันจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของไต้หวัน เท่ากับ 322 ราย
กลุ่มชาวเน็ตในไต้หวันดูรายงานแถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ทะยานสูงขึ้นจากเมื่อวันอาทิตย์(29 มี.ค.) ถึงกับเกิดอาการโกรธเกรี้ยวเมื่อพบว่ากลุ่มผู้ติดเชื้อฯรายใหม่ 15 คน ได้เดินทางไปต่างประเทศในช่วงก่อนหน้านี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี โมนาโค ตูนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ในจำนวนนี้ 6 คนเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับบ้าน โดยพวกเขาได้เดินทางออกจากไต้หวันช่วงต้นเดือนมี.ค.
ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ขรม อาทิ “ทำไมมีคนเดินทางไปต่างประเทศมากมายในช่วงเดือนมี.ค.”
“ในเดือนก.พ.ยังพอเข้าใจได้ แต่กระทั่งช่วงวันที่ 7 มี.ค. วันที่ 10 มี.ค.ยังมีคนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกัน ในหัวกะโหลกพวกนั้นเป็นอะไรหรือ มีแต่ X หรือยังไง”
“เอาชีวิตไปสังเวยให้กับการไปเที่ยว”
“รักเที่ยวรักสนุกจนทำร้ายคนอื่น ทำร้ายประเทศชาติ”
นอกจากนี้กลุ่มชาวเน็ตเรียกร้องให้รัฐบาลให้บทเรียนแก่คนที่ไม่รับผิดชอบกลุ่มนี้โดย “ให้พวกเขาออกค่าใช้จ่ายสำหรับการกักกันดูอาการ อย่าได้เอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายให้พวกนี้แม้แต่สตางค์เดียว”
“โกรธ...โกรธจนตัวสั่น! ทำไมถึงมีคนเห็นแก่ตัวอย่างนี้”
ทั้งนี้ในวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดแห่งไต้หวันประกาศเตือนการเดินทางไปยังเขตต่างๆทั่วโลก “ระดับ 3” อันหมายถึงถ้าไม่จำเป็นอย่าออกนอกประเทศ สำหรับกลุ่มที่เดินทางกลับประเทศให้ “กักตัวอยู่บ้าน” 14 วัน ผู้ฝ่าฝืนกฎฯจะโดนโทษปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือราว 1.091 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มคนที่เจ้าหน้าที่ให้ “ควบคุมตัวเองอยู่บ้าน” มีจำนวนไม่น้อยและได้สร้างภาระงานให้แก่หน่วยงานต่างๆของรัฐมาก นายกเทศมนตรีนครไทเป นาย เคอเหวินเจ๋อกล่าวเมื่อวันที่ 30 มี.ค. “นิวยอร์กอันตรายกว่าอู่ฮั่นมาก” และเรียกร้องรัฐบาล “อย่าปล่อยให้ผู้เดินทางจากต่างแดนเข้ามาอีก” พร้อมแนะนำมาตรฐานการกักตัวให้เป็นมาตรเดียวกันหมด
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันในไต้หวันระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค.
2020-3-31: ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยืนยัน 16, เคสเดินทางมาจากต่างประเทศ 14, เคสติดเชื้อในท้องถิ่น 2, ยอดติดเชื้อสะสม 322
2020-3-30: ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยืนยัน 8, เคสเดินทางมาจากต่างประเทศ: 7, เคสติดเชื้อในท้องถิ่น 1 , ยอดติดเชื้อสะสม 306
*ชาวไต้หวันที่อาศัยในอู่ฮั่น 153 คน กลับไต้หวัน ทั้งหมดถูกกักตัวดูอาการ
2020-3-29: ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยืนยัน 15, เคสเดินทางมาจากต่างประเทศ: 14, เคสติดเชื้อในท้องถิ่น 1 , ยอดติดเชื้อสะสม 298
